"สุพัฒนพงษ์" แจง ปมเตามหาเศรษฐี คิดถึงคนชนบทไม่ได้ให้มาใช้แทนก๊าซหุงต้ม
23 มิ.ย. 2565 16:07 น.
รมว.พลังงาน แจงสภา กระทรวงพลังงานแนะให้ใช้เตามหาเศรษฐีเพราะคิดถึงคนชนบท ไม่ได้นำมาทดแทนก๊าซหุงต้ม ส่วน ปตท.โชว์ผลกำไร ได้ขอความร่วมมือเรื่องค่าการตลาดไปแล้ว ยันรัฐประคองค่าครองชีพปชช.
วันที่ 23 มิ.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามเรื่องวิกฤติพลังงานและน้ำมัน ที่เดือดร้อนไม่เฉพาะแค่ประชาชนทั่วไปแต่ลามไปถึงเกษตรกร ที่เหมือนรัฐบาลบริหารไปตามยถากรรม โดยได้ถามถึงการพยุงราคาน้ำมันอย่างไรและทำให้ราคาไม่ขึ้น
จากนั้นนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ทุกคนเข้าใจว่าเรื่องราคาน้ำมันเป็นปัจจัยภายนอกและเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยชี้แจงว่าสถานการณ์พลังงานในตลาดโลกแย่ลงกว่าเดิม กว่าที่เคยชี้แจงไปครั้งที่แล้ว แต่ปริมาณความต้องการมากขึ้นตลอดเวลา อีกทั้งกำลังผลิตของโรงกลั่นได้ขาดหายไป ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปราคาขยับไปเป็นเงาตามตัว ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 180 เหรียญต่อบาร์เรล จาก 110 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันสูงถึง 90% ซึ่งรัฐบาลก็พยายามประคับประคองไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพต่อประชาชน
โดยราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไทยอยู่ที่ 34 บาท/ลิตร ขณะที่ต่างประเทศโดยเฉพาะชาติในอาเซียนแพงกว่าไทย โดยรัฐบาลเห็นความสำคัญต่อประชาชนโดยเฉพาะคนตัวเล็ก เกษตรกร รวมถึงยังต้องรักษาภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เดินต่อไปได้ ซึ่งหลายสถาบันยังให้ความมั่นใจต่อไทยในเรื่องเสถียรภาพด้านการเงินการคลัง

นายครูมานิตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามต่อ ถึงเรื่องกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ที่นำไปมอบให้รัฐบาลบริหารประเทศ เหตุใดไม่เรียกคืนมาเพื่อทำให้ราคาน้ำมันถูกลง รวมถึงกรณีที่ ปตท. โชว์เรื่องผลกำไร เหตุใดไม่นำเงินดังกล่าวกลับมาช่วยประชาชนในยามวิกฤติเช่นนี้ และเหตุใดไม่นำวิธีทางการทูตมาเจรจากับประเทศที่ผลิตน้ำมัน แทนการแนะนำให้ใช้เตาอั้งโล่ และถ่าน


นายสุพัฒนพงษ์ ได้ชี้แจงว่า เรื่องเงินกองทุนฯ ได้ส่งคืนเข้าคลัง เป็นไปตาม พ.ร.บ.กองทุนหมุนเวียน ที่กำหนดไว้ เพื่อนำไปใช้เป็นงบประมาณแผ่นดิน อีกทั้งกระทรวงการคลังยังลดภาษีสรรพามิตของน้ำมันดีเซล จาก 3 บาท เพิ่มเป็น 5 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนดังกล่าว ส่วนกำไรเรื่อง ปตท. ทางรัฐบาลถือหุ้น 62% โดยเป็นเรื่องของกระทรวงการคลังไม่ใช่กระทรวงพลังงาน โดยเรื่องกำไรที่เหมือนเยอะ ได้กันมาเป็นเงินปันผลนำมาใช้ในกระทรวงการคลังตามหุ้นที่ถือ และ ปตท. ยังต้องกันกำไรมาลงทุน ซึ่งรัฐบาลได้ขอความร่วมมือเรื่องค่าการตลาดไปแล้ว
ตอนนี้จึงอยากให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่วยกันได้ ส่วนเรื่องการแนะนำให้ใช้เตาอั้งโล่ หรือเตามหาเศรษฐี เป็นการสื่อสารของคนชุมชนเมือง แต่กระทรวงพลังงานนำมาเผยแพร่ซ้ำ เพราะวิถีชนบทยังมีการใช้งานอยู่จำนวนมาก ไม่ได้หมายความว่านำมาทดแทนก๊าซหุงต้ม
"ทางกระทรวงพลังานเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชน ที่ยังใช้เตาประเภทยังใช้เชื้อเพลิง ที่ยังเป็นถ่านอยู่ ยังมีอยู่มากในสังคมชนบท ที่เข้าถึงแก๊สหุงต้มไม่เต็มที่มากนัก ตรงนี้มีการอนุรักษ์พลังงาน เตาที่มีคุณภาพ เขามาเผยแพร่ซ้ำให้ป็นประโยชน์ คงไม่ได้หมายความว่าจะมาทดแทนการใช้แก๊สหุงต้ม" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
