ผู้ว่าฯ สัญจรครั้งแรก “ชัชชาติ” ประเดิมเขตคลองเตย เน้นความโปร่งใส เพิ่มประสิทธิภาพบริการ ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง บอกอย่าไปเครียด หลังบางเขตเครียดตอบสนองประชาชนไม่ทันใจ

วันที่ 19 มิ.ย. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เปิดเผยภายหลังชมศูนย์การเรียนรู้บริหารจัดการขยะครบวงจร เขตคลองเตย ว่า วันนี้เป็นครั้งแรกของการตรวจเยี่ยมการทำงานของสำนักงานเขตในรูปแบบสัญจร ตั้งใจมาเยี่ยมผู้ร่วมงานว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร เขตมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลืออะไร ยุทธศาสตร์ของเขตติดปัญหาอะไร ต้องการให้ผู้ว่าฯ สนับสนุนด้านไหนบ้าง ซึ่งจะสัญจรทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เช้า แต่หากมีเวลาจะไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะก่อน พูดคุยกับคนในสวน ปลูกต้นไม้ ดูกิจกรรมต่างๆ ปัญหาในพื้นที่ จากนั้นจะเข้ามาที่สำนักงานเขตเพื่อหารือปัญหาเร่งด่วน อาทิ การจราจร รถติด น้ำท่วม ขยะ ชุมชน ปัญหาที่ประชาชนร้องเรียน และเรื่องต่างๆ ที่ค้างอยู่ จากนั้นช่วงบ่ายจะลงพื้นที่ชุมชนจุดที่มีปัญหา

“ที่สัญจรวันอาทิตย์เพราะไม่อยากรบกวนเวลาในวันปกติ ข้าราชการต้องบริการประชาชน และวันอาทิตย์ประชาชนจะอยู่บ้าน หากลงพื้นที่วันธรรมดาประชาชนต้องไปทำงาน ก็จะไม่เจอใคร เขตคลองเตยรวมปัญหาหลายๆ เรื่องเข้าด้วยกัน เรามีชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดใน กทม. มีปัญหาขยะจากตลาดคลองเตย น้ำเสียคลองหัวลำโพง รถติดหน้าตลาด ห้าแยก ณ ระนอง ปัญหาคุณภาพโรงเรียนซึ่งอยู่ในชุมชนแออัด ปัญหากรุงเทพฯ มันเยอะแต่มันซ้ำกัน ถ้าทำให้สำเร็จ 1 เรื่องจะขยายไปที่เขตอื่นได้ ดังนั้น คลองเตยเป็นต้นแบบ ถ้าเราทำคลองเตยให้สำเร็จ เอารูปแบบไปขยายผลที่อื่นได้ สามารถทำชุมชนแออัดให้ดี ชีวิตดี ลานกีฬามีคุณภาพ น้ำเสียขยะในตลาดทำให้ดี ลดการก่อสร้าง ทำให้มีความรวดเร็วมากขึ้น สุดท้ายนำไปขยายผลได้จริงๆ”

...

สำหรับการรับเรื่องร้องเรียนผ่านทราฟฟี่ฟองดูว์ (Taffy Fondue) ขณะนี้มีประชาชนแจ้งมาประมาณ 20,000 กว่าเรื่อง แก้ไขไปได้ 3,000 กว่าเรื่อง ใน 20,000 มีบางเรื่องที่ กทม. ทำโดยตรงไม่ได้เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น โดยเรื่องที่ กทม. รับผิดชอบโดยตรงต้องรีบทำ อันไหนไม่ใช่ต้องรีบประสานหน่วยงาน ในส่วนของเขตคลองเตย ประชาชนแจ้งมา 900 กว่าเรื่อง รับไปแล้ว 600 กว่าเรื่อง แก้ไขเสร็จ 142 เรื่อง

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า “ถือว่าเป็นมิติที่ดีในการเปลี่ยนการให้บริการแบบท่อที่ต้องสั่งการต่อๆ กัน มาเป็นการให้ประชาชนแจ้งปัญหาเข้าไปในแพลตฟอร์ม โดยผู้ว่าฯ กทม. ไม่ต้องสั่ง เขตมารับเรื่องไปทำเลย ลดปัญหาได้เยอะ ถือว่าเป็นมิติใหม่และไม่ได้ใช้เงิน ประชาชนตรวจสอบได้ ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น พลิกรูปแบบการให้บริการ หลายๆ คนชอบ บอกคนบอกว่าแจ้งเช้า บ่ายได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ก็มีบางคนบอกว่าแจ้งแล้วยังไม่แก้ เดี๋ยวเรามาดูว่าเขตมีปัญหาอะไร พยายามบอกคนทำงานว่าอย่าไปเครียด คือบางเขตเครียดตอบสนองประชาชนได้ไม่ทันใจ ก็ค่อยๆ แก้ไขปัญหากันไป”

ผู้ว่าฯ กทม. ระบุต่อไปว่า สำหรับปัญหาเรื่องใหม่ที่เจอคือเรื่องเด็กเช็ดกระจก ขายของ ขายพวงมาลัยที่สี่แยก ได้รับการร้องเรียนค่อนข้างมากที่บริเวณแยกอโศก แยกคลองเตย ต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทั้งตำรวจ กทม. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถ้าไปจับเขาก็หนี ดังนั้นต้องมีระบบที่ละเอียดอ่อน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะสะท้อนปัญหาอื่นๆ ด้วย เช่น ปัญหาคนไร้บ้าน ปัญหาเด็ก ซึ่งมีต้นตอมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ต้องแก้ที่ภาพรวม

พร้อมกันนี้ นายชัชชาติ ยังบอกด้วยว่า ห้ามบอกว่าเราไม่เกี่ยวข้อง ต้องบอกว่าเราจะเร่งประสานงานหน่วยงานอื่นให้ กทม. ต้องเกี่ยวข้องทุกเรื่อง ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ เราพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นรูปแบบที่เพิ่งเริ่มได้อาทิตย์เดียว แต่หวังว่าจะตอบโจทย์ได้ดีขึ้น ส่วนแนวปฏิบัติข้าราชการเน้นความโปร่งใส ประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ดูแลประชาชนโดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง (People Centric) หันหลังให้ผู้ว่าฯ หันหน้าให้ประชาชน โดยผู้ว่าฯ จะคอยเป็น back up สนับสนุนทุกเรื่อง.