"LGBTQ+ภาคีสีรุ้ง" มีเฮ! สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และ พ.ร.บ.คู่ชีวิต รวม 4 ฉบับ ด้าน "ธณิกานต์" เผย สภารับหลักการทั้งหมด เชื่อ นำไปสู่สมรสเท่าเทียม ชี้ เป็นเรื่องดี
วันที่ 15 มิ.ย. 65 ที่รัฐสภา แยกเกียกกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสภาผู้แทนราษฎรผ่าน ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ฉลุย รวม 4 ฉบับแล้ว
1. ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลแพ่งและพาณิชย์ เสนอโดยพรรคก้าวไกล สภาฯ มีมติรับหลักการ ด้วยคะแนนเสียง รับหลักการ 210 ไม่รับหลักการ 180 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 4
2. ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เสนอโดย ครม. สภาฯ มีมติรับหลักการ ด้วยคะแนนรับหลักการ 229 ไม่รับหลักการ 166 งดออกเสียง 6 ไม่ลงคะแนน 2
...
3. ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลแพ่งและพาณิชย์ เสนอโดย ครม. สภาฯ มีมติรับหลักการ 230 ไม่รับหลักการ 168 งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนน 1
4. ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ สภาฯ มีมติรับหลักการ 251 ไม่รับหลักการ 123 งดออกเสียง 30 ไม่ลงคะแนน 2
ทั้งนี้ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำไปสู่การสมรสเท่าเทียม 4 ฉบับ ในวาระแรก ขั้นรับหลักการ คือ
ซึ่งขั้นตอนต่อไป คือ การพิจารณาศึกษาร่างกฎหมายฯ รายมาตราโดยละเอียดในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร โดยตนเองได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากเป็นผู้ผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมทางกฎหมายแก่คนทุกเพศ ในประเด็นการก่อตั้งครอบครัว การสมรสเท่าเทียม ที่คำนึงถึงสิทธิและหน้าที่ รวมถึงสวัสดิการจากรัฐและให้เกิดสังคมที่ยุติการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง เด็ก และผู้มีความหลากหลายทางเพศ
น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า การออกกฎหมายใหม่ หรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกฎหมายเดิม มีขั้นตอนมีกระบวนการ ข้อจำกัดต่างๆ ตามวิธีการบัญญัติกฎหมาย ที่ต้องคำนึงถึงผลที่จะเกิดแก่ชีวิตของคนทุกคนในสังคม การให้ทุกฝ่ายพิจารณามีมติเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลงจึงอาจต้องอาศัยเวลา
"การผ่านร่างกฎหมายในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงผลงานของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่ร่วมกัน ในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมที่ได้เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ ดีใจที่ได้เห็นความคืบหน้าในเรื่องของความเท่าเทียมกันในสังคมยุคใหม่ที่เล็งเห็นความสำคัญ เข้าใจ และยอมรับในความสวยงามของแตกต่างหลากหลายในสังคมไทย" น.ส.ธณิกานต์ กล่าวทิ้งท้าย.