“ธรรมนัส” อุบนั่งแคนดิเดตนายกฯ พรรคเศรษฐกิจไทย ชี้ ภารกิจแรก ปักธงเลือกตั้งซ่อม เขต 4 ลำปาง รับคุย "มิ่งขวัญ" แต่ท่านมีอุดมการณ์ของท่าน เผย เตรียมย้ายใช้รังเก่า พปชร.เป็นที่ทำการพรรค บอก ฮวงจุ้ยดี
วันที่ 10 มิ.ย. ที่โรงแรมรอยัล ริเวอร์ กทม. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย นำคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2/2565 และได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคว่า
สำหรับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนเดิม แต่มีการเพิ่มเติม ส.ส.เข้ามาบางส่วน รวมถึงนายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี และ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินที่จะเข้ามารับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ภารกิจแรก คือ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ซึ่งพรรคส่ง นายวัฒนา สิทธิวัง ที่โดนใบเหลือง ลงเลือกตั้งอีกครั้งในฐานะแชมป์เก่า และครั้งนี้จับได้เบอร์ 3 ซึ่งได้แสดงความเป็นห่วง เกี่ยวกับการแสดงสัญลักษณ์เบอร์ 3 เพราะต้องการทำให้เกิดความปรองดองในสังคมเป็นที่ตั้ง ซึ่งการหาเสียงครั้งนี้อาจจะแสดงสัญลักษณ์ "ผมรักคุณ" หรือการ "ชูนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการไปข้างหน้าด้วยกัน เพราะใช้บ่อยในช่วงปราศรัยหาเสียง และตลอดเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่ผมเป็นรัฐมนตรี ได้ทำอะไรให้กับชาวลำปาง เขต 4 ไว้เยอะพอสมควร เป็นที่ชัดเจนว่า เราเน้นประโยชน์ประชาชนโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ผลงานประจักษ์ชัดเจน เชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำของผม เศรษฐกิจไทย สามารถชนะใจชาวลำปาง เขต 4 ทั้ง 5 อำเภอได้
...

เมื่อถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส ที่เป็นหัวหน้า จะแตกต่างจากเดิมอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีเพียงแค่การเปลี่ยนหัวหน้าจาก พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มาเป็นตน ส่วนเลขาธิการพรรค ก็เปลี่ยนจากตนเป็น นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ส่วนที่เหลือเหมือนเดิม ดังนั้น อุดมการณ์กำหนดชัดเจนอย่างที่แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ ว่า หลักของเราคือเราอยู่ข้างประชาชน สิ่งไหนทำแล้วเกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน เราสนับสนุน แต่สิ่งไหนทำแล้วเกิดความเสียหายกับประชาชน เราคัดค้านทุกกรณี ได้ประกาศกับสมาชิกพรรคไปแล้ว จากนี้เราจะมีความเป็นเอกภาพในการทำงาน อะไรก็ตามที่ทำเพื่อชาติและประชาชน ก็จะมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ สิ่งที่ต้องคิดและต้องทำให้ได้คือ การทำงาน เพื่อให้ ส.ส.สมัยนี้ต้องกลับมาเป็น ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าให้ได้ ส่วนแนวทางการทำงานที่เหลือเป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรค และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคที่จะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ ว่า ตนมีความมั่นใจว่า ภายใต้การนำของตน รวมถึงกรรมการบริหารพรรคหลายคน ได้ทาบทามผู้ที่มีองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจ การเงินการคลัง แล้วรับปากกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ยังยืนเหมือนเดิมว่าจะเดินไปด้วยกัน แม้ว่าบางท่านจะเดินไปในทิศทางของท่านไปแล้ว แต่ก็ยังมีหลายท่านมีอุดมการณ์ร่วมกัน ที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ตัดสินใจไม่มาร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเป็นผู้คุยกับนายมิ่งขวัญเยอะที่สุด ท่านมีอุดมการณ์ของท่าน และท่านอยากทำการเมืองของท่านเอง เราก็เคารพในการตัดสินใจ ไม่ได้หมายความว่า เราแยกกันเดิน แต่การเมืองเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังมีอีกมากที่เราจะต้องเดินด้วยกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทย จะเลือกใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “เดี๋ยวค่อยว่ากัน ยังยืนยันว่า ต้องเคมีตรงกัน” เมื่อถามย้ำว่า ร.อ.ธรรมนัส จะนั่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเอง หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “ผมกราบเรียนเลยว่า ผมมีคนในใจของผม แต่ผมจะต้องคุยกับกรรมการบริหารพรรคก่อน”
เมื่อถามย้ำอีกว่า จะไม่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเองใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบกลับทันทีว่า “ผมไม่พูดเวลานี้ดีกว่า คำพูด คือ นายคน พูดแล้วทำไม่ได้ เดี๋ยวเสียคน”

เมื่อถามต่อว่า หากพรรคเศรษฐกิจไทยมีทิศทางตรงกันที่ต้องการให้ ร.อ.ธรรมนัส เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะตอบรับใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “การเป็นผู้นำประเทศมีหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยสำคัญสุด คือ เราทำได้หรือไม่ ทำไม่ได้อย่าคิดไปเป็น จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า เป็นเรื่องพรรคอื่น ไม่อาจแสดงความเห็นได้ เราต้องพูดในนามเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังเปิดเผยด้วยว่า พรรคเศรษฐกิจไทย เตรียมย้ายที่ทำการพรรคจากอาคารยูทาวเวอร์ ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง ไปยังอาคารปานศรี ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคเดิมของพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากที่อาคารยูทาวเวอร์ ระยะทางไกล และรถติด ทั้งนี้ ที่อาคารปานศรี เป็นที่เก่าของเขา แต่เป็นที่ใหม่ของเรา ตอนนี้กำลังตกแต่งอยู่ กำลังขนเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าไป และถือว่า มีฮวงจุ้ยที่ดี เพราะได้ ส.ส.ถึง 120 คน ไม่อยากย้ายไปอยู่แถวหน้าศาล เพราะเดี๋ยวต้องขึ้นศาลบ่อย และมีอุบัติเหตุบ่อย แต่ที่อาคารยูทาวเวอร์ ก็ยังอยู่ โดยจะใช้ในการประชุมใหญ่ๆ

ขณะที่ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร กล่าวภายหลังได้รับเลือกเป็นเลขาธิการ ว่า ขอบคุณหัวหน้าและสมาชิกพรรค ที่ให้โอกาสมาทำงานตรงนี้ ส่วนตัวไม่รู้สึกกดดัน เพราะเราสู้กันมาตลอด ยืนยันจุดเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็ทำงานกันต่อไป จึงไม่ได้หนักใจอะไร รวมถึงการประสานงานพรรคอื่น ก็ทำอยู่แล้ว จากนี้ก็ทำต่อ