รัฐบาลผลักดันท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง นายกฯ มอบ ก.คลัง พิจารณาจัดงบหนุนมาตรการกระตุ้น ขณะเดือน ก.ค.นี้ มีหยุดราชการกรณีพิเศษอีก 2 วัน ได้หยุดยาว 5 วันกลางเดือน และ 4 วันปลายเดือน
วันที่ 9 มิ.ย. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการผลักดันการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของการท่องเที่ยว ทั้งส่วนของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศ ส่วนของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ นายกรัฐมนตรีมอบหมายกระทรวงการคลังให้พิจารณาจัดงบประมาณสนับสนุนตามความเหมาะสม จัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายงบประมาณกับการดูแลประชาชนในโครงการอื่นๆ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมีกิจกรรมเพื่อสร้างความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้คนไทยเที่ยวในประเทศ ลดการออกไปเที่ยวต่างประเทศ ช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวและดูแลไม่ให้เงินไหลออกจากประเทศด้วย โดยล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน จัดกิจกรรมตามแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” มีกลยุทธ์แบบพุ่งเป้าสร้างความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ, เทรนดี้ C2 ภาคกลาง, สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก, หลงรักแผ่นดินอีสาน และหรอยแรงแหล่งใต้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อไปว่า จากที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ต่อเนื่อง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2564 ได้อนุมัติวันหยุดราชการปี 2565 เพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่
- วันศุกร์ที่ 15 ก.ค. 2565
- วันศุกร์ที่ 29 ก.ค. 2565
- วันศุกร์ที่ 14 ต.ค. 2565
- วันศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 2565
...
ทั้งนี้ เพื่อให้มีวันหยุดยาวเชื่อมโยงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
“นายกรัฐมนตรีย้ำกับทุกหน่วยงานว่า การผลักดันฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวต้องให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้สู่เมืองรอง ผลักดันการท่องเที่ยวชุมชน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อให้ความเข้มแข็งเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับฐานรากของเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้ ปี 2565 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวทั่วประเทศในปีนี้ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 6.56 แสนล้านบาท โดยเป็นการเดินทางท่องเที่ยวและรายได้ที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ 26.69 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 2.03 แสนล้านบาท
- ภาคกลาง 19.02 คน-ครั้ง รายได้ 2.98 หมื่นล้านบาท
- ภาคตะวันตก 23.86 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 6.11 หมื่นล้านบาท
- ภาคตะวันออก 17.99 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 8.74 หมื่นล้านบาท
- ภาคใต้ 22.14 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 1.05 แสนล้านบาท
- ภาคเหนือ 20.66 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.10 แสนล้านบาท
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 26.62 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 5.88 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับวันหยุดราชการกรณีพิเศษ 15 ก.ค. จะเป็นการหยุดต่อเนื่องจากวันอาสาฬหบูชา ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 13 ก.ค. และวันเข้าพรรษา 14 ก.ค. ทำให้ได้หยุดยาว 5 วัน ส่วนวันหยุดพิเศษ 29 ก.ค. ต่อเนื่องจาก 28 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทำให้ได้หยุดรวม 4 วัน
นอกจากนี้ วันหยุดพิเศษ 14 ต.ค. เป็นวันหยุดต่อเนื่องจาก 13 ต.ค. วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 รวมหยุด 4 วัน และวันหยุดพิเศษ 30 ธ.ค. เป็นการให้หยุดก่อนวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค. นั่นเอง