"ชัชชาติ" เปิดงาน Pride Month 2022 หนุน กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ชี้ สังคมไทย ต้องไปให้ไกลกว่าเรื่องเพศ กำชับให้อนามัย กทม.ดู โรคฝีดาษลิง ชี้ ต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน
วันที่ 4 มิ.ย. 65 ที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร (Bacc) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. นายภิมุข สินะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. และ นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ร่วมงาน Pride Month 2022 ที่จัดขึ้นระหว่างเดือน มิ.ย.-3 ก.ค. 65 โดยเป็นนิทรรศกาลศิลปะเพื่อเฉลิมฉลอง Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจในความหลากหลายทางเพศ บอกเล่าถึงที่มาที่ไปของต้นกำเนิด Pride Month และขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ
นายชัชชาติ กล่าวว่า จริงๆ งานนี้เป็นหนึ่งในนโยบายที่ได้ประกาศไว้ ว่าจะมี 12 เทศกาล อย่างเดือนนี้ก็เป็น Pride Month ถามว่า ทำไมต้องเป็น Pride Month เป็นเทศกาลที่จัดทั่วโลกเพื่อระลึกถึงความหลากหลายทางเพศ เกิดจากเหตุการณ์จลาจลในนิวยอร์ก ปี 1969 ในบาร์ของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับความหลากหลายทางความคิดในเรื่องอื่นๆ ด้วย ทาง กทม. ก็พร้อมจะเข้าใจและใส่ใจพลเมืองของเรา พี่น้องเราที่มีความหลากหลายทางเพศ นอกเหนือจากนี้ในแง่ของการให้บริการ และการปฏิบัติ กทม. มีจุดยืนที่ชัดเจนว่า เราจะไม่เลือกปฏิบัติ เราจะดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เราจะดูแลพนักงานของเราอย่างเท่าเทียม และเข้าใจประชาชนที่มาใช้บริหารของเราด้วย
...
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า มีแผนที่จะขยายบริการทางสาธารณสุข จะมีการให้การปรึกษาทางจิตวิทยา หรือแม้กระทั่งการให้ฮอร์โมน
“ผมเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจและใส่ใจเพื่อนเราที่มีความแตกต่างมากขึ้น ผมคิดว่าคำว่า Pride Month อย่าไปคิดแค่ความต่างทางเพศ มันรวมไปถึงความหลากหลายทางความคิด ทางการเมือง ความแตกต่างทางความเห็น เราต้องอยู่ร่วมกันได้ แตกต่างกันได้ เป็นสิ่งที่สวยงาม แต่อย่าทะเลาะ อย่าเกลียดชังกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันสุดท้ายทุกคนจะเดินไปด้วยกันได้ Pride Month ส่วนตัวผมคิดว่า มันคือความภูมิใจในระบอบประชาธิปไตยด้วย ประชาชนเป็นใหญ่ ดังนั้น คำว่าประชาธิปไตยมันต้องยอมรับความหลากหลายได้ ในแง่ของเราที่พูดมาตลอดคือการชุมนุมของผู้ที่มีความแตกต่างทางการเมือง กทม.ต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ว่าเราจะดูแลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ เราต้องดูแลพื้นฐาน ห้องน้ำ ความปลอดภัย การสาธารณสุขต่างๆ ให้พร้อม แต่ในเรื่องความมั่นคงเป็นส่วนของกฎหมายที่ต้องดูแล” นายชัชชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการกังวลของโรคฝีดาษลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน Bangkok Pride Month นายชัชชาติ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราแจ้งทางสำนักอนามัยให้ลงไปดู และให้ดำเนินการอย่างเข้มข้น และได้ประสานงานกับผู้จัดแล้วว่าจะต้องมีมาตรการอย่างไร และได้เน้นย้ำกับผู้จัดให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ผมว่าสุดท้ายมันต้องสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกัน ถ้าเราอนุมัติให้จัดงานได้ ผู้จัดก็ต้องทำอย่างเหมาะสม เพราะไม่เช่นนั้น คราวหน้าก็จะไม่ไว้ใจกัน เพราะสุดท้ายแล้วภาครัฐ และภาคประชาชนต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่างงานพรุ่งนี้ ก็จะมีสำนักอนามัยมาดูแล เรื่องโรคติดต่อฝีดาษลิง เราต้องเฝ้าระวังและหาข้อมูลเพิ่มเติม.