"รองนายกฯ อนุทิน" รับเปิดสถานบันเทิง อาจทำติดเชื้อพุ่ง ชี้ ฉีดวัคซีนช่วยสกัดได้ ย้ำ ผู้ประกอบการคัดกรองเข้ม หากไม่ฉีดวัคซีน ห้ามเข้า ผุด อาจฉีดเข็มกระตุ้นทุกปี จนกว่าจะนิ่ง
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ กรณีที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิง หลังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ผ่อนคลายให้เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์แล้ว ยอมรับว่าเป็นห่วง เนื่องจากแต่ละสถานที่มีความเสี่ยงเยอะเพราะใช้เสียงเต็มที่ ยอมรับว่าอาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ทุกร้านที่มาขออนุญาตเปิดให้บริการ 300 กว่าแห่งในกรุงเทพฯ ได้แจ้งเรื่องการดำเนินการป้องกันแล้ว
"สิ่งสำคัญคือขอให้ฉีดวัคซีนให้เยอะๆ 3-4 เข็มยิ่งดี ก่อนที่จะไปเที่ยว เพราะต่อให้ติดเชื้อก็ไม่เป็นไร จะไม่มีอาการหนักหรือเสียชีวิต หากทำความเข้าใจได้และคนไปเที่ยวฉีดวัคซีน ติดเชื้อไม่ต้องกินยาก็หาย แต่ถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีน เข้าไปเที่ยวไม่ได้ เพราะหากเจ้าหน้าที่จับได้ ถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้นแต่ละร้านต้องคัดกรองและต้องประเมินให้ดี ใช้ความระมัดระวัง ถ้าเข้าใจได้ตามนี้ก็จะได้เดินหน้าต่อไป
แต่การจะไปหยุดหรือล็อกก็คงไม่ใช่เรื่อง มาถึงขนาดนี้แล้ว ขอให้ฉีดวัคซีนให้เยอะ เวลานี้เราฉีดไปได้ถึง 140 ล้านโดสแล้ว อย่าไปกลัว ไม่มีอันตรายแน่นอน หากจะใช้ชีวิตให้เป็นปกติมากที่สุดต้องฉีดวัคซีน คนที่ฉีดเข็ม 3 เลย 3 เดือนมาแล้ว ก็ขอให้ไปฉีดเข็ม 4 ส่วนคนที่ฉีดเข็ม 4 แล้วก็ให้ไปฉีดเข็ม 5 ซึ่งต่อไปอาจต้องฉีดกระตุ้นทุกปี จนกว่าจะนิ่ง"
...
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้หากพบติดเชื้อ จะกลับมาใช้มาตรการเข้มข้นขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าว ถ้าทุกคนฉีดวัคซีนหมดแล้วติดเชื้อ จะไม่เป็นไร กินยาฟาวิพิราเวียร์ หรือฟ้าทะลายโจรได้ บางคนติดเชื้อ 3-4 วันก็หายแล้ว ไม่ต่างจากโรคอื่นที่เคยเป็น จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นที่เราคุ้นเคย เช่น ไข้เลือดออก หรือเป็นไข้หวัดชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ที่เห็นชัดคือคนที่ฉีดวัคซีนพบติดเชื้อและเสียชีวิตน้อยลง อาจจะมีหลุดที่ติดเชื้อมาบ้าง แต่เตียงโรงพยาบาลมีพร้อม
เมื่อถามว่าจะใช้เวลากี่วันประเมินตัวเลข หลังให้เปิดสถานบันเทิง นายอนุทิน กล่าวว่า วงรอบการติดเชื้อประมาณ 3-5 วัน ถ้ามีการติดเชื้อเพิ่มมาเป็นหมื่นๆ คน แสดงว่าเป็นไปตามที่ประเมินว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่ต้องดูคนที่ป่วยหนักด้วย ถ้าจำนวนไม่เพิ่ม และคนที่เสียชีวิตอยู่ในข่าย 608 เท่ากับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เดินหน้าต่อไปได้