ผู้ว่าฯ กทม. ยันเร่งสางปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวเดินหน้าเคลียร์หนี้ กทม. ตั้งเป้าลดค่าโดยสาร และเล็งเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ย้ำชัดเจนภายใน 1 เดือน ทั้งสัญญาจ้างเดินรถ-ต่อสัมปทาน

วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังร่วมหารือบริษัทกรุงเทพธนาคมนานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อดูรายละเอียดสัญญาการเดินรถและสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมถึงการนำสายสื่อสารลงดิน โดยระบุว่าในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 1 เดือน ซึ่งการหารือกับกรุงเทพธนาคมวันนี้ ทำให้ได้เห็นสัญญาการเดินรถที่จะสิ้นสุดในปี 2585 ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดภาระหนี้สิน จึงต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบว่าภาระหนี้สินเกิดจากอะไรและสัญญาได้รับการอนุมัติจากสภากทม.หรือไม่ ซึ่งขออย่าเอาหนี้สินมาเป็นตัวเร่งรัดการตัดสินใจระยะยาว แม้ว่าจะมีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

ทั้งนี้หากมีความจำเป็นกทม.ยังมีข้อบัญญัติในการกู้เงินที่จะนำมาชำระหนี้สินได้ โดยเป็นข้อบัญญัติที่ต้องผ่านสภากทม.ก่อน และเป็นการกู้เงินจากรัฐจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเอกชนกู้ ซึ่งย้ำว่าต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบก่อน

ส่วนการขยายสัญญาสัมปทานที่จะหมดในปี 2572 นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ยังไม่ได้มีการหารือเพราะยังมีส่วนที่เกี่ยวข้อง สำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร หรือ สจส. และสภากทม. เข้ามาพูดคุยกันข้อมูลและทบทวนการต่ออายุสัญญาโดยให้สภากทม.ดูเนื้อหาอย่างละเอียดตามแนวทางปฏิบัติ เพราะสัญญาเดิมที่ค้างอยู่ใน ครม. ขณะนี้ เกิดขึ้นจากการพิจารณาของคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นโดยใช้ ม.44 ทั้งนี้หากศึกษารายละเอียดเชื่อว่าจะมีจุดที่ทำให้สัญญาถูกลงได้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีการใช้ พ.ร.บ.ร่วมทุน เข้ามาแข่งขัน ส่วนจะทำราคาค่าโดยสารถูกลง อยู่ที่ 25 บาทจะเป็นไปได้หรือไม่ นายชัชชาติระบุว่า เป็นเป้าหมายที่ตั้งใจจะทำ และมีความเป็นไปได้ แต่ยอมรับว่าก็มีปัจจัยอื่นที่ควบคู่ไปด้วยเช่นโครงสร้างหนี้พื้นฐานที่จะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงกำไรและขาดทุน พร้อมมองว่าอีกหนึ่งแนวทางที่จะลดภาระหนี้สิน คืออาจจะเริ่มเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายทั้งสองส่วน เพราะปัจจุบันการให้บริการฟรีอาจจะไม่สมเหตุสมผล และส่งผลกระทบต่ออาชีพการให้บริการรถขนส่งสาธารณะที่จะขาดรายได้ ทั้งนี้ ต้องดูความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับประชาชนและเอกชนด้วย

...

นายชัชชาติระบุต่อว่าหลังจากได้ข้อสรุปจะต้องรายงานต่อ พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยจะรับสรุปข้อมูลเพื่อเข้าหารือให้เร็วที่สุดและคงยังไม่เข้าไปรายงานที่ประชุมครม. และย้ำว่า สิ่งที่กทม.อยากทำมากที่สุด คือ การเร่งคืนหนี้สินให้รัฐบาลให้เร็วที่สุดและอยากขอให้ กทม. มาดูแลเรื่องการเดินรถเองเพราะถือเป็นสมบัติของเมือง

ส่วนเรื่องการหารือในประเด็นสายสื่อสารลงดินนั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ยังไม่มีความคืบหน้าเพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องรายได้และผู้เข้ามาดำเนินการ ที่มีสัญญาจ้าง 4 ฉบับ กรอบวงเงิน 19,000 ล้านบาท เพราะเป็นรูปแบบที่ไม่เจออะไรหน้างาน จึงต้องเข้าไปศึกษารายละเอียดข้อมูล เพราะถือเป็นสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นความก้าวหน้าและจะต้องไม่เป็นภาระของผู้บริโภคเพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ