"พิเชษฐ" นำพรรคเล็ก กลุ่ม 16 คุย "ธรรมนัส" ผลหารือกั๊กลงมติ ร่างงบฯ ปี 66 อ้างเสียงแตก ขอรอฟัง 2 ฝ่ายอภิปรายให้จบก่อน “ธรรมนัส” ย้ำ "กลุ่ม 16-พรรคเศรษฐกิจไทย" ต้องไปทางเดียวกัน

วันที่ 1 มิ.ย. 65 ที่ห้อง 503 ชั้น 5 รัฐสภา กลุ่ม 16 นำโดยนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกลุ่ม 16 นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย ได้หารือเพื่อกำหนดท่าที การโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 66

โดยก่อนหารือ นายพิเชษฐ ได้เข้าไปพูดคุย กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ห้องของพรรคประชาธิปไตยใหม่ ใกล้ห้องประชุมกลุ่ม 16 และให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่ม 16 ต้องฟังการอภิปรายให้จบก่อนทั้ง 2 ฝ่ายที่จะลงมติ ฟังฝ่ายค้านอภิปรายจัดงบฯ ไม่สอดคล้องและเสียหายอย่างไร รัฐบาลจะชี้แจงในเรื่องที่ถูกติติงมา และมีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจัดทำงบฯ แบบนี้ ด้วยยุทธศาสตร์อะไร การไปพูดก่อนว่า จะโหวตให้อย่างไร มันไม่ใช่หน้าที่ผู้แทนราษฎร ตนจึงต้องเรียก ส.ส.ในกลุ่ม 16 มาพูดคุยเพื่อให้ทุกคนฟังการอภิปรายให้จบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ไม่ใช่มาถึงลงมติเลย เพราะกลุ่ม 16 ต้องการทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่แต่อวยรัฐบาล

...

เมื่อถามว่า ก่อนลงมติต้องคุยกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.พรรคพลังประชารัฐ ก่อนหรือไม่ นายพิเชษฐกล่าวว่า ไม่เกี่ยว นายสุชาติ ไม่ได้มาบังคับว่าให้ลงมติอย่างไร ส่วน ร.อ.ธรรมนัส เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ เขาก็ฟังเรา ซึ่งร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ต้องการฟังการอภิปรายก่อน เพราะถ้ามีมติเลยไม่จำเป็นต้องพิจารณาหรอก ให้ผ่านไปเลย ส่วนกลุ่ม 16 จะลงมติอย่างไรต้องคุยกันก่อน ยังมีเวลาวันที่ 2 มิ.ย.อีกวัน

เมื่อถามถึงกรณีเข้าพบนายกฯ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. นายพิเชษฐ กล่าวว่า นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม อยากนั่ง กมธ.ในโควตากลุ่ม 16 เพราะเป็น ส.ส.มา 3 ปีแล้ว ไม่เคยเป็น กมธ.เลย ปีนี้เป็นปีสุดท้ายจึงอยากเข้าร่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายพิเชษฐ ได้เข้าไปพูดคุย ส.ส.พรรคเล็ก กลุ่ม 16 โดยนายคฑาเทพ ได้แสดงความไม่เห็นด้วย ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เสียงของพรรคการเมืองขนาดเล็กนั้นเสียงแตก คิดเห็นไปคนละทาง แต่ภายในวันที่ 2 มิ.ย. ก่อน 18.00 น. จะต้องมาหารือร่วมกันเพื่อที่จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนตัวมองว่า จากการชี้แจงของรัฐบาลในการพิจารณากฎหมายงบประมาณ ตอบคำถามฝ่ายค้านไม่ค่อยได้ ทั้งเรื่องการซื้ออาวุธ ราคาของแพง จากการชี้แจงเชื่อว่า ประชาชนคงไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไร ในส่วนของเสียงโหวตเท่าที่ประเมินเบื้องต้นมี ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ประมาณ 477 เสียง ซึ่งการโหวตรับต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งประมาณ 239 เสียงขึ้นไป เมื่อไปดูเสียงฝ่ายค้านแล้วตอนนี้มี 206 หากได้เสียงจาก กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส 18 เสียง เสียงไม่รับร่างจะเกินทันที เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่รู้ท่าทีของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ว่า จะโหวตอย่างไร เช่นเดียวกับพรรคเล็กที่ต้องไปหารือกันอีกครั้งให้ตกผลึก

จากนั้น เวลา 15.30 น. นายพิเชษฐ และคณะ ได้เดินมาพบกับ ร.อ.ธรรมนัส อีกห้องใช้เวลาพูดคุยประมาณ 10 นาที โดย ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่า เป็นการหารือทิศทางภาพรวมการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 66 ให้ตนมาช่วยรับฟังคำหารือว่า มีทิศทางอย่างไร เนื่องจากหลายคนมีความสับสนว่าจะตัดสินใจอย่างไรในการโหวต จึงมีข้อสรุปกันว่าขอให้ฟังการอภิปรายในสภาให้จบก่อน และช่วงค่ำวันนี้คงหารือกันอีกรอบ

เมื่อถามว่าแนวทางการลงมติยังไม่ชัดเจนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เดิมมีการให้ข่าวว่า จะรับหลักการ แต่ตอนนี้เสียงแตก จึงให้ทิศทางว่า ต้องหารือกันว่าจะทำอะไร จะรับหลักการหรือไม่รับหลักการ ต้องไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 18 เสียงของกลุ่ม 16 และ 18 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเราจับมือกันการทำงานในสภาว่า ให้ไปในทิศทางเดียวกัน จากที่ให้คำปรึกษา จึงได้ข้อสรุปว่า จะทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้ พรรคเศรษฐกิจไทย ระบุว่าจะโหวตผ่านให้รัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอดูสาระสำคัญก่อน ถ้ามีสาระสำคัญที่เกิดประโยชน์กับประชาชน งบประมาณ 3.18 ล้านล้านบาท ก็ผ่าน แต่ถ้ามีประเด็นใดที่ ส.ส.อภิปราย แล้วพบมีความเสียหายกับบ้านเมือง ก็ต้องมานั่งคิด หลักการเรายังเหมือนเดิม และที่ผ่านมา 2 วัน ยังไม่มีประเด็นใดที่ทำให้รู้สึกเกิดความเสียหาย แต่วันนี้และวันที่ 2 มิ.ย.จะมีประเด็นสำคัญ สมาชิกของพรรคเศรษฐกิจไทย จะขึ้นอภิปราย 7 คน ส่วนตนจะเกริ่นนำก่อน แต่ต้องดูเวลาที่ได้จัดสรรอีกที เพราะไม่อยากไปแย่งเวลาสมาชิก และอยากอภิปรายในประเด็นที่เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามกลุ่ม 16 ไปพบทั้งนายกฯ และร.อ.ธรรมนัส และถูกวิจารณ์ว่ามีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่ และที่กลุ่ม 16 มาคุยกับตน เป็นการมาสรุปให้ฟังว่า เขายึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนที่ไปพบกับนายกฯ เป็นเรื่องอื่น มาถามว่า จะการันตีแทนพี่น้องกลุ่ม 16 ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ครับ”

เมื่อถามว่า จะโหวตไปในทิศทางเดียวกันใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราคุยกันมาตลอดว่า จะจับมือเดินไปด้วย และสมาชิกกลุ่ม 16 หลายคน จะมาลงเลือกตั้งกับพรรคเศรษฐกิจไทย ในครั้งหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคเล็กไปคุยกับฝั่งรัฐบาลถือเป็นสิทธิ์ ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้ให้แนวทางว่า ต้องไปรับฟังอย่าปิดกั้น ต้องรับฟังทุกฝ่ายทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รวมถึงเศรษฐกิจไทย ก็ต้องฟังและท้ายที่สุดก็อยู่ที่พวกเรา ว่าจะสรุปอย่างไร

เมื่อถามว่า พรรคร่วมฯ ระบุว่า อยากให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พูดคุยกับกลุ่ม 16 ด้วยตัวเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็คุยอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทยได้โควตาสัดส่วนกรรมาธิการงบประมาณ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปีที่แล้วพรรคพลังประชารัฐ ได้โควตา 13 ที่นั่ง ครั้งนี้ได้ 10 ที่นั่ง ดังนั้นพรรคเศรษฐกิจไทย ควรได้ 3 ที่นั่ง

เมื่อถามว่า ในใจของ ร.อ.ธรรมนัส คนเดียวจะโหวตให้ผ่านหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เดี๋ยวก่อน เราไม่ใช่ตัวคนเดียว เรามีภาระต้องดูแลคนอีกหลายชีวิต ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ เมื่อถามย้ำว่า การตัดสินใจของ ร.อ.ธรรมนัส จะมีน้ำหนักต่อบุคคลอื่นด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องฟังความคิดเห็นแล้วสรุปไปในทางเดียวกัน

เมื่อถามว่า ช่วงนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ช่วงนี้ไม่ได้คุยเลย เมื่อถามว่า ยังรักกันเหมือนเดิมใช่ไหม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า รัก เคารพ เหมือนเดิม แต่เรื่องการเมืองอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ว่า ในทางการเมืองขอตัดสินใจเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองก็ต้องเป็นเรื่องของพรรค ซึ่ง พล.อ.ประวิตร เข้ามาแทรกแซงไม่ได้.