ประชุมสภาฯ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. 65 รัฐบาลชวนประชาชนติดตามการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้าน แก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า หวัง ส.ส. เสนอ-ติติงอย่างสร้างสรรค์
วันที่ 29 พ.ค. 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. 2565 ว่า ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะได้ชี้แจงถึงความจำเป็นและแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย แผนงานโครงการตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และแก้ไขปัญหาสืบเนื่องจากความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในช่วงหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งครอบคลุมด้านความมั่นคง การสร้างความสามารถทางการแข่งขัน การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ วงเงินงบประมาณรวม 3.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 78.2% และรายจ่ายลงทุน 21.8%
สำหรับการดำเนินการของปี 2566 รัฐบาลกำหนดแผนงาน/โครงการที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า งบประมาณรวม 2.7 แสนล้านบาท เกี่ยวข้อง 14 กระทรวง 265 โครงการ มีเป้าหมายคนจนในประเทศไทยลดลงอย่างยั่งยืน แบ่งเป็น 5 ด้าน โดยตัวอย่างของแต่ละด้าน มีเป้าหมายดังนี้
1. ด้านรายได้ งบประมาณ 1.73 แสนล้านบาท อาทิ การช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาความยากลำบาก ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.4 ล้านคน คนพิการไม่น้อยกว่า 2.09 ล้านคน เด็กเล็ก 2.58 ล้านคน ผู้ป่วยเอดส์ 8.8 แสนคน ลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร เพิ่มพื้นที่ชลประทานแก่เกษตรกร เป็นต้น
2. ด้านการศึกษา งบประมาณ 1.81 หมื่นล้านบาท อาทิ การสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ 2.62 ล้านคน ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 6.6 แสนคน เป็นต้น
3. ด้านสุขภาพ งบประมาณ 7.01 หมื่นล้านบาท อาทิ การดูแลค่ารักษาผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 13.45 ล้านคน ยกระดับคุณภาพมาตรฐานสถานพยาบาล 494 แห่ง
4. ด้านความเป็นอยู่ งบประมาณ 7.16 พันล้านบาท อาทิ จัดที่ดินทำกินแก่ประชาชนที่ยากจน ขยายการเข้าถึงน้ำประปาเพิ่ม 2 แสนครัวเรือน ส่งเสริมโอกาสให้คนจนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
5. ด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ 2.16 พันล้านบาท อาทิ คุ้มครองผู้ประสบภัยทางสังคม แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ สนับสนุนการจัดสวัสดิการชุมชนผ่านกองทุนสวัสดิการชุมชน
นอกจากนี้ นางสาวรัชดา ยังกล่าวเชิญชวนประชาชนติดตามการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 เพื่อจะได้ทราบแนวทางการบริหารประเทศของรัฐบาล รวมทั้งโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ เป็นโอกาสการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการตรวจสอบของภาคประชาชน อีกทั้งงบประมาณรายจ่ายนี้เป็นงบที่ใช้ดูแลคนไทยทั้งประเทศภายใต้ปัจจัยความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้
...
“รัฐบาลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การติติงและข้อเสนอจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การใช้งบประมาณอันจะทำให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดของบ้านเมือง”