"ธันย์ชนน" ผู้สมัครส.ก. เขตดุสิต ห่วงเด็กยากจนเมืองกรุงหลุดจากระบบการศึกษา ส่งต่อความจนข้ามรุ่น วอนภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 65 นายธันย์ชนน ศรีอัษฎาวุธกุล ผู้สมัคร ส.ก.เขตดุสิต เบอร์ 2 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากข้อมูลของกองทุนเสมอภาคเพื่อการศึกษา (กสศ.) ทำให้เห็นสถานการณ์ที่น่ากังวลต่อความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในกรุงเทพมหานคร และที่น่าหนักใจกว่านั้นคือ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที กลุ่มเด็กยากจนและยากจนพิเศษอาจต้องหลุดออกจากการศึกษาถาวร ถือเป็นการเสียโอกาสในอนาคตและจะเป็นการส่งต่อความยากจนข้ามรุ่น ในภาพใหญ่ยังเป็นการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเมือง
ทั้งนี้ ข้อมูลระบุว่า แม้มีนโยบายเรียนฟรีทั่วประเทศ 15 ปี แต่ผู้ปกครองกลับยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นที่ต้องจ่ายจริงอีกถึงร้อยละ 60 เพราะกระทรวงอนุญาตให้โรงเรียนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือเงินสนับสนุนการศึกษาอื่นๆ ได้ ขณะนี้ เด็กกรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายทางการศึกษาเฉลี่ย 37,257 บาทต่อคนต่อปี เทียบกับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาเฉลี่ยของทั้งประเทศอยู่ที่ 17,832 บาทต่อคนต่อปี พูดง่ายๆ ก็คือเป็นภาระที่สูงกว่าถึง 2 เท่าตัว ขณะที่ข้อมูลความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงทรัพยากรทางการศึกษา ชี้ว่า ค่าต้นทุนทางการศึกษาของครอบครัวที่รายได้น้อยแทบจะเป็นรายจ่ายหลักในครัวเรือน และครัวเรือนยากจนจะต้องแบกรับรายจ่ายด้านการศึกษาเมื่อเทียบกับรายได้ สูงกว่าครัวเรือนที่ร่ำรวยถึง 4 เท่าตัว
"ครอบครัวที่มีรายได้น้อยยิ่งมีรายได้น้อยลงอีกเมื่อเจอสถานการณ์โควิด แต่รายจ่ายสูงขึ้นสวนทางเมื่อเจอสถานการณ์วิกฤติรัสเซียยูเครนซ้อนเข้ามา เท่าที่สังเกต นอกจากคำสั่งให้เปิดเทอมตามปกติในวันที่ 17 พ.ค.นี้ เนื่องจากวิกฤติทางสาธารณสุขเริ่มคลี่คลายแล้ว ปรากฏว่ามาตรการความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาวิกฤติทางเศรษฐกิจยังไม่มีออกมาเลย ท่านต้องตระหนักว่า ขณะนี้มีอีกหลายครอบครัวเป็นครอบครัวยากจนและยากจนพิเศษที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนจำนวนมากทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่รายจ่ายด้านการศึกษาสูงกว่าพื้นที่อื่นถึง 2 เท่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากไม่มีความช่วยเหลือพิเศษออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะต้องมีเด็กอีกจำนวนมากต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาถาวรไปอย่างน่าเสียดาย และจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำในกรุงเทพฯ ให้ถ่างกว้างขึ้น"
...
นายธันย์ชนน ยังเรียกร้องว่า รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการช่วยเหลือสถานการณ์เฉพาะหน้า เช่น หากยังต้องการให้สวมเครื่องแบบไม่ว่าชุดอะไรก็ต้องฟรีทั้งหมด หรือยกเลิกเครื่องแบบบางชนิดที่เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายแล้วอนุโลมให้สวมใส่ชุดไปรเวตทำกิจกรรมแทนได้ มีงบประมาณช่วยเหลือด้านอาหารกลางวัน รวมถึงมีการช่วยเหลือฟื้นฟูเด็กจากภาวะการเรียนรู้ถดถอยเนื่องจากต้องหยุดเรียนในโรงเรียนไปเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ในหลายด้าน นอกจากนี้ จะต้องเร่งคัดกรองหากลุ่มเปราะบางเพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือและป้องกันการเด็กหลุดออกจากระบบให้ได้โดยเร็วที่สุด.