“สกลธี ภัททิยกุล” ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2565 แจง “ลุงกำนัน” เชียร์เพราะเอ็นดู จ่อเปิดหน้าผู้สมัคร ส.ก. ที่สนับสนุนในวันปราศรัยใหญ่ 20 พ.ค.นี้
วันที่ 16 พ.ค. 2565 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) แบบอิสระ ลงพื้นที่ตลาดเอี่ยมสมบัติ เขตสวนหลวง ก่อนจะกล่าวถึงบรรยากาศการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. 2565 โดยคิดว่าได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว พยายามหาเสียงในทุกช่องทาง ทั้งการลงพื้นที่เพื่อพบปะกับประชาชนโดยตรง พูดคุย รับรู้ปัญหา และสำรวจพื้นที่ว่าตรงไหนที่จะพัฒนาเพิ่มเติมได้อีก รวมถึงการใช้ช่องทางการหาเสียงอื่นๆ ทั้งสื่อออนไลน์ สื่อโซเชียลต่างๆ หรือการขึ้นเวทีดีเบต เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงคนทุกกลุ่ม กระแสตอบรับดี
พร้อมยอมรับว่าการหาเสียงในยุคนี้วิธีการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการโจมตีกันทางสื่อโซเชียล การสร้างเฟกนิวส์ หรือการใช้ไอโอเข้ามาดิสเครดิต ส่วนตัวมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่เสื่อมเสีย จะมีประเด็นที่ถูกนำมาใช้ก็เพียงเรื่องที่เคยเป็นแกนนำ กปปส. ซึ่งไม่เคยปิดบัง ยังยึดมั่นในอุดมการณ์และไม่ได้กังวล
ส่วนกรณีที่มีคนดังเข้ามาประกาศสนับสนุนรวมถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. มีผลต่อคะแนนนิยมหรือไม่นั้น นายสกลธี เผยว่า นายสุเทพ เปรียบเสมือนอาจารย์ของตนตั้งแต่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ และเอ็นดูมาตั้งแต่ต้นซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่เอ็นดูจะเป็นเรื่องที่แปลก ทั้งนี้ กระแสมีทั้งกลุ่มสนับสนุนและไม่สนับสนุนก็ถือเป็นเรื่องปกติเช่นกัน ขณะที่กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ออกมาสนับสนุนก็รู้สึกขอบคุณ และยอมรับว่ามีส่วนที่จะโน้มน้าวให้คนมาเลือกและเป็นจุดเปลี่ยนได้
...
“ความรู้สึกตอนนี้คือถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็สนุกมากที่ได้พบกับพี่น้องประชาชนอีกครั้ง จำได้ว่าการเดินหาเสียงครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 54 เป็นสิบปีแล้ว เหนื่อยหน่อยแต่ก็รู้สึกดี เมื่อก่อนผมก็เดินหาเสียงเฉยๆ เป็น ส.ส. เหมือนเป็นลูกทีมของพรรค แต่ตอนนี้เรามาเป็นหัวเอง นับจากวันนั้นก็เดินมาไกลพอสมควร หวังว่าคนกรุงเทพฯ จะให้โอกาสอีกครั้งหนึ่ง”
นายสกลธี กล่าวต่อไปว่า วันนี้ยังมีผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในพื้นที่ที่เคยคุ้นเคยและเคยทำงานร่วมกันมาเดินหาเสียงด้วย ซึ่งในการลงพื้นที่แต่ละแห่ง จะมี ส.ก. เพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยทำงานร่วมกัน รวมถึง ส.ก.กลุ่มอื่นๆ ที่มาสนับสนุนและมาหาเสียงร่วมกันด้วย ในฐานะที่ลงสมัครในนามอิสระ จึงคิดว่าไม่ได้มีข้อกำหนดของพรรคมาทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำงาน ผู้สมัคร ส.ก. หลายคนที่พรรคต้นสังกัดไม่ได้ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็เปิดโอกาสให้ ส.ก. ตัดสินใจได้เองว่าจะสนับสนุนใคร โดยในวันที่ 20 พ.ค. ที่จะมีการปราศรัยใหญ่ กลุ่ม ส.ก. ที่สนับสนุนก็จะไปร่วมด้วย
“หลายคนอาจจะถามว่า ทำไมสกลธีไม่ลงสมัครในนามพรรคไปเลย ต้องบอกตรงๆ ว่าทุกคนไม่ได้ช่วยผม มีเพียงบางคนที่ยังคงช่วยผม เพราะเท่าที่ทราบมาพรรคที่ไม่ได้ส่งผู้ว่าฯ เขาให้อิสระผู้สมัคร ส.ก. ในการสนับสนุน ส่วนใครที่สนับสนุนผมก็จะเปิดกันเลยในวันที่ 20 พ.ค.นี้”
สำหรับประเด็นผู้สมัครอิสระจะสามารถทำงานได้ราบรื่นกว่าผู้ที่มาจากพรรคการเมืองหรือไม่นั้น นายสกลธี มองว่า หากผู้ว่าฯ กทม. มาพร้อมกับ ส.ก. เมื่อเสนอโครงการมาก็คงจะผ่านให้หมด แต่หากตนเป็นผู้ว่าฯ แม้จะไม่มี ส.ก.สักคน ถ้าสิ่งที่ตนทำเป็นประโยชน์ต่อชาวกรุงเทพฯ คงไม่มี ส.ก.คนไหน พรรคไหนกล้าขวาง จะมี ส.ก. มาด้วยหรือไม่จึงไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ต้องมีทีมงานที่มีอิสระ มีความสามารถมากกว่า ในทางกลับกันหากเป็นผู้ว่าฯ หรือ มี ส.ก.ในนามพรรค ส่งคนที่ไม่เหมาะกับงาน เอาแค่คนที่เป็นโควตาของพรรคมานั่ง แบบนั้นก็ไม่เอาเหมือนกัน.
