“อัศวิน” ปราศรัยต่อเนื่องช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2565 ก่อนปราศรัยใหญ่ 20 พ.ค.นี้ แจง “ถาวร เสนเนียม” สนับสนุนเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน ไม่เกี่ยวกับ กปปส.

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 พ.ค. 2565 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ปราศรัยพื้นที่กรุงเทพเหนือ 6 เขต คือ เขตบางเขน เขตหลักสี่ เขตบางซื่อ เขตสายไหม เขตดอนเมือง และเขตลาดพร้าว รวมถึงมีการสลับสับเปลี่ยนให้ผู้สมัคร ส.ก. กลุ่มรักษ์กรุงเทพ ขึ้นปราศรัยโชว์วิสัยทัศน์ชูนโยบายเรียกคะแนนในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัย และวันนี้ถือเป็นการจัดต่อเนื่องวันที่ 3 แล้ว

พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยว่า วันนี้เป็นการตอกย้ำการพูดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาแล้ว ขอสานต่อ และกล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายเน้นการปราศรัยใหญ่ตามโซนใหญ่ใน กทม. เพื่อให้คนในชุมชนเข้าถึงนโยบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการจัดอย่างต่อเนื่องอีก 4 ครั้ง ก่อนปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 พ.ค. ที่ลานคนเมือง พร้อมมองว่าการปราศรัยเข้าถึงคนเมืองมากกว่าการไปพูดตามเวทีดีเบต และก่อนหน้านี้ก็เคยไปร่วมเวทีดีเบตกับหลายสื่อมากกว่า 10 ครั้ง ในช่วงโค้งสุดท้ายจึงปฏิเสธเข้าร่วม เพราะโปรแกรมการหาเสียงกำหนดไว้ก่อนหน้าแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้รังเกียจการดีเบต แต่อยากใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่ามากที่สุด

...

ส่วนกรณีที่มีบางเพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความถ้าจะนับหนึ่งที่ กทม. หยุดแลนด์สไลด์ให้เลือกเบอร์ 6 นั้น พล.ต.อ.อัศวิน ยืนยันว่าไม่รู้ เพิ่งทราบจากสื่อ และหลังจบเวทีปราศรัยจะขอไปตรวจสอบ ตนเองทำงานอิสระไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง แม้ช่วงโค้งสุดท้ายผู้สมัครหลายคนจะถูกสาดโคลนด้วยเกมการเมือง แต่ตนไม่เคยสาดโคลนใส่ใคร ไม่มีพรรคไม่มีพวก ที่ผ่านมาใครจะคิดร้ายก็ไม่โกรธไม่เคือง อาจจะมีงอนนิดหน่อย เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรก็มาว่าอัศวิน

ส่วนเมื่อวานนี้ (14 พ.ค. 2565) ที่ นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำมา กปปส. มาเซอร์ไพรส์บนเวทีปราศรัย ก็มาในฐานะคนรู้จักกัน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ นายถาวร เป็นอัยการ และตนเองเป็นตำรวจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ กปปส. หาก กปปส. จะไปสนับสนุนใครก็เป็นสิทธิของประชาชน แต่ที่เห็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ประกาศสนับสนุน นายสกลธี ภัททิยกุล

สำหรับประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกต เคยปฏิเสธไม่รู้จัก กปปส. แต่เมื่อเปิดตัวนโยบายและกลุ่มรักษ์กรุงเทพกลับมาได้รับการสนับสนุนจาก นายถาวร นั้น พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะความสัมพันธ์ของเพื่อนอย่างไรก็พร้อมรับ และหากได้เป็นผู้ว่าฯ จะคัดเลือกรองผู้ว่าฯ โดยเอาความต้องการของคนใน กทม. เป็นที่ตั้ง ส่วนทีมที่จะมาบริหารจะมีคนหลายกลุ่ม หลากหลายเพศและวัย เป็นการผสมผสานการทำงานเพื่อให้ได้รับการตอบสนองที่ถูกทาง

ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ ผู้สมัคร ส.ก.เขตคลองเตย มีความสนิทและใกล้ชิดกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ จะส่งผลต่อการเลือกตั้งในเขตหรือไม่นั้น พล.ต.อ.อัศวิน เชื่อว่า นายสุชัย จะแยกความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเรื่องงาน และมองว่าเป็นสัมพันธ์ของเพื่อน ไม่เกี่ยวกับการเมือง

จากนั้นเวลา 18.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขึ้นปราศรัยยืนยันว่าชอบทำไม่ชอบพูด แต่หากเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. คุณภาพชีวิตดีขึ้นแน่นอน เพราะได้ทำแล้วในทุกด้าน ทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วมทั่วกรุงไปแล้ว 15 จุด จาก 24 จุด มั่นใจว่าอีก 4 ปี จะไม่เหลือสักจุดเดียว ส่วนเรื่องปัญหารถติด ก็ลงมาอยู่อันดับที่ 74 จากเดิมเป็นอันดับ 2 ของโลก เนื่องจากการทำถนน ทางลอด และจุดตัดต่างๆ และในยุคที่เป็นผู้ว่าฯ ยังได้จัดทำการสัญจรเรือไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่คลองผดุงกรุงเกษม และคลองแสนแสบ รถเมล์พลังงานสะอาด เชื่อมฟีดเดอร์ที่ขณะนี้มีอยู่แล้ว 2 สาย และจะเพิ่มอีก 18 สายในอนาคต

นอกจากนี้ ยังผลักดันยกระดับศูนย์สาธารณสุขเป็นโรงพยาบาลประจำเขต เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชนหลังทำสวนสาธารณะขนาดใหญ่ไปแล้ว 7 แห่ง เช่น สวนเบญจกิติ ที่รองรับประชาชน 4-5 พันคน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะทำเป็นอับดับแรก คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ดึงดูดนักท่องเที่ยวจัดเทศกาลท่องเที่ยวทุก 3 เดือน ก่อนปิดท้ายสโลแกนว่า ปิดจ๊อบความจน เพื่อคนกรุงเทพฯ