“พิเชษฐ” ยอมรับคุย “ทักษิณ” แค่ถามสารทุกข์สุกดิบในฐานะคนคุ้นเคย ตามกัดไม่ปล่อยโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี พรรคเล็กตบเท้าหนุน “บิ๊กตู่” ไปต่อ กมธ.แก้กฎหมายลูกเคาะแล้ว สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ใช้ 100 หาร ให้ไลฟ์สดนับคะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้งได้ เพื่อไทยฟันธงพรรคเล็กหืดจับ “ระวี” ยกธงขาวเลิกยื้อบัตร 2 ใบ “วิษณุ” ชี้ช่องใครยังสงสัยให้ยื่นตีความ ร้อง “เสรีพิศุทธ์” สอบ “ชัชชาติ” เจ้าตัวยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรื่องเก่าปีมะโว้ ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบกลั่นแกล้งหรือเปล่า “ลุงตู่” ถึงอเมริกาแฟนคลับแห่รอรับ สื่อนอกจับตาเกมสหรัฐฯรุกคืบ
เริ่มมองเห็นเค้ารางกฎกติกาการเลือกตั้งในอนาคต หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขกฎหมายลูก 2 ฉบับเกี่ยวกับการเลือกตั้ง มีมติเสียงข้างมากเคาะสูตรวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ใช้วิธีนำคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศมารวมกันแล้วหารด้วย 100
“พิเชษฐ” คุย “ทักษิณ” แค่ถามทุกข์สุข
...
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ มีมติลงโทษไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมพรรค 6 เดือน กรณีไปเคลื่อนไหวร่วมกับฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การกล่าวหาว่าทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับพรรค พปชร. ที่ไปรับประทานอาหารร่วมกับฝ่ายค้านนั้น ไปกินข้าวกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะคนรู้จักกัน เขาโทร.มาชวนไม่ได้เป็นฝ่ายโทร.ไป มีการพูดคุยเรื่องโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี ที่เห็นตรงกันเรื่องความไม่โปร่งใส ไม่ได้วางแผนหารือล้มรัฐบาล ส่วนการโทรศัพท์พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากระหว่างรับประทานอาหาร นายยุทธพงศ์โทรศัพท์หานายทักษิณ เมื่อนายทักษิณทราบว่าตนอยู่ในวง ก็พูดคุยด้วย เป็นการสนทนาพูดคุยถามไถ่ทุกข์สุขปกติตามมารยาท เพราะเคยเป็นรัฐมนตรีในสมัยนายทักษิณเป็นนายกฯ
กัดไม่ปล่อยโครงการท่อส่งน้ำ
นายพิเชษฐกล่าวว่า เรื่องนี้มีพยานที่อยู่ในโต๊ะอาหารเป็นพยานได้ ทั้งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทยนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ สอบถามได้เลยว่าไม่มีการคุยวางแผนเรื่องล้มรัฐบาล การจะล้มรัฐบาลต้องทำในที่ลับ ไม่ทำในที่แจ้งเปิดเผยให้ใครเห็น ยืนยันแม้จะถูกพรรค พปชร.ห้ามทำกิจกรรมยุ่งเกี่ยวกับพรรค 6 เดือน ก็ยังทำหน้าที่ ส.ส.ต่อได้ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 จะเดินหน้าตรวจสอบความโปร่งใสโครงการท่อส่งน้ำอีอีซีต่อไป ไม่ถอยแน่
พรรคเล็กตบเท้าหนุน “ตู่” ไปต่อ
นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวถึงกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรค พปชร. ในฐานะผู้ประสานงานพรรคเล็ก ประกาศอย่างมั่นใจว่าควบคุมเสียงพรรคเล็กโหวตสนับสนุนรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคเล็กตกลงกันแล้วว่าการโหวตจะไปในทิศทางเดียวกัน คือยกมือสนับสนุนนายกฯ ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่พรรคเล็กขอไปตอนร่วมรับประทานอาหาร นายกฯเริ่มทำให้แล้ว ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นต้องดูเป็นรายบุคคล รอฟังการชี้แจงของรัฐมนตรีอีกครั้ง พรรคเล็กจะไม่แตกแถว ส่วนการไปรับประทานอาหารร่วมกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ได้ปฏิเสธถ้าเชิญก็ไป เบื้องต้นนัดคร่าวๆคือวันที่ 23 พ.ค. แต่ยังไม่ทราบสถานที่ ตอบตกลงไปแล้ว คนที่ไปน่าจะมีแค่ตนกับนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้ากลุ่ม16เท่านั้น
“ระวี” อ้างพูดเล่นขอดินเนอร์
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่าตนติดต่อขอร่วมวงรับประทานอาหารเย็นกับพรรคฝ่ายค้าน และพรรคเล็กนั้น ยืนยันไม่จริง แค่พูดล้อเล่นกับนายยุทธพงศ์ ว่าเชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย มาทานข้าวแล้วทำไมไม่เชิญตนบ้าง นายยุทธพงศ์ก็ทราบดีว่าไม่ไปอยู่แล้ว เป็นการคุยเล่นสนุกสนาน ไม่คิดว่านายยุทธพงศ์จะนำไปพูดเป็นข่าว คงเป็นเพียงการเพิ่มสีสันทางการเมืองเท่านั้น
กมธ.เคาะแล้วใช้สูตร 100 หาร
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต่อมานายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษก กมธ.วิสามัญฯ แถลงภายหลังการประชุมว่า สัปดาห์หน้าในวันที่ 18-19 พ.ค. จะประชุม กมธ.นัดสุดท้ายก่อนสรุปเนื้อหาส่งให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา บรรจุร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับเข้าระเบียบวาระ 2-3 คาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือน มิ.ย. ส่วนวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ประชุมลงมติ 32 ต่อ 11 เสียง งดออกเสียง 2 เห็นด้วยกับสูตรใช้วิธีนำคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศมารวมกันแล้วหารด้วย 100 เชื่อว่าหลังจากนี้คงไม่มีใครไปร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะจะทำให้กระบวนการล่าช้าออกไปอีก
ไลฟ์สดนับคะแนนที่หน่วยได้
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังหารือเกี่ยวกับการนับคะแนนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ได้ข้อสรุปว่า ให้เปิดช่องกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้นับคะแนนนอกราชอาณาจักรได้ในประเทศที่มีความพร้อมและส่งเพียงแค่ผลนับคะแนนกลับมาที่ไทย ส่วนหลักฐานอื่นสามารถส่งตามหลังมาได้ ช่วยแก้ปัญหาบัตรเลือกตั้งนำกลับมานับคะแนนที่ไทยไม่ทัน เหมือนการเลือกตั้งปี 2562 ที่บัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์มาไม่ทันจนกลายเป็นบัตรเสีย นอกจากนี้ กมธ.เห็นว่า เพื่อความโปร่งใส ให้ประชาชนสามารถถ่ายภาพ ถ่ายคลิป หรือไลฟ์สดขณะการนับคะแนนได้ แต่ต้องไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่กรรมการประจำหน่วย นอกจากนี้ ยังแก้ไขในกรณีเมื่อแต่ละหน่วยได้ผลคะแนนแล้ว กำหนดให้ กกต.ประจำเขตนำผลคะแนนรายหน่วยประกาศขึ้นเว็บไซต์ กกต.จังหวัดภายใน 72 ชั่วโมงหลังปิดหีบ เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าได้คะแนนเท่าใด เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาหาคะแนนรายหน่วยยากมาก มีการโยนกันไปมาระหว่าง กกต.กลาง กับ กกต.จังหวัด
ส.ว.เทเสียงต้านสูตร 100 หาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมติไม่เห็นด้วย 11 เสียงให้ใช้สูตร 100 หาร ประกอบด้วยตัวแทนพรรคการเมือง 2 เสียง คือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย และ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ที่เหลืออีก 9 เสียงเป็น ส.ว.ทั้งหมด ได้แก่ พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ นางสุวรรณี ศิริเวชชะพันธ์ นางวรารัตน์ อติแพทย์ น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ นายกิตติ วะสีนนท์ และ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส่วนที่งดออกเสียง 2 เสียง ได้แก่ นายสาธิต ปิตุเตชะ และนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ขณะที่เสียงที่เห็นด้วยกับการใช้สูตร 100 หาร เป็น ส.ส.จากพรรคการเมืองทุกพรรค
ยอมยกธงขาวยื้อบัตรสองใบ
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องกรณีแก้ไขกติการัฐธรรมนูญ เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เข้าข่ายละเมิดสิทธิเสรีภาพว่า สงครามนี้จบแล้ว ใช้ความพยายามสุดความสามารถแล้ว เคารพคำวินิจฉัยจะไม่ดำเนินการใดต่ออีก ขอแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ต้องการบัตรเลือกตั้งใบเดียว และขอแสดงความยินดีกับผู้ต้องการบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หลังจากนี้พรรคเล็กต้องสู้ในกรอบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คงต้องดูทิศทางวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะออกมาอย่างไร จะใช้วิธีหารด้วย 100 หรือ 500 หากผลออกมาหารด้วย 500 กลุ่มพรรคเล็กจะเดินหน้าลงสนามเลือกตั้งต่อไป แต่หากหารด้วย 100 เชื่อว่าบางพรรคคงยุบไป บางพรรคคงควบรวม เพราะสู้ไม่ไหว เนื่องจาก 1 ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องได้คะแนนเฉลี่ยถึง 370,000 เสียง ขณะที่ ส.ส.เขตได้คะแนนเพียง 20,000 กว่าก็ชนะแล้ว แต่พรรคพลังธรรมใหม่ยืนยันว่าจะเดินหน้าสู้ต่อ
“สมคิด” ฟันธงพรรคเล็กหืดจับ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย โฆษก กมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า พรรคเล็กยังมีโอกาสได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากสูตรใช้ 100 หาร 3-4 พรรค แนวทางพรรคเล็กหากจะสู้ต่อต้องขยายฐานสมาชิกเพิ่ม และทำงานหนักขึ้น แต่หากสู้ไม่ไหวอาจไปรวมพรรคใหญ่ที่มีแนวทางเดียวกัน ถือว่ามีทางออกสำหรับพรรคเล็กอีกมาก การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีเป้าหมายต้องการให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ไม่ใช่เป็นเบี้ยหัวแตก พรรคเล็กจะอยู่ได้ต้องปรับตัว ต้องเหนื่อย และทำคะแนนพื้นฐานให้มากขึ้น ส่วนที่พูดกันว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เปรียบ คงไม่เป็นเช่นนั้นถ้าไม่ทำงาน แต่ที่ได้เปรียบอาจเป็นตรงที่พรรคใหญ่ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลัง ประชารัฐ มีสมาชิกพรรคจำนวนมากอยู่แล้ว
“วิษณุ” ชี้ช่องสงสัยก็ยื่นตีความ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ของ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ว่า เมื่อศาลไม่รับตอนนี้เท่ากับใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รัฐสภาเป็นผู้ตัดสิน และไม่เชื่อว่ากฎหมายลูกประกาศใช้ได้ทันเดือน ก.ค. รัฐสภาพิจารณาเสร็จแล้วต้องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา ใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน ถ้าไม่แก้อะไรก็นำขึ้นทูลเกล้าฯตามกรอบ 90 วัน ดังนั้น อย่างไรก็ไม่ใช่เดือน ก.ค. แต่ใครมีข้อสงสัยกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังสามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ตลอด อาจตั้งคำถามไม่เหมือนนพ.ระวีตั้งได้
รวมถึงปมวาระนายกฯ 8 ปี
เมื่อถามถึงการเริ่มต้นนับสถานะความเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์จะนับตั้งแต่วันที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.เมื่อปี 2557 หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ได้เกี่ยวกัน คนละประเด็น ตอนนั้นเมื่อเข้ามาต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 แต่การนับวาระ 8 ปีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เพิ่งมาบัญญัติ จึงไม่เห็นว่าเป็นประเด็นเดียวกัน แต่โยงหรือไม่โยงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน อยู่ที่ว่าใครจะไปยื่น เพราะมีเหตุอันควรสงสัยอยู่ เมื่อถามว่าเรื่อง 8 ปีของนายกฯควรชัดเจนก่อนเดือน ส.ค.หรือไม่ นายวิษณุตอบว่าใครสงสัยก็ดำเนินการไป เวลา 8 ปีที่เถียงกันคือย้อนไปสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ร้อง “เสรีพิศุทธ์” สอบ “ชัชชาติ”
วันเดียวกันเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประธานกรรมา ธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนายอรรถสิทธิ์ กาญจนโอภาษ ขอให้ตรวจสอบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะอดีตวิศวกรที่ปรึกษาสถาบันทรัพย์สินทางปัญญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรณีการประเมินมูลค่าโครงการร้านค้าปลอดอากร และโครงการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในสนามบินสุวรรณภูมิ นายอรรถสิทธิ์กล่าวว่า นายชัชชาติมีเจตนาคำนวณมูลค่าโครงการร้านค้าปลอดอากร สนามบินสุวรรณภูมิ ให้ร้านค้าต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อให้ประโยชน์ตกแก่ผู้ประกอบการ ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เพื่อความยุติธรรม เป็นธรรม หากจะนำเรื่องร้องเรียนเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.ทันที อาจเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกัน กมธ.จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณา หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว
“ชัชชาติ” ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินมูลค่าโครงการร้านค้าปลอดอากร และโครงการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ได้รับการว่าจ้างจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ให้ทำการศึกษาโครงการเมื่อ 18 ปีก่อน ต่อมาทราบภายหลังว่าโครงการถูกตรวจสอบโดย ป.ป.ช. ผลปรากฏว่าไม่มีมูลความผิด และยุติกระบวนการการตรวจสอบไปตั้งแต่ปี 2554 โดยที่ ป.ป.ช.ไม่เคยเชิญไปให้ข้อมูล เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยินดีให้ความร่วมมือ กมธ.ป.ป.ช. พร้อมให้ ข้อมูลเต็มที่มั่นใจว่าโปร่งใส ไม่ทราบเจตนาที่แท้จริงของการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบดังกล่าว แต่หากการกระทำ ของบุคคลใดที่มีจุดประสงค์ทางการเมือง หรือมีผลต่อความนิยมของผู้สมัครลดลง ถือว่าขัดต่อกฎหมายและมีผลทางอาญา ขณะนี้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ
ยก “กรณ์” รมว.คลังโลก แก้ ศก.
นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า การเลือกตั้งในอนาคต พรรคกล้าเสนอชื่อนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ ไม่เสนอชื่อคนนอกแน่นอน สถานการณ์ตอนนี้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องสำคัญที่สุด ผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯคนต่อไปต้องเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ สามารถใช้ทุกโอกาส ทุกศักยภาพ เดินหน้าสร้างรายได้ ต้องใส่ใจเข้าใจ ต่างประเทศเคยยกย่องให้นายกรณ์ เป็น รมว.คลังโลก เคยนำประเทศฝ่าวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์มาแล้ว เราพร้อมร่วมงานกับพรรคที่มีแนวทางแก้ไขปัญหาปากท้อง
“อุ๊งอิ๊ง” ช่วยทีม ส.ก.ฝั่งตะวันออก
เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ตลาดสายเนตร เขตคันนายาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย พร้อมนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผอ.เลือกตั้ง ส.ก. พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. ลงพื้นที่หาเสียงให้ทีมผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคฝั่งตะวันออก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของเข้ามาทักทาย จากนั้น น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางโดยรถสองแถวต่อมาที่หมู่บ้านเก้าแสน ถนนสวนสยาม หาเสียงแบบเดินเคาะประตูบ้าน ซึ่งแต่ละบ้านเปิดประตูให้การต้อนรับเป็นกันเอง มีบางคนกล่าวทักทายว่า “หน้าเหมือนพ่อ คิดถึงพ่อเหลือเกิน” น.ส.แพทองธารจึงต้องกลับว่าคิดถึงพ่อให้มองหน้าลูกไปก่อน ทั้งนี้มีผู้สูงอายุบางคนกล่าวกับ น.ส.แพทองธารว่าอยากให้เป็นนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแต่คนถามถึงพ่อกับอา น.ส.แพทองธารตอบว่า “มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับอิ๊งเหมือนกัน ทั้งคุณพ่อ คุณอา อิ๊งผูกพันสนิททั้งคู่”
แฟนคลับแห่มารอรับ “ลุงตู่”
สำหรับการเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เมื่อเวลา 18.55 น. วันที่ 11 พ.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายกฯและคณะ เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกรมพิธีการทูตสหรัฐฯ ให้การต้อนรับ นำเดินบนพรมแดง รับความเคารพจากแถวกองทหารเกียรติยศ ก่อนเดินทางไปยังโรงแรมเซนต์รีจิส โรงแรมที่พัก มีทีมไทยแลนด์ และคนไทยกลุ่มหนึ่งมารอต้อนรับ ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยเป็นผู้แทนมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอให้นายกฯช่วยเหลือเรื่องแรงงาน ทั้งการขอวีซ่า แก้ปัญหาแรงงานที่เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย โดยนายกฯให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ และนายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัคร ราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน รับเรื่องไปพิจารณาช่วยเหลือ
ต้านยกระดับมั่นคงไทย-สหรัฐฯ
วันเดียวกัน ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ เครือข่ายภาคประชาชน นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ และนายพิชิต ชัยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) หรือกลุ่มเสื้อเหลือง นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลุ่มคนเสื้อแดง ร่วมกันยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้สหรัฐฯยกเลิกแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมไทย-สหรัฐฯ 2020 ว่าด้วยการยกระดับความเป็นพันธมิตรและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศเพื่อร่วมต่อต้านศัตรู เพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาไทย ไม่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน เกรงจะสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศอื่นของไทย
สื่อนอกมองเกมสหรัฐฯรุกคืบ
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ รายงานบทวิเคราะห์การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ รอบพิเศษ ที่ไม่มีผู้นำฟิลิปปินส์และเมียนมาเข้าร่วมประชุมว่าเป้าประสงค์ของสหรัฐฯในการประชุมครั้งนี้ คือความร่วมมือด้านความมั่นคง ขยายอิทธิพลโลกตะวันตกในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และล้อมกรอบอิทธิพลจีน-รัสเซีย หลังก่อนหน้านี้สหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกได้ขับเคลื่อนอย่างหนัก ไม่ว่าการจัดตั้งกลุ่ม “ควอด” สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย-อินเดีย หรือข้อตกลง “ออกัส” สหรัฐฯ-อังกฤษ-ออสเตรเลีย ไปจนถึงแนวคิดการขยายองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือไปสู่ระดับโลก (Global NATO) ที่ตั้งใจดึงอาเซียนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อหวังความร่วมมือในการสกัดกั้นขั้วอำนาจตะวันออกดังกล่าว ขณะที่กลุ่มผู้นำอาเซียนย่อมเผชิญการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ยังมีช่องทางให้ต่อรองกับสหรัฐฯ คือการย้ำสถานะความเป็นกลางของอาเซียนไปจนถึงขอแรงสหรัฐฯในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ของอาเซียนที่มีต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เป็นภูมิภาคแห่งความร่วมมือ ไม่ใช่การชิงดีชิงเด่น สร้างความขัดแย้ง