"รองนายกฯ อนุทิน" นำ สธ.ประชุมร่วมภาครัฐ-เอกชน เปลี่ยนโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ยันไทยพร้อมทุกด้าน ย้ำสิทธิ์บัตรทองยังใช้ได้ โยน ศบค.พิจารณายกเลิก THAILAND PASS

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ว่า สำหรับกระทรวงสาธารรสุขเป็นกระทรวงหนึ่งที่กำหนดทิศทางประเทศหลังการระบาดของโควิด-19 หลังจากประเทศเปิดการท่องเที่ยวต้องกลับมาแน่นอน ตอนนี้เพียงค่อยๆ คลายล็อก ปรากฏว่าต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก ประเทศยังมีเสน่ห์ เป็นเป้าหมายการเดินทาง ประเทศไทยมีความพร้อม ทั้งยา แพทย์ สถานพยาบาล กลุ่มนักลงทุนยังมองมาที่ประเทศไทย เพราะระบบสุขภาพเราเข้มแข็ง ระบบโครงสร้างพื้นฐานของไทยยังนับว่ายอดเยี่ยม เมื่อก่อนนักลงทุนอาจจะมองว่าไทยมีค่าแรงแพง แต่ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายเวลามีวิกฤติ นักลงทุนมองว่าการลงทุนที่ไทยมีความมั่นคงมากกว่า

"ช่วง 2 ปีที่ไทยเจอโควิด-19 เล่นงาน เรายังเดินหน้าพัฒนาเรื่องคมนาคมขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน มอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง เส้นทางเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน ยังเดินหน้าต่อไป ตอนนี้โครงสร้างเราพร้อมแล้ว แล้วการเมืองไทยมั่นคง ไทยมีทางออกทางทะเลด้วย เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ไทยมีจุดแข็งจำนวนมาก เรื่องสาธารณสุข คือจุดที่เราทำได้เยี่ยม นี่คือจุดเด่นในวันที่ทั่วโลกต้องคำนึงถึงเรื่องการระบาดของโรค ไทยก็ยิ่งเด่นชัดในสายตานานาชาติ มันถึงเวลาที่ต้องพลิกฟื้นประเทศไทยแล้ว เรากำลังพยายามทำให้เป็นโรคประจำถิ่น หรือการทำให้โควิดเป็นโรคหนึ่งที่เราต้องจัดการได้ เมื่อมีประชาชนติดเชื้อ ป่วย ต้องรักษาได้ตามมาตรการ ยาพอ เตียงพอ หมอพอ"

...

ขณะที่สถานการณ์วันนี้อัตราการครองเตียงของผู้ป่วยคือ 20% เรามั่นใจว่าการดูแลประชาชนของเรามีทรัพยากรที่เพียงพอ เรื่องยา เรามีทั้งการวางแผนนำเข้า ผลิตเอง ไปจนถึงการสต๊อกและการกระจายยา ส่วนวัคซีนตอนนี้เรากำลังรณรงค์ให้มารับเข็ม 4 วัคซีนถือว่าทำงานได้ดี ช่วยลดอาการป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนที่ต้องมารับและต้องใส่ใจให้มากคือกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 608

ส่วนวันนี้มีการเชิญคณะกรรมการที่กระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งแต่งตั้งเพื่อบูรณาการทิศทางการพาประเทศไทยเปลี่ยนโควิด-19 จากโรคระบาดร้ายแรงสู่การเป็นโรคประจำถิ่น มีทั้งภาคราชการและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีผู้แทนสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ผู้แทนสมาคมท่องเที่ยว ผู้แทนสมาคมหอการค้า ทุกคนมีความพร้อมในการผลักดันให้ประเทศคืนสู่ความเป็นปกติ การไปเป็นโรคประจำถิ่น

"เราเดินไปทางนั้นอยู่แล้ว ส่วนจะประกาศช่วงไหน ก็ต้องรอดูท่าทีขององค์การอนามัยโลกด้วย เราแจ้งแนวทางกับผู้ประกอบการและเอกชน ทุกฝ่ายต่างยินดีที่เรายกเลิก TEST AND GO ส่วนการยกเลิก THAILAND PASS ต้องรอทางคณะกรรมการ ศบค.พิจารณา"

เมื่อถามถึงแนวทางการรักษาผู้ป่วย หลังเปลี่ยนโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น นายอนุทิน ตอบว่า ขอย้ำว่านโยบายบัตรทองเป็นสิทธิ์ที่สามารถรักษาได้ เรามีการพัฒนาเรื่องนี้อยู่ตลอด ย้อนกลับไปที่เรื่องบัตรทองซึ่งเริ่มมา 20 กว่าปี แล้วพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ มีสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นมามากมาย ทั้งฟอกไตฟรี ไปจนถึงสวัสดิการเรื่องผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ซึ่งช่วยลดภาระให้บุตรหลานได้มากพอสมควร นี่คือการต่อยอดในโครงการบัตรทอง ไปจนถึงโรคหายาก เราก็เพิ่มสิทธิ์ในการรักษา ฐานรากมาดี ต้องขอบคุณผู้ที่ริเริ่ม การต่อยอด เราก็ยังทำเต็มที่ กลับมาที่โควิด-19 บัตรทองเราปรับสิทธิ์ในการรักษาเพื่อรองรับอยู่แล้ว และต้องขอขอบคุณประชาชนที่ยังรักษามาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันโรค.