“สุดารัตน์” ยก 5 เหตุผล ชวนเลือก “ศิธา” เชื่อจะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์ ประกาศรื้อทุกปัญหาที่ถูกซุกไว้ใต้พรมออกมาแก้ไข พร้อมทะลายการคอร์รัปชัน ชงให้อำนาจประชาชน ร่วมจัดสรรงบประมาณเอง
วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ที่เคหะคลองจั่น เขตบางกะปิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ ทองนุ่น ผู้สมัคร ส.ก.หมายเลข 3 เขตบางกะปิ พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเขตบางกะปิ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พี่น้องในชุมชนต่างจดจำคุณหญิงสุดารัตน์ ได้อย่างแม่นยำ พร้อมเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยกล่าวย้อนถึงการทำงานในอดีต ซึ่งได้ร่วมกันพัฒนาเขตบางกะปิ ให้มีความเจริญก้าวหน้า
คุณหญิงสุดารัตน์ ประกาศว่าจะขอเดินเคียงข้างพี่น้องประชาชนทุกคนในยามยากลำบาก และครั้งนี้ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยพรรคไทยสร้างไทยได้ส่ง น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่า กทม. หมายเลข 11 ลงเลือกตั้ง หากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ขอพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครได้โปรดเลือกให้ไปเป็นผู้ว่าฯ กทม.เพราะ
1) “ศิธา” จะเป็นผู้ที่มากำจัดคอร์รัปชันในทุกระดับ ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนมาเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบทุกสัญญา ทุกโครงการที่มีการใช้งบประมาณ จะเป็นผู้ว่าฯ ที่กล้ายืนอยู่ท่ามกลางสปอตไลต์ ให้พี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
2) “ศิธา” จะเป็นผู้ว่าที่ให้อำนาจประชาชน มาจัดสรรงบประมาณของ กทม.โดยมาจากความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง และสะท้อนความต้องการขึ้นมาโดยผ่านกลไกของ "สภาชุมชน หรือสภาหมู่บ้าน" ซึ่งจะยกระดับจากกรรมการหมู่บ้านขึ้นไป โดยให้สภาหมู่บ้าน มีสิทธิ์มีเสียงในการตัดสินใจใช้งบประมาณ ถ้าหากปัญหาในหมู่บ้านนั้นจำเป็นจะต้องใช้งบประมาณ “ไม่ว่าจะห้าแสน หรือ หนึ่งล้านบาท” ก็สามารถทำได้ เพราะสภาหมู่บ้านจะมีสิทธิในการจัดสรรงบประมาณร่วมกับเขต และกรรมการของสภาหมู่บ้าน ก็จะได้ค่าตอบแทนในการทำงานด้วย
...
3) “ศิธา” จะเป็นผู้ว่าที่กล้ารื้อปัญหา กล้าที่จะเอาปัญหา กทม. ซึ่งถูกซุกไว้ใต้พรมของออกมาแก้ไข ทั้งยังมีความโดดเด่นเรื่องการประสานงาน ซึ่งศิธาจะเป็นนักประสานงานที่ดี โดยมีพรรคไทยสร้างไทย เป็นผู้สนับสนุน จึงเชื่อว่าผู้ว่าศิธาจะทำให้งานยากๆ สำเร็จลุล่วงไปได้
4) “ศิธา” จะเป็นพ่อเมืองที่กล้าคิดต่าง กล้าคิดนอกกรอบ เป็นคนที่มีหัวทันสมัย ต่างจากผู้นำของกรุงเทพฯ ในอดีต ที่ปล่อยปัญหากรุงเทพหมักหมมมานาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม รถติด คุณภาพชีวิตแย่ ซึ่งที่ผ่านมายังแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เนื่องจากพี่น้องชาว กทม.ได้ผู้ว่าฯ ที่ยึดติดกับระเบียบราชการมากกว่าประโยชน์ประชาชน ดังนั้น น.ต.ศิธา ทิวารี จึงประกาศว่าจะฉีกทุกกฎเกณฑ์ ที่ทำให้กรุงเทพล้าหลัง และเป็นอุปสรรคขวางกั้นการพัฒนาเมือง และการทำมาหากินของคนกรุงเทพ โดยจะยึดเอาประโยชน์ของชาวกรุงทุกคน เป็นหลักไม่ใช่ยึดเอาตัวกฎหมายมาเป็นหลัก เพราะกฎหมายถูกเขียนขึ้นด้วยคน แต่เมื่อกฎหมายได้กลายมาเป็นอุปสรรคต่อการทำมาหกิน หรือการพัฒนาเมือง ผู้ว่าฯ ต้องกล้าเปลี่ยน แต่ที่ผ่านผู้ว่ายังไม่กล้าเปลี่ยนแปลง การพัฒนา กทม. จึงเป็นไปอย่างล่าช้า
5) “ศิธา” เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ ผ่านทั้งงานการเมือง และงานที่อยู่ในระบบราชการมาแล้ว จึงได้เห็นทั้งสองด้านว่าหากต้องการความเปลี่ยนแปลง คนเป็นผู้ว่าต้องการตัดสินใจ ต้องกล้านำซึ่ง ศิธา ทิวารี ได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว จากการทำงานในหลายหน่วยงาน
ดังนั้น การเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ โปรดช่วย ทีมสุดารัตน์ ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงประเทศ สร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด เพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน