“ประยุทธ์” สั่งคลังตั้งกรรมการสอบสัมปทานท่อน้ำอีอีซี ออกตัวถ้าสงสัยทุจริตให้ไปหาหลักฐานมา อธิบดีธนารักษ์ ผวาให้เลื่อนลงนามไปก่อน หวั่น “วงษ์สยาม” ฟ้อง ปัดไม่มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล แค่เบรกกระแสสังคม “สันติ” ฟาด “พิเชษฐ” ตั้งก๊วนผนึกฝ่ายค้านรุมสกรัม “บิ๊กตู่” ยักคิ้วใส่นักข่าว “นายกฯสำรอง” “บิ๊กป้อม” ไม่ตอบเคลียร์ใจน้องรัก “สมศักดิ์” ฉะโมเมปั่นล้มนายกฯ ชี้ 30 ล. มากไปกับวาระที่เหลือ “ชัยวุฒิ” บอกยังไม่ถึงเวลานายกฯคนนอก โบ้ยปม “พิเชษฐ” เรื่องส่วนตัว วิปรัฐบาลการันตีเสียงแน่นปึ้ก “เสรีพิศุทธ์” ช่วยขยี้คนกันเองยังไม่เอา “ตู่” “ฟลุ๊ค” ซัด “มาร์ค เดอะสะตอ” ส่ง “เก็ทโมกหลวงริมน้ำ” เข้าเรือนจำ
ตามที่พรรคฝ่ายค้านเพื่อไทยออกมาเปิดเผยข้อมูลส่อถึงความไม่โปร่งใสการดำเนินโครงการกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในพื้นที่อีอีซี มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ที่จะใช้เป็นไม้เด็ดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ขณะเดียวกันกระแสนายกฯสำรอง รวมถึงการตั้งค่าหัว ส.ส. 5-30 ล้านบาท เพื่อล้มนายกฯ ยังคงร้อนแรงอยู่
“บิ๊กตู่” ยักคิ้วใส่ “นายกฯสำรอง”
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่ทำเนียบ รัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายหยางเฟย หยาง ประธานกรรมการบริษัท HIP GLOBAL จำกัด เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อมอบชุดตรวจ ATK จำนวน 100,000 ชุด พร้อมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Surgical Mask KN95 จำนวน 100,000 ชิ้น รวมมูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการ โดยนายกฯกล่าวขอบคุณภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมป้องกันโควิด-19 แต่ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สอบถามถึงความสบายใจ หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันสนับสนุนให้เป็นนายกฯต่อไป แต่หันมากล่าวทักทาย “สวัสดีจ้ะ” พร้อมยักคิ้วให้
...
ไล่ไปหาหลักฐานจ้างล้ม 30 ล.
ต่อมาเวลา 13.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกฯ แฉว่ามีขบวนการจ่ายค่าหัว ส.ส. 5-30 ล้านบาท เพื่อโหวตล้มนายกฯว่าไปหาหลักฐานมาสิ ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ ผมไม่รู้เพราะไม่เคยทำ เมื่อถามว่าแสดงว่าเป็นเพียงการปั่นราคาของ ส.ส.เพื่อปลุกกระแส พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม แต่หันไปไหว้ศาลตายายและศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำทำเนียบฯ เมื่อถามว่าทำไมจึงมีกระแสข่าวการล้มนายกฯเกิดขึ้น อ่านสถานการณ์อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ก็ไปถามเขาสิ เออ! ไม่อ่านละ” เมื่อถามอีกว่าต้องสืบสาวราวเรื่องอีกหรือไม่ว่าใครปลุกกระแสเรื่องเหล่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า “ข่าวมาจากไหนล่ะ” เมื่อถามว่าได้คุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ก็คุยกันอยู่ทุกวัน”
“ป้อม” ไม่ตอบเคลียร์ใจน้องรัก
ด้าน พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ต้องพ้นจากตำแหน่งจากกรณีดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปี ทำให้มีสิทธิเป็นนายกฯรักษาการได้ ต่อมา พล.อ.ประวิตรกล่าวหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีนายกฯรักษาการ หากเกิดอุบัติเหตุการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่า “อาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกแล้ว” ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยหรือเคลียร์ใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ได้แต่กล่าวอยู่ในลำคอว่า “อืม” และเดินขึ้นรถออกไปทันที
“สมศักดิ์” ฉะโมเมปั่นล้ม รบ.
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เผยว่า การพูดคุยกับรัฐมนตรีของพรรคในวันนี้ ไม่ได้พูดถึงแคนดิเดตนายกฯ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนกระแสข่าวพรรคเล็กไปรับประทานอาหารกับพรรคเพื่อไทย จนถูกตั้งข้อสงสัยว่าวางแผนล้มรัฐบาลนั้น ปีสุดท้ายของรัฐบาลมักเป็นแบบนี้ ถ้าเขาไม่ออกมาพูดหรือมีบทบาทเพื่อทำให้มีราคา เขาก็ไม่มีราคา เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวค่าหัว ส.ส. 30 ล้านบาทเพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ นายสมศักดิ์ตอบว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น จะใช้อะไรมากมายขนาดนั้น 30 ล้านบาท มากเกินไปกับเวลาของรัฐบาลที่เหลือไม่กี่เดือน เป็นไปไม่ได้ โมเมไปเอง ตัวเลขไม่สอดคล้องกับช่วงเวลาของรัฐบาล จากประสบการณ์ดูแล้วไม่น่าเชื่อ ไม่น่าจะมี อย่าเอามาพูดให้เกิดความรู้สึกว่ามีอะไรก็ต้องใช้เงินไปหมด ถ้าทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมดก็ไม่มีคนทำงาน
ยังไม่ถึงเวลานายกฯคนนอก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้ สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายกฯสำรองว่า พรรคไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้ เมื่อถามว่าเตรียมแผนรองรับไว้หรือไม่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ นายชัยวุฒิตอบว่า ถ้าพูดถึงกลไกตามรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่นายกฯและรองนายกฯพูดคุยกันแล้ว เป็นเรื่องปกติของการบริหารราชการแผ่นดิน แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภาต้องมาหาทางออกร่วมกัน ต้องประชุมและลงมติร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องของพรรค พปชร. หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง อย่าลืมว่าต้องมี ส.ว.ร่วมด้วย คิดว่าเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาก่อนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องมีฝ่ายค้านและฝ่ายตรงข้ามประโคม ข่าว สร้างกระแสกดดันมาที่รัฐบาล แต่ยืนยันรัฐบาลยังคุมเสียงได้ สามารถผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้แน่นอน
“พิเชษฐ” คุยฝ่ายค้านส่วนตัว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ารัฐบาลยังคุมเสียงข้างมากได้อยู่ นายชัยวุฒิตอบว่า “ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร” เมื่อถามว่าเริ่มมีข่าวจ่ายค่าหัวให้ ส.ส. 5-30 ล้านบาท นายชัยวุฒิตอบว่า ต้องไปถามคนให้ข่าว ยังไม่ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องเช็กเสียง ส.ส. เมื่อถามถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร. แกนนำกลุ่ม ส.ส. 16 เดินสายพบฝ่ายค้านจะมีปัญหาหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า เป็นเรื่องส่วนตัว นายพิเชษฐมีสไตล์แบบนี้ อย่าไปมองเป็นเรื่องของพรรค คนออกไปกินข้าวแบบนี้กันเยอะแยะ ตนก็ไปกินข้าวกับฝ่ายค้านบ้าง ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่าแต่นายพิเชษฐท้าให้พรรค พปชร.ขับออก นายชัยวุฒิตอบว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น ยังไม่ได้ทำอะไรผิด เท่าที่ฟังดูนายพิเชษฐไม่ได้พูดอะไรที่เป็นปัญหา ส่วนการพูดพาดพิงไปถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร.นั้นไม่ทราบ ต้องไปถามนายสันติเอง
วิปรัฐบาลการันตีเสียงปึ้ก
นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า มั่นใจและยืนยันว่าเสียงสนับสนุนรัฐบาลยังแน่นปึ้ก วิปรัฐบาลจะนัดประชุมวันที่ 17 พ.ค. เตรียมความพร้อมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 แต่เรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่มีการหารือ ต้องรอให้ฝ่ายค้านยื่นญัตติเข้ามาก่อน ส่วนที่กลุ่มพรรคเล็กเคลื่อนไหวพบฝ่ายค้านนั้น หากรักประชาธิปไตยจริงขอให้ช่วยกันรักษาประชาธิปไตย ทำให้ถูกตามครรลอง
นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. วิปรัฐบาล กล่าวว่า กรณีของนายพิเชษฐ มองว่า ส.ส.แต่ละคนมีพรรคพวกเพื่อนฝูง เป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่า ส.ส.กลุ่ม 16 ระบุว่าจะโหวตสนับสนุนฝ่ายค้าน ไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายสุรสิทธิ์ตอบว่า เชื่อว่าไม่ถึงขนาดนั้นและไม่เป็นแบบนั้น
“เสี่ยหนู” ไม่เชื่อใครจะทุ่ม 30 ล.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การมีรายชื่อเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯ เป็นผลพวงมาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการซื้อ ส.ส. หัวละ 30 ล้านบาทเพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ นายอนุทินตอบว่า มันมีแต่ข่าว ฟังแล้วไม่มีเหตุผล เราไม่ให้ความสำคัญ เมื่อถามย้ำว่าตัวเลขมันไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า การกระทำก็ไม่น่าเป็นไปได้ เมื่อถามว่ากระบวนการล้มนายกฯมีจริงหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มี ถ้าเป็นในส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเราต้องทำงานและรับผิดชอบร่วมกัน เราสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ไม่สามารถชี้แจงได้หรือเกิดการทุจริตอย่างเห็นได้ชัดก็ต้องสนับสนุนกันไป ส่วนกระแสข่าวการซื้อตัว ส.ส.เพื่อล้มนายกฯต้องไปถามคนซื้อคนขาย แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มี ทุกคนทำงานเต็มที่ และสนับสนุนให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่น
สงสัยทุจริตไปหาหลักฐานมา
อีกเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีโครงการท่อน้ำอีอีซี มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาทว่า ปัญหาที่มีคนพูดตรงนู้นตรงนี้ ทุกอย่างไม่เคยปล่อยผ่าน ถ้ามีปัญหาข้อสงสัยอะไรก็สอบข้อเท็จจริงมาว่าใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ ใครทุจริตตรงไหน สั่งการไปหมดแล้ว ถ้าตรวจสอบแล้วมันผิดมันถูกก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง
สั่งตั้ง กก.สอบสัมปทานท่อน้ำ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการยื่นร้องว่าการประมูลโครงการท่อน้ำอีอีซี มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ไม่โปร่งใส และอยู่ระหว่างรอคำพิพากษาของศาลปกครอง ว่า นายกฯสั่งการให้กระทรวงการคลังตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโดยเร็วในทุกขั้นตอน ส่วนที่กรมธนารักษ์ขอเลื่อนลงนามในสัญญาออกไปก่อนนั้น นายกฯขอให้รอผลตรวจสอบข้อเท็จจริง
ธนารักษ์ผวาเลื่อนลงนาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมธนารักษ์มีกำหนดการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก กับบริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ แต่ได้แจ้งเลื่อนการลงนามกะทันหัน เนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการยื่นหนังสือให้นายกฯทบทวนเรื่องดังกล่าว นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนเพราะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงตัดสินใจเลื่อนการลงนามออกไป เพื่อให้เกิดความสบายใจและความเข้าใจของสังคม “ผมตัดสินใจว่าควรเลื่อนออกไปก่อน ไม่มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพราะอำนาจตัดสินใจอยู่ที่อธิบดีกรมธนารักษ์ และในกฎหมายไม่ได้ระบุว่านายกฯต้องเห็นชอบก่อนการเซ็นสัญญา และไม่มีกระแสอะไรที่จะต้องยกเลิกผลการประมูล กระแสสังคมไม่ใช่เหตุผลทางกฎหมายที่จะต้องทบทวนมติบอร์ด แน่นอนว่าการเลื่อนเซ็นสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายต่อ บ.วงษ์สยามแน่นอน และมีความเสี่ยงที่เราจะถูกฟ้องได้ ดังนั้นคงต้องมีการพูดคุยชี้แจงกับ บ.วงษ์สยาม และขออย่าให้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น”
แจงยิบผลตอบแทนเข้ารัฐ
นายประภาศกล่าวต่อว่า การคัดเลือกเอกชนทำภายใต้ 3 เงื่อนไข คือ ถูกต้องตามกฎหมาย คุ้มครองผลประโยชน์รัฐ คุ้มครองผู้บริโภค ในแง่ของผลประโยชน์ต่อรัฐนั้น หากวันนี้ (3 พ.ค.) มีการลงนามสัญญากับ “บ.วงษ์สยามฯ” รัฐจะได้รับเงินก้อนแรกทันที 743 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา 580 ล้านบาท ผลประโยชน์ตอบแทนรายปีล่วงหน้าปีที่ 1 วงเงิน 44,644,356 บาท และหลักประกันสัญญา 118,623,856 บาท ขณะที่ผลประโยชน์ต่อผู้บริโภค คือในสัญญากำหนดชัดเจน ผู้ชนะประมูลต้องคิดค่าน้ำต่อผู้บริโภคไม่เกิน 10.98 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ตลอดอายุสัญญา 30 ปี
“สันติ” ฟาด “พิเชษฐ” ตั้งก๊วน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส. พปชร. เตรียมนำประเด็นการประมูลโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี มาร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจกับฝ่ายค้านว่า คงไม่มีอะไร กรมธนารักษ์ทำทุกอย่างตามขั้นตอนแล้ว นายพิเชษฐเพิ่งมาอยู่ใหม่ การระบุว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ทั้งที่ใน พปชร.ไม่มีกลุ่ม จึงไม่อยากไปวิจารณ์ต่อ เมื่อถามว่าจะมีบทลงโทษอย่างไรหรือไม่ เพราะอาจทำให้พรรคเสื่อมเสีย นายสันติตอบว่า เรื่องนี้อยู่ที่ กก.บห.พรรค ยังไม่รู้จะนำเข้าที่ประชุมเมื่อใด ส่วนเรื่องของเจตนาสื่อคงทราบอยู่แล้ว เมื่อถามว่านายพิเชษฐยังสามารถอยู่กับ พปชร.ได้หรือไม่ เพราะมีพฤติกรรมไปร่วมกับฝ่ายค้าน นายสันติตอบว่า ให้สื่อช่วยคิดแล้วกัน
ช่วยขยี้ ส.ส.รัฐบาลยังไม่เอา
ที่ตลาดสดจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำนางณัฐทนันต์ นิธิภณยางสง่า ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรี พรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่หาเสียง มีชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้ามาทักทาย สะท้อนปัญหาการทำมาค้าขายที่ยากลำบาก เพราะสินค้าแพงทุกชนิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ขอให้อดทนในภาวะยากลำบาก เพราะมีรัฐบาลไร้ความสามารถ คิดแต่เรื่องตัวเองและพวกพ้อง แต่ปัญหาชาวบ้านกลับละเลยทั้งเรื่องราคาน้ำมัน ราคาสินค้าแพง ขณะนี้แม้แต่ฝ่ายรัฐบาลด้วยกันยังไม่ยอมรับในตัวนายกฯ เห็นได้จากการเคลื่อนไหวของ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯสำรอง แต่รัฐบาลไม่กล้ายุบสภาช่วงนี้ เพราะคะแนนนิยมตกต่ำหนัก พยายามจะยื้อออกไปให้นานที่สุด หวังให้คะแนนนิยมดีขึ้น แต่ก็ไม่มีผลต่อความนิยมประชาชนแล้ว เพราะคนทั้งประเทศเห็นฝีมือมาตลอด 8 ปีว่าเป็นอย่างไร
“ฟลุ๊ค” ซัด “มาร์ค เดอะสะตอ”
นายพชร ธรรมมล หรือฟลุ๊ค เดอะสตาร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ วิจารณ์พรรคเพื่อไทยก้าวไม่พ้นตระกูลชินวัตรและห่วงจะเกิดปฏิวัติว่า นายอภิสิทธิ์อย่าทำตัวเป็น “มาร์ค เดอะสะตอ” พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น อยากเตือนสติให้ระลึกถึงปัญหาที่นายอภิสิทธิ์ ก่อกรรมทำเข็ญให้ประเทศไว้ใหญ่หลวง จากการบอยคอตการเลือกตั้ง 2 ครั้ง นำไปสู่การปฏิวัติทั้ง 2 ครั้ง เหมือนตั้งใจเตี๊ยมกัน ประเทศต้องเสื่อมถอยตลอด 10 กว่าปี ถ้าประชาชนเลือกคนตระกูลชินวัตรก็เป็นสิทธิ การขู่เรื่องเกิดการปฏิวัติไม่ใช่นิสัย และจริยธรรมของคนในระบอบประชาธิปไตย น่าจะกลัวแพ้การเลือกตั้งจนอุจจาระขึ้นสมอง 12 ปีที่ผ่านมา คนเสื้อแดงยังไม่ลืมผู้เสียชีวิต 99 ศพ และคนเจ็บอีกหลายพันคน
อัด “ตู่” กลัวเสียอำนาจปล่อยโกง
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการรายย่อยในจังหวัดท่องเที่ยวปิดตัวเป็นจำนวนมาก เปิดต่อก็ไม่รู้ว่าจะนำเงินทุนมาจากไหน เพราะเข้าไม่ถึงเงินกู้ของรัฐ อยากให้นายกฯเดินไปดูที่ร้านค้าส่งย่านประตูน้ำ 2 ปีนี้ปิดกิจการห้างร้าง เงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาท หายไปไหนเกิดมูลค่าเพิ่มหรือไม่ กลายเป็นว่าใช้เงินกู้แค่สร้างภาพลวงตาประคองสถานะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มักย้ำว่าตัวเองไม่ทุจริต แต่เพิกเฉยต่อการตรวจสอบทุจริต ไม่ว่าจะโครงการซื้ออาวุธ ซื้อถุงมือยาง ซื้อวัคซีน บางพรรคนำไปแจกชาวบ้านหาเสียง ไม่ตรวจสอบก็ไม่ต่างจากการทุจริตเสียเอง ปล่อยให้พรรคร่วมทุจริตโดยไม่กล้าสอบ เพราะกลัวเสียอำนาจ
แซะ “โรม” คิดแต่เรื่องสุนัข
นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรค ไม่แก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงว่าสินค้าแพงจริงไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่เป็นปัญหาทุกประเทศทั่วโลก ทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค ร่วมกันแก้ปัญหาจนบรรเทาให้ดีขึ้นแล้ว ให้แก้ในชั่วข้ามคืนอาจยากกว่าการทำงานด้วยปาก ส่วนที่นายรังสิมันต์ เปรียบเทียบพรรคเหมือนเห็บกำลังจะกระโดดหนีสุนัขตาย หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ฟังแล้วได้แต่นึกถึงสุภาษิตที่ว่า “ในหัวเสือก็คิดแต่เรื่องเสือ ในหัวสุนัขก็จะคิดแต่เรื่องสุนัข”
ส่งเก็ทโมกหลวงฯ เข้าเรือนจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญาว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. หลังพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องฝากขัง นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท โมกหลวงริมน้ำ ฐานหมิ่นเบื้องสูง ตาม ป.อาญามาตรา 112 ต่อศาลอาญา การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานหลายปาก ศาลอนุญาตตามที่พนักงานสอบสวนขอฝากขัง 12 วัน และออกหมายขังส่งตัวไปเรือนจำ ผู้ต้องหายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลไม่อนุญาต เนื่องจากผู้ต้องหาเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวในคดีลักษณะเดียวกัน แต่ยังกระทำการอันเป็นเหตุให้ถูกจับกุมดำเนินคดีนี้อีก