วันนี้ สร้างอนาคตไทยประชุมใหญ่ “วิเชียร” เผย พรรคชู “สมคิด” เป็นแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 รอจังหวะเปิดตัว เอือมระบบพรรคพวกช่วงชิงผลประโยชน์ แย้มมี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ อยากตามมาซบ
วันที่ 20 เม.ย. 2565 พรรคสร้างอนาคตไทย (สอคท.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี โดย นายวิเชียร ชวลิต อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทและหน้าที่ในพรรคสร้างอนาคตไทย ว่า จากที่ทำงานกับพรรคการเมืองมา สิ่งสำคัญของพรรคอย่างหนึ่งคือเรื่องการบริหาร เพราะการบริหารพรรคการเมืองจะต่างจากองค์กรอื่น เนื่องจากมีเรื่องของอำนาจ และการช่วงชิงผลประโยชน์ต่างๆ ฉะนั้นการบริหารงานที่เปิดกว้างจะทำให้ทุกคนที่มีศักยภาพ ได้ทำงานและขับเคลื่อนพรรคให้เดินไปข้างหน้า ถือเป็นเรื่องสำคัญ
ทั้งนี้ ตนเองจะเข้ามาดูด้านนี้เป็นหลัก ไม่เช่นนั้นจะต่างคนต่างไปทำให้พรรคไม่แข็งแรง หากพรรคการเมืองไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกมีส่วนร่วม หรือไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้แสดงออกถึงความต้องการของเขาที่ได้มาร่วมงานกับพรรค เขาก็หนี เพราะไม่รู้จะมาทำไม นอกจากนี้ การทำงานของพรรคสร้างอนาคตไทยในฝ่ายบริหาร กับการขับเคลื่อนหรือแสดงออกทางการเมือง ส่วนนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าไม่มีจะไม่สามารถทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันได้ โดยจุดมุ่งหมายของเราคือ การสร้างพรรคสร้างอนาคตไทยเป็นสถาบันให้ได้ ส่วนจะเป็นพรรคขนาดใดขึ้นอยู่กับความนิยมจากประชาชน
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่ นายวิเชียร ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย นายวิเชียร ระบุ ส่วนตัวเห็นว่าพรรคสร้างอนาคตไทยเปิดโอกาสให้คนมีศักยภาพ มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ และมีคุณค่า ได้เข้ามาทำหน้าที่ ไม่ใช่ใครที่อยู่ใกล้อำนาจ หรือเข้าถึงอำนาจได้เป็นผู้มีอำนาจ และทำฝ่ายเดียว เพราะจะทำให้ไม่เป็นพรรคแต่กลายเป็นพวก ว่าใครเป็นพวกใคร ซึ่งเป็นปัญหาของพรรคการเมือง โดยหลักการของพรรคสร้างอนาคตไทยจะไม่ทำแบบนั้น เพราะไม่ต้องการคนที่เข้ามาแสวงหาและช่วงชิงผลประโยชน์ ต้องการคนที่เข้ามาร่วมโดยมีอุดมการณ์ มีเป้าหมาย เพื่อดูแลประชาชน โดยเฉพาะตอนนี้ที่บ้านเมืองมีวิกฤติและปัญหา ทั้งโควิด-19 และเศรษฐกิจโลก ถ้าไม่มีคนขับเคลื่อนก็จะทำให้ลำบากมาก
...

เมื่อถามต่อไปว่าที่ผ่านมาพบกับการแบ่งพรรคแบ่งพวกของนักการเมืองมามากใช่หรือไม่ นายวิเชียร ตอบว่า ใช่ ไม่อยากเห็นแบบนั้น เพราะทำให้เกิดความเสียหายอย่างที่เราเห็น พอกลุ่มคนนั้นพ่ายแพ้และอยู่ไม่ได้ก็ออกไป ขณะที่จุดดึงดูดของพรรคสร้างอนาคตไทยคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และจะให้ความมั่นใจกับประชาชนได้หรือไม่ว่า นายสมคิด จะอยู่กับพรรคสร้างอนาคตไทย นายวิเชียร กล่าวอย่างมั่นใจว่า นายสมคิด อยู่พรรคนี้แน่ แต่จะดูจังหวะเวลาในการเปิดตัวเพื่อให้สอดรับเมื่อมีทีมที่แข็งแรง และทุกคนพร้อมทำงาน นายสมคิด จะไม่อยู่ในเชิงของการบริหารพรรค แต่จะดูแลในระดับภาพรวมใหญ่ทั้งหมด ดูแลเศรษฐกิจ และปัญหาของชาติบ้านเมือง นี่คือหน้าที่ของ นายสมคิด ดังนั้นพรรคสร้างอนาคตไทยต้องมีความพร้อมเรื่องของฐานให้ นายสมคิด สามารถไปยืนอย่างสง่างามเพื่อขับเคลื่อนโยบายต่างๆ
ส่วนคำถามว่ามีความชัดเจนมราจะเสนอชื่อ นายสมคิด เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ นายวิเชียร เผยว่า “ใช่ เราจะเสนอ นายสมคิด เป็นแคนดิเดตนายกฯ อันดับหนึ่ง และนายอุตตม สาวนายน เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 จะประเมินสถานการณ์ในตอนนั้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่ง นายสมคิด เองไม่ขัดข้อง”
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าจะมีคนตามมาจากพรรคพลังประชารัฐเพิ่มหรือไม่ นายวิเชียร ให้คำตอบว่า ยอมรับว่ามีหลายคนจะตามมาอยู่ด้วย แต่ไม่สามารถตอบได้ เพราะบางคนยังเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่ ถ้าลาออกต้องเลือกตั้งใหม่ จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงอนาคต พรรคสร้างอนาคตไทยจะจับมือกับพรรคการเมืองอื่นที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า “ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ เราไม่ได้ประกาศเป็นศัตรูกับท่าน ซึ่งอนาคตท่านจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอดู เพราะไม่รู้ว่าท่านจะตัดสินอย่างไร แต่เท่าที่ผมประเมิน คิดว่านายกฯ จะไปต่อ แต่พรรคสร้างอนาคตไทยจะเสนอ นายสมคิด เป็นแคนดิเดตนายกฯ”