“บิ๊กตู่” กำชับให้ความรู้ “ภาวะลองโควิด” แก่ประชาชน รองรับผู้หายป่วยให้สามารถดูแลตนเองได้ สธ. เผยลักษณะอาการ อาจเป็นได้ยาวนาน 3-6 เดือน พร้อมแนะอาหารที่ควรทานและต้องเลี่ยง
วันที่ 16 เม.ย. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระบวนการให้การรักษา และความพร้อมของเวชภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมและเพียงพอทุกด้าน
ทั้งนี้ โควิดสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) มีลักษณะการแพร่เชื้อได้ง่าย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังทรงตัวในระดับสูง แม้ความรุนแรงของโรคจะไม่มากสำหรับผู้มีร่างกายแข็งแรง แต่ผู้หายป่วยแล้วจำนวนมากที่มีภาวะลองโควิด (Long Covid) หรืออาการที่เกิดขึ้นภายหลังหายป่วยจากโควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นได้กับหลายระบบในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร ระบบหัวใจและหลอดเลือด
รองโฆษกรัฐบาล ระบุต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงสาธารณสุขให้ความรู้และเพิ่มการรับรู้แก่ประชาชนในวงกว้างเกี่ยวกับภาวะลองโควิด รวมถึงการดูแลตัวเองเมื่อเกิดภาวะดังกล่าว เนื่องจากยังมีผู้ป่วยที่รักษาตนเองที่บ้าน ไม่ได้มารับการรักษาในโรงพยาบาล บางส่วนอาจยังไม่มีความรู้และยังไม่ได้รับการแนะนำในการดูแลตนเองหลังหายป่วยจากโควิด-19
“ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีแนวเวชปฏิบัติเกี่ยวกับการวินิจฉัย การรักษาผู้ที่มีภาวะลองโควิด ตลอดจนข้อแนะนำในการดูแลตนเองของผู้ป่วยอยู่แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุข สร้างการรับรู้ ให้ความรู้กับประชาชนในส่วนนี้ในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อที่ยังสูง จะทำให้สัดส่วนผู้มีภาวะลองโควิดเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน และผู้ดูแลตัวเองที่บ้านบางส่วนอาจจะยังไม่มีความรู้ในส่วนนี้ โดยหากประชาชนสามารถดูแลตนเองได้ ก็จะช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ลงอีกทางหนึ่งด้วย”
...
ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข ถึงภาวะลองโควิด ว่า ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีอาการแตกต่างกัน ไม่มีลักษณะตายตัว เช่น ไอ มีไข้ ปวดศีรษะ การรับรู้กลิ่นหรือรสชาติลดลง เจ็บหน้าอก หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยล้า ปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ ท้องเสีย เกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง
สำหรับบางรายอาจมีอาการทางจิตใจ เช่น วิตกกังวล สมาธิสั้นลง หรือซึมเศร้าร่วมด้วย โดยผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีแดงหรือผู้ป่วยที่มีอาการป่วยรุนแรง จะมีโอกาสเกิดภาวะลองโควิดสูงกว่าผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการน้อย เนื่องจากอาจมีปัจจัยเรื่องความเครียดที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงป่วยเป็นโรคโควิด-19 จึงส่งผลต่อเนื่อง อาจยาวนาน 3-6 เดือนได้กว่าจะกลับมาเป็นปกติ
ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดภาวะลองโควิดด้วย เช่น อายุโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เรื่องเพศ โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ ด้วย เช่น โรคหอบหืด และผู้ที่เคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งผู้ที่หายป่วยแล้วไม่ต้องกังวลใจแต่อย่างใด
สำหรับผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 แล้วยังมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากบางรายอาจเป็นผลจากตัวยาที่ใช้ในการรักษา หรือบางรายอาจจะมีโรคอื่นๆ ร่วมด้วย จึงต้องมีการตรวจเพิ่มเติมและทำการรักษาให้ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น และยังมีความเป็นไปได้ในผู้หายป่วยแล้ว บางรายอาจจะติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำได้แต่อาจไม่แสดงอาการชัดเจน ดังนั้นผู้ป่วยโควิด-19 แม้หายป่วยแล้วแต่ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ
ทางด้านกรมอนามัย แนะนำให้ผู้ป่วยลองโควิด-19 ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคอยู่เสมอ ด้วยการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ปรุงสุก สะอาด เน้นอาหารย่อยง่าย เนื่องจากอาจมีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร และหากมีอาการเบื่ออาหาร ควรแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ หลายๆ มื้อ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ตลอดวัน ไม่ให้ร่างกายอ่อนล้า อ่อนเพลีย และควรเลือกกินอาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม เนยแข็ง ถั่วต่างๆ เต้าหู้ รวมทั้งบริโภคอาหารที่มีจุลินทรีย์สุขภาพ หรือ โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ได้แก่ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว โดยควรเลือกชนิดที่มีนํ้าตาลน้อย กินร่วมกับอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง กล้วย หัวหอมใหญ่ กระเทียม เป็นต้น เพื่อเป็นอาหารให้จุลินทรีย์สุขภาพ และยังช่วยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
“ที่สำคัญ หลีกเลี่ยงอาหารประเภท Junk Food อาทิ อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง อาหารหมักดอง อาหารปิ้งย่าง ของทอด ของมัน หรืออาหารรสจัด ย่อยยาก รวมทั้งควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้มีผลทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดต่ำลง”
นอกจากนี้ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ก็มีส่วนช่วยให้ร่างกายฟื้นฟู แข็งแรง และสร้างภูมิคุ้มกัน ได้แก่
- วิตามินซี พบมากในผักและผลไม้สด เช่น ส้ม มะละกอ ฝรั่ง มะนาว มะเขือเทศ พริกหวาน เป็นต้น ควรกินแบบสด หากนึ่งหรือผัด ควรใช้ระยะเวลาสั้นๆ เพื่อรักษาคุณค่าจากวิตามินซีไว้ได้ดียิ่งขึ้น
- วิตามินเอ เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นม ผลิตภัณฑ์จากนม ผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีเหลืองและสีส้ม เช่น ตําลึง ผักบุ้ง แครอต ฟักทอง มันเทศสีเหลือง มะละกอสุก เป็นต้น
- วิตามินดี ได้แก่ ปลานิล ปลาทับทิม เห็ด ไข่แดง เป็นต้น
- วิตามินอี ได้แก่ ไข่ ผักและผลไม้ต่างๆ เช่น ถั่วต่างๆ นํ้ามันถั่วเหลือง นํ้ามันมะกอก นํ้ามันดอกทานตะวัน อะโวคาโด เป็นต้น
- แร่ธาตุสังกะสี ได้แก่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน ตับ หอยนางรม ข้าวกล้อง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยลองโควิด-19 ควรสังเกตอาการผิดปกติของตนเอง หากมีอาการแย่ลง ควรรีบกลับมาพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาต่อไป.