ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พปชร.ขอน้อมรับคำตัดสินศาล และยังทำใจไม่ได้ ขอไปตั้งสติก่อน หลังทราบศาลสั่ง พ้นตำแหน่ง ส.ส. ตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป พร้อมสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีบุกรุกป่าสงวน จ.ราชบุรี
วันที่ 7 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลฎีกา สั่ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และสั่งตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป พร้อมสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน จ.ราชบุรี ชี้ มีเจตนาไม่คืนที่ดินเขตปฏิรูป อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม
ขณะที่ นายทิวา การกระสังข์ ทนายความที่ได้รับมอบหมาย มาฟังคำวินิจฉัยแทนน.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์ว่า ชี้เห็นว่า น.ส.ปารีณาฝ่าในจริยธรรมร้ายแรง โดยศาลพิจารณาจากการครอบครองที่ ส.ป.ก. 610 ไร่ แม้จะรับสืบทอดมาจากบิดา แต่ด้วย น.ส.ปารีณาไม่ใช่คนจน มีทรัพย์สินนับร้อยล้านบาท และยังมีตำแหน่งเป็น ส.ส. ไม่ใช่ผู้ยากไร้ ทำให้ขาดคุณสมบัติในการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งปี 2562 สำนักงานปฏิรูปที่ดินประกาศเวนคืนที่ แต่ น.ส.ปารีณา ไม่แจ้งการครอบครอง โดยอ้างว่าไม่รู้ ถือว่ามีเจตนากีดกันผู้ยากไร้ไม่ให้มีสิทธิทำกิน
ซึ่งคำวินิจฉัยนี้ น.ส.ปารีณา ขอน้อมรับและกลับไปพักผ่อน 10 ปี ส่วนจะกลับมาเล่นการเมืองต่อหรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจในอนาคต ทั้งนี้ ทนายความระบุ รัฐธรรมนูญถูกฉีกเสมอ ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนอยู่ยาวถึง 10 ปี ซึ่งหากรัฐธรรมนูญถูกแก้ไข เหมือนหมวกที่ปลิวไปแล้วก็กลับมา น.ส.ปารีณา ก็พร้อมกลับมาเล่นการเมืองได้ ตอนนี้ไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งนี้ นายทิวา ได้เปรียบเทียบการถูกตัดสิทธิครั้งนี้ว่า
...
"น.ส.ปารีณา เป็นเหมือนผู้กล้าที่ตายกลางสนามรบ ซึ่งนักรบในพรรคพลังประชารัฐ มีกี่คนได้ตายหมดแล้ว ทั้ง สิระ และปารีณา ซึ่งไม่มีใครอยู่ครบวาระ ส.ส. 4 ปี สักคน แบบนี้ไม่เรียกว่าตายในหน้าที่ มันไม่ใช่หน้าที่ เพราะไม่ใช่หน้าที่ผู้แทนราษฎรที่จะมาตายในสนามรบ"
ขณะที่ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามหลังคำวินิจฉัย โดยเจ้าตัวบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า ขอไปทำใจก่อน เพราะตั้งสติไม่ทัน
ทั้งนี้ ทางทนายความจะประชุมดูเงื่อนไขขออุทธรณ์ ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา