“บิ๊กตู่” แทงกั๊กนั่งแคนดิเดตนายกฯพรรคไหน อ้างยังไม่ถึงเวลา อย่าเพิ่งมาถาม ปลื้ม “พี่ป้อม” นำอวยพรเบิร์ธเดย์ย้อนหลัง อ้อน ครม.ทำงานมา 3 ปีต้องให้ใจกัน ยันไม่เป็นศัตรูกับใคร 12 เม.ย. เปิดตึกสันติไมตรีเชิญ ครม.-ส.ว.-ส.ส.รวมพลังทำบุญปีใหม่ไทย “ประวิตร” เมิน “อุ๊งอิ๊ง” แม่ทัพนำเพื่อไทย อ้อมแอ้มจับมือ พท.เอาให้เลือกตั้งเสร็จก่อนดีกว่า “ชัยวุฒิ” ชี้ชัดเจน “ทักษิณ” ลุยการเมืองในนามพรรค เย้ยการเมืองเปลี่ยนตลอดไม่แน่จะชนะแลนด์สไลด์ “สมชัย” เหน็บอย่ากลัวผู้หญิงวิตกจริตจนเสียอาการ “สุดารัตน์” พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ลั่นไม่ก้มหัวให้เผด็จการ อาสาทวงคืน ปชต.กับความสุขคนไทย ส่ง “ศิธา” ชิงผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทีม ส.ก. 50 เขต ป.ป.ช.ชี้มูลฟัน “เอ๋ ปารีณา” จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน แจ้งเว่อร์สมเด็จบางขุนพรหม-ทำสัญญาเงินกู้เท็จ
พรรคการเมืองเคลื่อนไหวเปิดตัวเตรียมพร้อมลงสนามการเลือกตั้งใหม่กันอย่างคึกคัก ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สงวนท่าทีไม่ตอบชัดเจนว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือพรรคใด ระบุยังไม่ถึงเวลา อย่าเพิ่งถาม
...
นายกฯ นำ 9 รมต.รับเครื่องราชฯ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม เวลา 08.15 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯนำ ครม. ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ประจำปี 2564 ร่วมพิธีหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วยชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ได้แก่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ได้แก่ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นมหาปรมาภรณ์ ช้างเผือกและได้รับพระราชทานพระพลังแผ่นดิน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ 8 รัฐมนตรี จะน้อมนำพระบรม ราชโองการ ในการสืบสาน รักษาต่อยอด การปฏิบัติราชการเพื่อบ้านเมืองต่อไป
“บิ๊กตู่” สั่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากนั้นที่ตึกสันติไมตรี นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม พร้อมเหล่า ศิลปิน ดารา อาทิ เจน นุ่น โบว์ ซุปเปอร์วาเลนไทน์ เข้าพบนายกฯ ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจ การป้องกันภัยคุกคามจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจัด ชุดความรู้พฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในบทเพลง “อย่าโอน” เป็นสื่อ นายกฯกล่าวว่า รายงานพบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความ เสียหายวงกว้าง มีการร้องเรียนจากหลายช่องทาง ขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการเร่งติดตามแก้ไข และช่วยเหลือประชาชนด่วน ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐมนตรีหลายคนโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์แจ้งให้โอนเงินเช่นกัน ถ้ายังใช้วิธีปราบปรามแบบเดิม คงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทัน จึงมอบหมายให้กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดทำเพลง “อย่าโอน” เร่งสร้างการรับรู้ ทั้งนี้ ในที่ ประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นตัวแทน ครม.มอบแจกันดอกไม้และอวยพร วันเกิดนายกฯ ย้อนหลัง
กั๊กแคนดิเดตนายกฯ พรรคไหน
ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ. ประวิตรอวยพรในนาม ครม.ขอให้ตนมีความสุข ให้ทำงานสำเร็จ พร้อมให้กำลังใจ ได้บอกว่าทุกอย่าง ที่อวยพรมาให้ ถือว่าอวยพรให้กับ ครม.ทุกคน เพราะ จิตใจเราต้องให้กัน ทำงานร่วมกันตั้ง 3 ปีแล้ว ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรเรื่องการตั้งพรรคสำรองอย่างไรบ้าง หลังมีพรรคเศรษฐกิจไทยเกิดขึ้นแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังอยู่ ยังไม่มีอะไร เมื่อถามว่า พรรครวมไทย สร้างชาติจะเป็นอย่างไรต่อไป พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ เขาคุยกัน” เมื่อถามว่า เลือกตั้งสมัยหน้าจะเป็นแคนดิเดตของ พรรคใด พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “อย่าเพิ่งถามได้ไหม ยังไม่ถึงเวลาเลย ตอนนี้ใกล้วันสงกรานต์แล้ว เราจะทำ อย่างไรให้บ้านเมืองดีขึ้น สงบสุขขึ้น อยู่ที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกันอะไรที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อย่าเพิ่งมา ทะเลาะกันตอนนี้เลย พยายามทำเต็มที่”
เชิญ ครม.-ส.ส.-ส.ว.ทำบุญปีใหม่ไทย
นายกฯกล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์รัฐบาลเห็นใจ มีมาตรการผ่อนคลายเพื่อให้ดำเนินการตามประเพณีสงกรานต์ได้ แต่ต้องควบคุมได้ ส่วนรัฐบาลจะมีการทำบุญกันช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อรวมพลังพวกเรา เนื่องในปีใหม่ไทย เพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ขอให้ช่วยกัน ส่วนเรื่องทานข้าวร่วมกันกับบรรดา ครม.นั้น เพราะไม่ได้ทานข้าวร่วมกันมานานแล้ว ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็มีการแยกชุดกันทาน ตามมาตรการ Social Distancing ทุกคนตรวจ ATK กันเกือบทุกวัน โดยเฉพาะนายกฯตรวจทุกวัน บางวันตรวจถึง 2 ครั้ง ต้องระวังตัวที่สุด เป็นห่วงประชาชน เรื่องวัคซีนขอให้ฉีด ระบบสาธารณสุขประเทศพร้อมให้บริการ ดีกว่าไปติดแล้วมารักษาภายหลัง
ด้าน น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ เปิดเผยว่า การทานอาหารหลังประชุม ครม.เกิดขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี นายกฯเชิญชวนให้ ครม. ส.ว.และ ส.ส.มาร่วมทานอาหารที่ตึกสันติไมตรีวันที่ 12 เม.ย. ถือโอกาสทำบุญวันขึ้นปีใหม่ไทย ก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ส่วนการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ยังไม่มีกำหนดการชัดเจน
ฉุนนักวิชาการด่าแก้เศรษฐกิจโง่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุม ครม.ก่อนพักประชุมช่วงเที่ยง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับที่ประชุมอย่างอารมณ์เสียถึงกรณีมีนักวิชาการออกมาเสนอแนะและเขียนโจมตีรัฐบาลเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจว่า “ลองไปดูสิว่าเรื่องไหนที่เขาพูดแล้วเรายังไม่ได้ทำตรงไหน เราทำหมดแล้ว แต่ทำไมสิ่งที่เราทำมันไม่ถึงประชาชนหรืออย่างไร ทำไมประชาชนถึงไม่รับรู้ เราทำอะไรไปคนก็หาว่าโง่” แล้วทิ้งท้ายว่า “ขอโทษที่อารมณ์เสีย” และได้ถามถึงการแก้ไขหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไปถึงไหนแล้ว นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รายงานว่า ได้พักหนี้ให้อยู่ ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เสนอแนะให้ตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบหนี้แต่ละส่วน ให้รองนายกฯที่ดูแลปัญหาเป็นกลุ่มๆอยู่แล้วรับผิดชอบ และอยากให้ช่วยกันตอบประชาชนให้ได้ว่ายกหนี้ให้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์กำชับว่าใครรับผิดชอบเรื่องอะไรแถลงเรื่องนั้น ให้รู้ว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง ประชาชนไม่ค่อยรู้เรามีเวลาอีกปีกว่าๆ อยากทำให้สำเร็จ ไปหารือกันมา อยากให้ประชาสัมพันธ์ผลงานที่ทำกันมา ไหนๆเราจะอยู่กันอีกปี ต้องทำให้เข้มแข็ง ไม่เข้าใจว่ามีไหมที่พวกเราไม่ได้ทำ หลายเรื่องที่ทำไปแล้วเขาก็ไม่รู้ การแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคา โควตาวีไอพีไม่มีแล้ว
“ประวิตร” เมิน “อุ๊งอิ๊ง” แม่ทัพ พท.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและพร้อมจะได้สมาชิกครอบครัว 14 ล้านคนว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งอย่างไรก็ว่ากันไป เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยประกาศจะชนะแบบแลนด์สไลด์กังวลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนว่า กังวลอะไร ให้เขาแลนด์สไลด์เสียก่อน เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่พรรค พปชร.กับพรรคเพื่อไทยจะร่วมมือทำงานในอนาคต พล.อ.ประวิตรตอบว่า เอาให้เลือกตั้งให้เสร็จก่อนดีกว่า เมื่อถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทยเปิดตัวเรียบร้อยแล้วถือว่าเป็นพรรคพันธมิตรกับพรรคพปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใช่ เกี่ยวข้องกัน ถึงอย่างไรก็สนับสนุนรัฐบาล เลือกตั้งครั้งหน้าก็ไม่เป็นคู่แข่งทางการเมืองกัน
ชัด “ทักษิณ” ทำการเมืองในนาม พท.
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ว่า น.ส.แพทองธารเปิดตัวช่วยพรรคเพื่อไทย ไม่น่ามีปัญหาอะไรถือเป็นสิทธิ เป็นผลดีต่อแวดวงการเมือง จะได้ทำงานเต็มที่ ในอนาคต พรรคเพื่อไทยชัดเจนเข้มแข็งมากขึ้น เป็นพรรคที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สนับสนุน ยังทำงานการเมืองต่อไปในนามพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธารคือทายาทนายทักษิณที่จะมาทำงานการเมืองในนามนายทักษิณ การเมืองรับรู้กันอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ไม่เกี่ยวกับ พปชร.เราทำในส่วนของเรา เตรียมนโยบาย เตรียมโครงสร้างเลือกตั้ง ต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกัน ที่ประกาศจะชนะแลนด์สไลด์ ทุกพรรคต้องหวังสูงไว้ สำเร็จหรือไม่อยู่ที่ประชาชน ต้องดูสถานการณ์ตอนนั้น กว่าจะเลือกตั้งอีกนาน การเมืองเปลี่ยนตลอด
“วราวุธ” ระบุ “อุ๊งอิ๊ง” มิติใหม่การเมือง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบาย และยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงพรรคเพื่อไทย เปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยว่า เป็นสิ่งที่ดีจะได้มีคนมีคุณภาพเข้ามาทำงานการเมืองเพิ่มขึ้น คุณอุ๊งอิ๊งเป็นทายาทอดีตนายกฯ เชื่อว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนรุ่นใหม่ จะได้มีมิติใหม่ๆเข้ามา ประกาศจะชนะแลนด์สไลด์ การเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นมา ก่อนเลือกตั้งเป็นธรรมดาแต่ละพรรคต้องมาแสดงสรรพคุณกันว่ามีเป้าหมายจะทำอะไรอย่างไร ส่วนผลเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไร ประชาชนตัดสินเอง เป็นสิทธิอัน ชอบธรรมของพรรคเพื่อไทย หากจะชู น.ส.แพทองธาร ให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ถ้าคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีข้อห้ามเสียงท้วงติงว่าอาจตกอยู่ ในชะตากรรมเดียวกับพ่อและอา คิดว่าต่างคนต่างกรรม ต่างวาระถึงเวลาคงจะมีแนวทางดำเนินการต่างกันไป บทเรียนและประสบการณ์ต่างๆจะเป็นตัวกำหนด ผลได้จะไม่เหมือนกัน
“สมชัย” แซะอย่ากลัวเด็กจนเสียอาการ
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าขอออกความเห็นกรณี “อุ๊งอิ๊ง” เห็นหลายคนดาหน้าวิจารณ์ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาสามาทำงานการเมือง แบบกลัวเธอจะได้เป็นนายกฯ แล้วทำความเสียหายแก่บ้านเมือง ไม่เป็นธรรมนัก 1.หากพรรค พท.จะเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 รายชื่อ ที่จะเป็นนายกฯ พรรคต้องประเมินว่าเป็นบวกหรือลบ ประชาชนจะตัดสิน 2.การเป็นตระกูลการเมือง ไม่ใช่เรื่องต้องรีบตัดสินถึงพฤติกรรมการเมืองในอนาคต ไม่เช่นนั้นคงตัดสินว่า ศิลปอาชา อัศวเหม คุณปลื้ม จึงรุ่งเรืองกิจหรือแม้แต่จันทร์โอชา ล้วนเป็นปัญหาหมด 3.การเข้าสู่การเมืองด้วยการเลือกตั้ง ไม่ใช่สืบทอดอำนาจ ประชาชนจะตัดสินให้ไปต่อหรือไม่ การใช้อำนาจจากการรัฐประหาร เขียนกติกาเพื่อความได้เปรียบ กวาดต้อนนักการเมืองเป็นพวกด้วยอำนาจ ด้วยเงิน หวังอยู่ในอำนาจต่อถึงเรียกว่าสืบทอดอำนาจ 4.อย่ากลัวผู้หญิงคนหนึ่งมากเกินเหตุ จงโบกมือต้อนรับทักทายเธอ ให้กำลังใจในเส้นทางที่ยากลำบาก หากคุณเป็นนักการเมืองที่ต้องแข่งขันต้องถือว่า ได้คู่แข่งที่ทำให้ต้องพัฒนาเพื่อเอาชนะในสนามเลือกตั้ง อย่าวิตกจริตจนเสียอาการ
ฉะพวกกอดรถถังจมปลักอดีต
นายประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนที่ตั้งป้อมวิพากษ์ วิจารณ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เปิดตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ควรตั้งสติทบทวนว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองเป็นอย่างไร เคยอยู่ดีมีสุขกำลังไต่ระดับอยู่ดีๆกลับต้องเปลี่ยนโหมดเป็นรถถัง หยุดชะงัก ถอยหลังกันไปทุกสิ่งอย่าง ควรดีใจที่มีกลุ่มคนหนุ่มสาวเสนอตัวมาแก้วิกฤติ ทำบ้านเมืองให้กลับมาสดใส แต่ไม่ทันไรตั้งแง่ อคติไม่เลิกรา ทั้งที่ยังไม่ได้พิจารณาคุณภาพ ฝีมือเลย สะท้อนอาการหวั่นไหวหวาดกลัวของคนบางพวก โลกเปลี่ยนไปคนต้องเปลี่ยนตาม เทคโนโลยีวันนี้กับเมื่อ 40 ปีที่แล้วต่างกัน ปฏิเสธความจริงไม่พ้น อย่าลุ่มหลงมัวเมาฝันค้างกับอดีต หรืออยากจะจมอยู่กับรถถังต่อไป สุดท้ายแล้วประชาชนจะเป็นผู้เลือก จะตัดสินใจเองว่าใครพูดจริงทำได้ หรือขายฝันขยันแต่กู้ แต่เหนืออื่นใดเรื่องขัดแย้ง กีฬาสีการเมือง ต้องยุติได้แล้ว
“สุดารัตน์” ชูจุดยืนไม่ก้มหัวเผด็จการ
ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เปิดใจในโอกาสครบรอบ 30 ปี การทำงานทางการเมือง ภายใต้ ชื่อ “30 ปีสุดารัตน์ 30 ปีแห่งความภาคภูมิใจ ได้รับใช้ประชาชน” มีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายโภคิน พลกุล อดีตรองนายกฯ นายพงศกร อรรณนพพร อดีต รมช.ศึกษาธิการ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสุธา ชันแสง อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงผู้บริหารพรรค ว่าที่ ส.ส.และ ส.ก.พรรค คนรุ่นใหม่พรรคร่วมงาน โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่าเป็น 30 ปีที่ภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ประชาชน ตั้งแต่ก้าวแรกที่เป็น ส.ส. วันที่ 22 มี.ค.35 ต้องต่อสู้เผด็จการ ไม่มีวันก้มหัวให้เผด็จการ ไม่เป็นที่เหยียบยืนให้อำนาจนิยมเผด็จการเด็ดขาด วันนี้ขอนำทุกพลังไปเดินหน้าสู้งานหนัก ปลดปล่อยประชาชนออกจากรัฐราชการที่กดทับด้วยอำนาจนิยมเผด็จการ ให้คนไทยฟื้นชีวิต มีความสุข หายจน มีรายได้ยั่งยืน นี่คือภารกิจสุดท้ายที่ผู้หญิงที่ชื่อสุดารัตน์จะทำให้สำเร็จ ไม่เคยเห็นยุคไหนที่บ้านเมืองตกต่ำ ประชาชนอดยากลำบากทุกข์เข็ญ จะเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ ทางรอดประชาชน ความขัดแย้งทางการเมืองต้องถูกแก้ก่อน ด้วยหัวใจที่เปิดรับความเห็นต่างทางการเมือง ไม่สร้างวาทกรรมทำร้ายคนอื่น แก้กติกาสืบทอดอำนาจด้วย
ลั่นพร้อมนั่งแคนดิเดตนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวจบ นายสุธา ชันแสง อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯได้ขึ้นกล่าวเปิดใจถึงการทำงานกับคุณหญิงสุดารัตน์ว่า นารีขี่ม้าขาวที่เคยพูดถึงกันนั้นตัวปลอม แต่คุณหญิงสุดารัตน์คือนารีขี่ม้าขาวตัวจริง เชื่อมั่นว่านายกฯคนต่อไปจะชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โดยผู้ร่วมงานต่างปรบมือสนับสนุน และช่วงท้ายครอบครัวของคุณหญิงสุดารัตน์ ได้นำดอกไม้ขึ้นมาให้กำลังใจบนเวที จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยว่า ขอแสดงความยินดีที่มีคนใหม่ๆเข้าการเมือง อยากให้เข้ามาเยอะๆเป็นทางเลือกให้ประชาชน ใครเข้าสู่การเมืองตั้งใจจริงต่อบ้านเมืองเป็นเรื่องดี ขอให้กำลังใจไม่ขอวิจารณ์ ตนเป็นอีกหนึ่งคนที่เสนอตัวใช้ประสบการณ์ทั้งชีวิตอาสาทำงานรับใช้ประชาชน แต่ขึ้นอยู่กับประชาชน หากพรรคมีมติเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขออาสานำพรรคไปทวงคืนความสุข ทวงคืนเงินในกระเป๋า ทวงคืนประชาธิปไตยที่ถูกปล้นไปมานาน
ส่ง “ศิธา” ลงสนามชิงผู้ว่าฯ กทม.
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ส่วนความพร้อมพรรคไทยสร้างไทยในการส่งตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคให้ความสำคัญพื้นที่ กทม. ผูกพันกับคน กทม.จะเปิดตัวก่อนวันรับสมัครแน่นอน คุณสมบัติคนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.เป็นคนคุ้นเคย ทำงานกับพรรคมานาน มีความมุ่งมั่นสร้าง กทม.ให้ดีขึ้น และยืนยันจะส่งผู้สมัคร ส.ก.ทุกเขต จะเลือก ส.ก.เขตใดของพรรคจะได้สุดารัตน์เป็น ส.ก.อีกคน หรือหากเลือกผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค จะได้สุดารัตน์เป็นผู้ช่วยผู้ว่าฯ กทม.จะใช้ประสบการณ์ 30 ปี เป็นฐานรองรับให้ทีม ส.ก. ผู้ว่าฯ กทม. สู้เต็มร้อย แม้เสียเปรียบเป็นพรรคใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ตัดสินใจส่ง น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯและอดีต ส.ส.กทม. ลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรค จะเปิดตัววันที่ 30 มี.ค. พร้อมผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต เบื้องต้นติดต่อไปยังหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หากไม่ได้รับอนุญาตจะไปใช้ที่อื่น
“เก่ง” ฟาดยับนักรบห้องแอร์บีบไล่ส่ง
เมื่อเวลา 17.50 น. นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กขยายความกรณีเคยโพสต์ทิ้งปมให้คิดว่า “ลาก่อน ซ่อนกลิ่น ระพินภูไท ตัวใครตัวมัน” พร้อมติดแฮชแท็ก #ผมไม่เสียใจที่ไม่ได้เป็นคนในครอบครัวว่า ก่อนพรรคเพื่อไทยเปิดโครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหม่ หัวใจเดิม” ยอมรับว่าการทำงานฐานะนักการเมืองระยะหลังค่อนข้างมีปัญหา ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย จึงนำมาซึ่งความไม่ชอบใจ ไม่ไว้วางใจของผู้ใหญ่หรือแกนนำบางคน และปฏิบัติกับผมเหมือนไม่ใช่คนในพรรค หลายครั้งมองมาอย่างรังเกียจและหวาดระแวง ไม่อยากให้เข้าร่วมประชุมใดๆ แค่อยากบอกว่าร่วมต่อสู้กับพรรคในยามที่เราลำบาก โดนคดีมาไม่รู้กี่คดี แต่ทนได้เพราะรู้ว่าต่อสู้เพื่อประชาชน แต่ผมจะไม่ทนไอ้พวก “นักรบห้องแอร์” ที่ไม่เคยแม้แต่ลงพื้นที่ มากระทำย่ำยีอย่างเด็ดขาด ความคับแคบและการมีอคติในใจคือสิ่งที่จะทำลายทุกอย่าง ถ้าเขตเลือกตั้งผมเอง ยังไม่มีสิทธิมีเสียงอะไรเลย ทำกับผมเหมือนไม่ใช่คนในครอบครัว ยัดเยียดข้อหาให้ว่าจะชิ่งหนีตีจากพรรค ไม่มีใครรู้ว่าผมเองต่างหากที่กำลังถูกบีบให้ต้องออกจากพรรคไปอย่างเจ็บปวด
“สาธิต” ตีความ รธน.ต้องหาร 100
เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ประเด็นนี้ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.วิสามัญฯ ส่วนบัตร 2 ใบจะใช้เบอร์เดียวกันหรือคนละเบอร์จะลงมติสัปดาห์หน้า สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอฟังความคิดเห็นจากที่ประชุม กมธ.ก่อน ถ้าพิจารณาตามรัฐธรรมนูญจะต้องหารด้วย 100 คือจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องปฏิบัติตามความหมายรัฐธรรมนูญ ส่วนคำว่า “พึงมี” ไม่ได้อยู่ในฉบับแก้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม สูตรคำนวณด้วย 500 มีผู้เสนอเข้ามาต้องนำมาพิจารณากัน นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เคยอธิบายในที่ประชุมคณะ กมธ.แล้ว เขาเคารพว่าไม่สามารถใช้ได้ แต่การใช้สิทธิยื่นฟ้องต่อศาลธรรมนูญเป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นออกมาในอนาคต
“บิ๊กแจ๊ส” โล่ง กกต.ยกหาเสียงเกินจริง
วันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมกันและมีมติยกคำร้องกรณีเรื่องร้องเรียน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี เรื่องนโยบายการหาเสียงเกินจริง มีนายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรคเพื่อไทยขึ้นปราศรัยหาเสียง ให้ร้ายใส่ความด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น กรณีมีผู้ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานีและ ส.อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 ระบุว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผู้สมัครนายกอบจ.ปทุมธานี (หมายเลข 2) และผู้สมัคร ส.อบจ.ปทุมธานี กลุ่ม “คนรักปทุม” ได้กระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นในมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) และวรรคสองในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.63 นโยบายที่ใช้หาเสียงเลือกตั้งหลอกลวงประชาชน
“ชลธิชา” ผวาถูกถอนประกัน
ที่อาคารอนาคตใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงเรื่อง “หยุดเงื่อนไขประกันตัว ละเมิดสิทธิผู้ต้องหา 112” น.ส.ชลธิชากล่าวว่า ตนอยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราวในคดี 112 แต่ถูกศาลอาญา เรียกไต่สวนการประกันตัวด่วนในวันที่ 23 มี.ค.กรณีที่ตนโพสต์ถึงการเข้าร่วมประชุมกับเมลิสซา เอ.บราวน์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา แต่ยังไม่มีหมายศาล ไม่มีหนังสือส่งมาแม้แต่ฉบับเดียว ตนให้ข้อมูลคดีของตัวเองกับทางการสหรัฐฯกลับถูกศาลเรียกไต่สวนประกัน อาจถูกถอนประกันหรือตั้งเงื่อนไขเพิ่มทั้งที่ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ไม่คิดหลบหนี ยิ่งชัดเจนว่า เงื่อนไขการประกันตัว กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง จำกัดการเคลื่อนไหว สิทธิเสรีภาพ
นายชัยธวัชกล่าวว่า พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้ยุติลิดรอนสิทธิเสรีภาพทีขัดหลักสากล หวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะไม่ถูกการเมืองบิดผันทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาครั้งใหญ่ จนไม่เหลือสถาบันหลักใดให้ยึดถือได้
ป.ป.ช.ฟัน “เอ๋” ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. พิจารณากรณีการกล่าวหา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพปชร.กรณีการปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. จากการไต่สวนพบว่า น.ส.ปารีณาแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินผิดจากข้อเท็จจริง 2 รายการ ได้แก่ กรณียื่นรายการทรัพย์สินอื่นเป็นพระเครื่องผิดรุ่นจากที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. โดย น.ส.ปารีณาแจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่า ครอบครองพระสมเด็จบางขุนพรม มูลค่า 2.5 ล้านบาท แต่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าพระเครื่องประเมินค่าได้ประมาณ 2-3 แสนบาท และกรณีรายการเงินให้กู้ยืมที่ น.ส.ปารีณาแจ้ง ป.ป.ช.ว่าทำสัญญาเงินกู้ 7-8 ล้านบาท แต่ตรวจสอบพบว่าสัญญาเงินกู้ดังกล่าวเป็นเท็จ เพราะไม่ได้มีการกู้เงิน ป.ป.ช.จึงมีมติชี้มูลความผิด น.ส.ปารีณาจงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จและปกปิดข้อมูลที่ควรแจ้งให้ทราบ ถือเป็นผู้มีความผิดทางอาญา เนื่องจากขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาตัดสิทธิการห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆการพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และตัดสิทธิการใช้สิทธิเลือกตั้งต่อไป