"อนุทิน" เผย สงกรานต์ปีนี้ งดสาดน้ำ รอปีหน้า ขณะกรมควบคุมโรค เตือน ระวังไข้เลือดออกปีนี้มาแรงแค่ 3 เดือนแรก ตายแล้ว 3 ราย ขณะ "ญี่ปุ่น-ยูนิเซฟ" มอบอุปกรณ์เก็บและขนส่งวัคซีนโควิด-19 รณรงค์ผู้สูงอายุ มาฉีดวัคซีนเพื่อผ่านพ้นสงกรานต์ด้วยดี

วันที่ 21 มี.ค. 65 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสูข รับมอบอุปกรณ์เพื่อใช้จัดเก็บและขนส่งวัคซีนมูลค่า 25 ล้านบาท (ประมาณ 750,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ภายใต้ โครงการ Last One Mile Support ประกอบด้วย หีบเย็น 1,720 ชิ้น กระติกวัคซีน 1,000 ชิ้น และอุปกรณ์วัดและบันทึกอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง 1,000 ชิ้น จากรัฐบาลญี่ปุ่นโดย นายนะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำราชอาณาจักรไทย ร่วมกับองค์การยูนิเซฟ โดย นางคยองซัน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เพื่อช่วยสนับสนุนประเทศไทยรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเปราะบางที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นและยูนิเซฟให้การสนับสนุนไทยอย่างต่อเนื่องทั้งเวชภัณฑ์และวัคซีน การรับมอบอุปกรณ์เพื่อใช้จัดเก็บและขนส่งวัคซีนครั้งนี้เป็นประโยชน์นำไปฉีดให้กับประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับสธ.ที่กำลังรณรงค์ฉีดให้ผู้สูงอายุพื้นที่ต่างๆ ที่ยังไม่ฉีดอีกถึง 2.1 ล้านคน รวมทั้งผู้อยู่พื้นที่ห่างไกล ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ไม่อยากรับด้วยความเชื่อต่างๆ ซึ่งคงบังคับไม่ได้แต่ขอให้ญาติพี่น้อง อสม. นายแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ต่างๆ หิ้ววัคซีนออกไป และช่วยขอร้องให้ฉีด เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะเราต้องการที่จะผ่านสงกรานต์นี้ไปได้ด้วยดี ไม่ทำให้เกิดความสูญเสียใดๆ การฉีดให้ผู้สูงสุงอายุและกลุ่มที่มีโรคประจำตัว เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะลดการสูญเสียต่างๆ ได้ ถ้ามีลูกหลานกลับไปเยี่ยมช่วงสงกรานต์ หากเกิดมีเชื้อก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายเดือดร้อน สธ.จึงต้องเร่งขอให้รีบนำผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรังมาฉีดโดยเร็ว ฉีดแล้วก็ต้องรอให้ภูมิคุ้มกันสร้างตัวซึ่งต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ขณะนี้เหลืออีกแค่ 3 สัปดาห์ซึ่งหากเร่งฉีดได้จะดี เพราะแต่ละเข็มก็ต้องใช้เวลาห่างกันตามกำหนด

...

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่เดินทางกลับบ้านก็ต้องขอให้แยกตัวดูแลตนเอง อย่าไปปาร์ตี้โซเชียลหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง กลับบ้านก็จะปลอดภัยเพื่อตัวเอง กฎหมายไม่ได้บังคับให้ทำ แต่หากเรามีความเป็นห่วงใยบุพการีบุคคลอันเป็นที่รัก ช่วง 10 วัน หรือต้น เม.ย.เป็นต้นไป ขอเว้นระยะห่างจากผู้คนจะเป็นประโยชน์มาก อย่างไรก็ตาม สงกรานต์นี้ ขอเพียงแค่รดน้ำผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อพระแม่พระในบ้าน คนที่เคารพนับถือตามประเพณี ไม่ใช่สาดน้ำเป็นงานรื่นเริง บันเทิง อยากขอความกรุณารอสักปีหน้า ปีนี้ขอให้ดูแลตนเอง สร้างภูมิคุ้มกันเต็มที่ และมั่นใจแต่ละช่วงที่ผ่านไปก็ต้องมีการค้นพบยาหรือวัคซีนที่มีคุณภาพประสิทธิภาพประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลและสธ.ให้คำยืนยันหากมียาที่ดีที่สุดอยู่ที่ไหน ประเทศไทยเราสามารถเข้าถึงสามารถจัดหามาให้ประชาชนได้แน่นอน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ไข้เลือดออกปกติเริ่มระบาดหลังสงกรานต์มาก ปีนี้จับสัญญาณน่าจะระบาดเพราะไม่ระบาดมา 2 ปี ไข้เลือดออกมี 4 สายพันธุ์ พอติดสายพันธุ์หนึ่งจะมีภูมิคุ้มกันไปปีหนึ่ง ดังนั้นภูมิคุ้มกันคนไทยปีนี้ถือว่าน้อยมาก หากรับเชื้อเข้าไปโอกาสที่จะระบาดรุนแรงจึงมีสูง ปีนี้สายพันธุ์ที่น่ากังวลคาดว่าจะเป็นเดงกี 2 เพราะหากติดเชื้อร่วมกับสายพันธุ์อื่น ก็จะทำให้โรคมีความรุนแรง มีโอกาสเสียชีวิตสูง ไข้เลือดออกไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะ จุดวิกฤติคือ เมื่อไข้สูงแล้วจากนั้นจะลดลง ต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจมีอาการเลือดออก เกิดภาวะช็อกได้ หากเลือดออกมาก ก็จะเกิดน้ำท่วมปอดเสียชีวิตได้

นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า อาการช่วงต้นๆ จะใกล้เคียงโควิด มีไข้ แยกไม่ออก ยกเว้นมีอาการทางเดินหายใจชัด เช่น มีน้ำมูก เจ็บคอ คล้ายโควิด หากมีไข้เฉยๆ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัวมาก คลื่นไส้อาเจียน กินอาหารไม่ได้ จะคล้ายไข้เลือดออก อาการ 2 โรคนี้จึงซ้อนกัน นอกจากตรวจโควิดแล้ว หากสงสัยขอให้หมอได้ตรวจเลือดดูด้วย การวินิจฉัยไข้เลือดออกการตรวจเลือดเป็นเรื่องสำคัญ คนที่มีอาการแปลกๆ ไม่แน่ใจขอให้พบแพทย์และแจ้งอาการให้ละเอียด อย่าคิดว่าเป็นแค่เฉพาะโควิด เพราะโรคไข้เลือดออกสามารถเป็นพร้อมกับโควิดได้ และพบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วย 2 โรคดังกล่าวแล้ว อีกทั้งจากการสำรวจพบลูกน้ำยุงลายขณะนี้เริ่มเพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้ปีนี้ไข้เลือดออกน่าจะมาแรง และปีนี้ 3 เดือนแรกมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน เปรียบเทียบปีที่แล้วทั้งปีเสียชีวิต 6 คน สำหรับกลุ่มที่ต้องระวัง เดิมจะเกิดในเด็ก แต่หลังๆ พบในผู้ใหญ่มากขึ้น เนื่องจากพ่อแม่เริ่มป้องกันลูกมากขึ้น แต่ผู้ใหญ่อาจจะไม่ได้ระวังตัว แม้แต่อายุ 60 ปีก็เป็นได้ เป็นได้ทุกกลุ่มอายุคิดว่าเป็นไข้หวัดทั่วไป หรือโควิด ดังนั้นเป็นเรื่องที่ต้องระวัง ขณะนี้ กรมควบคุมโรค เตรียมแผนรองรับแล้ว ซึ่งวันที่ 22 มี.ค. จะมีการเสนอในที่ประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงฯ เพื่อให้นายแพทย์สาธารณสุขนำแผนปรับใช้ ผ่านกลไกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ที่ไม่ได้ดูเฉพาะโควิดอย่างเดียว แต่ต้องดูโรคที่ก่ออันตรายให้ประชาชนทั้งหมด รวมถึงขณะนี้เราได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง เพื่อสำรวจและพ่นสารเคมีกำจัดลูกน้ำยุงลาย.