รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปลุกใจลูกพรรค ตั้งเป้าภาคกลางกวาด 26 ส.ส. หวังภาคใต้ 35-40 ที่นั่ง ชูยางกก.ละ 100 บาท มั่นใจ กระแส กทม.ปชป.ดีขึ้น คนหันกลับมาสนับสนุนเพิ่ม
วันที่ 19 มี.ค. 2565 ที่โรงแรมแคนทารีฮิลล์ จ.เชียงใหม่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคกลาง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับเลือกตั้งในอนาคตว่า ที่ผ่านมาทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ อาจจะไม่ศรัทธาในพรรค งานหนักตกที่ส.ส.เขต เรื่อง อสม.ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ริเริ่ม ประชาชนให้การตอบรับดี เพราะประชาธิปัตย์กับ อสม.เป็นครอบครัวเดียวกันไม่มีใครมาแยกกันได้
ประชาธิปัตย์ภาคกลางจาก ส.ส. 9 ที่นั่ง หากการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีกระแสที่ดีขึ้น หรือตกต่ำลง ก็เป็นโอกาสของเราที่จะทำการบ้าน ถ้าเราสร้างกระแสนิยมพรรคการเมืองที่เป็นพรรคที่เป็นสถาบัน เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของได้ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมผู้สมัครแล้ว 70% และน่าจะได้กลับมา 26 ที่นั่ง อาทิ จ.จันทบุรี คาดว่าได้ยกจังหวัด

ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์หาเสียงภาคใต้ ตนเองยืนยันว่าต้องได้ 35 ส.ส. มั่นใจว่าทำได้จริง และควรจะมีนโยบายแยกเฉพาะพื้นที่ของภาคใต้ เช่น เรื่องการกระจายอำนาจ เพราะรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวในเรื่องนี้ หรือการผลักดันทะเลสาบสงขลาว่า จะทำอย่างไรให้มีการขับเคลื่อนให้สำเร็จให้ได้ เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งเสริมการค้าขาย การยกระดับราคายางพาราจะให้ได้ กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งจะทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป ยืนยันว่าถ้าทำตามยุทธศาสตร์นี้ เราอาจได้ที่นั่งส.ส.เพิ่มขึ้นเป็น 40 ที่นั่งก็ได้ ซึ่งได้ให้การบ้านกับส.ส.ทุกคนไปแล้ว ถ้าทุกคนทำตามชนะอย่างแน่นอน ส่วนการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.อาทิ จ.สงขลา ตนจะเปิดตัวพร้อมกันทั้ง 9 เขตไม่ทยอยเปิดทีละเขต
...

ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแล กทม. กล่าวว่า ได้เตรียมงานในพื้นที่กทม. 1-2 ปีที่ผ่านมา ในเรื่องนโยบายสำหรับพื้นที่ กทม.ทั้งปรับแก้ให้สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบัน จนถึงการหาตัวผู้ว่ากทม. จนได้นายสุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และส.ก.ทั้ง 50 เขต การลงพื้นที่มาต่อเนื่องได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ผู้ที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ได้หันกลับมาสนับสนุนประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณที่ดี ตนเองจึงย้ำกับผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ก.ของพรรคว่า ทุกคนต้องทำงานหนักแข่งกับตัวเองเพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่ทุ่มเท ภาพรวมเชื่อมั่นว่า พื้นที่ กทม.จะมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นกว่าเดิม