หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำให้ความสำคัญกับทุกคนในพรรค คนที่อยู่ก็ต้องเดินหน้าทำหน้าที่ต่อ พร้อมต้องหาคนใหม่เข้ามาเติมเต็ม มั่นใจวันนี้ปชป.เดินขึ้น ไม่ได้เดินลง ของดพูดปมคนเข้าออก

วันที่ 19 มี.ค. 2565 ที่ รร.แคนทารีฮิลล์ เชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนการสัมมนา ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องการส่งผู้สมัคร หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นว่า

ขณะนี้จากจำนวนเขตเดิม 350 เขต ปชป.มีเกือบครบแล้ว แต่ต้องทำเพิ่มเพราะจะมีเขตเลือกตั้งเพิ่ม ซึ่งพรรคทำเรื่องนี้มาโดยต่อเนื่อง โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี ในฐานะประธานคณะทำงานก็เดินหน้าไปตลอดเวลา เมื่อเดือนที่แล้วก็ไปสัมมนาที่ภาคอีสาน และเมื่อวานก็มีประชุมตัวแทนเขตภาคเหนือ 60 กว่าเขต และจะต้องทำเพิ่มอีกประมาณ 9 เขต เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็พร้อม สำหรับตัวผู้สมัครก็ได้มีความคืบหน้าไปมาก เกือบจะเรียกว่าทุกภาค สำหรับ กทม.ก็เรียกว่าได้ตัวผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ได้ผู้สมัคร ส.ก.เสร็จแล้วทั้งหมด 50 เขต ส่วน ส.ข. เที่ยวหน้า 30-33 เขตก็มีแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีความขัดแย้งเรื่องการลงสมัครเป็นตัวแทนพรรค ที่มีผู้ประสงค์ลงมากกว่า 1 คน ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบว่า เรื่องนี้ก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเมื่อพรรคมีคะแนนนิยม ถ้าจะพูดอย่างนั้นว่า ในภาพรวมดีขึ้นมาเป็นลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้งใหญ่ คนก็หันมาสนใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จากปัญหาหาผู้สมัครบางเขตไม่ได้ หรือมีผู้ไม่ประสงค์จะลงสมัครกลายเป็นแย่งกันลงสมัครในหลายเขต เพราะฉะนั้นพรรคก็ต้องมีกระบวนการพิจารณา

...

“ทุกคนมีความสำคัญครับ ไม่ตั้งใจว่าอยากจะให้คนที่ได้รับเลือกแล้วอยู่ คนที่ไม่ได้รับเลือกแล้วก็จะต้องไปอยู่พรรคอื่น ไม่อยากให้เกิดเหตุอย่างนั้น แต่แน่นอนสุดท้ายมันเลือกได้คนเดียว พรรคจะส่ง 2 คนไม่ได้ เพราะเขตนึงลงสมัครรับเลือกตั้งได้คนเดียว แต่พรรคก็จะมีช่องทางในการขยับขยาย อย่างเช่นให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นบัญชีรายชื่อ หรือใครที่มีศักยภาพถ้าพรรคเป็นรัฐบาลก็จะให้เป็นผู้ที่เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือภารกิจอื่นๆ ที่พรรคสามารถมอบหมายได้ ซึ่งผมก็คิดว่ามันเป็นวิถีทาง ทางออกที่เป็นรูปธรรม หลายฝ่ายก็น่าจะยอมรับได้ และการพิจารณาตัดสินในบางพื้นที่ก็อาจจะต้องทำโพลเพื่อสำรวจความนิยม เป็นโพลที่ยุติธรรม เป็นโพลที่เที่ยงตรง แม่นยำ เพื่อที่จะนำไปสู่การพิจารณา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำทุกเขต เขตไหนที่มีตัวชัดเจนแล้ว เป็นอดีต ส.ส. เป็น ส.ส. ปัจจุบัน เขาก็ต้องลงสมัครเรื่องนั้นชัดเจน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำโพลนั้น เลือกทำเฉพาะเขตที่มีปัญหาใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคกล่าวว่า จะทำเฉพาะเขตที่คิดว่าก้ำกึ่ง หรือจำเป็นจะต้องพิจารณาด้วยความนิยม หรือด้วยเสียงสนับสนุนจากประชาชน ซึ่งก็เคยทำกันมาในอดีต ยังขอไม่ตอบว่ามีกี่เขต แต่ถ้าเขตไหนจำเป็นก็ทำ ทำเท่าที่จำเป็น เพราะหลายเขตก็พิจารณาได้ ตัดสินได้ และยอมรับซึ่งกันและกันแล้ว

ส่วนปรากฏการณ์ที่พรรคมีคนเข้าคนออกนั้นเกิดจากเรื่องใดนั้น ตนเองไม่อยากจะพูดตรงนี้ เพราะบางเรื่องในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ไม่ควรจะพูด แต่ทั้งหมดไม่ได้แปลว่าถ้ามีคนออกจากพรรคแล้วจะต้องเป็นความผิดของพรรคเสมอไป มันไม่ใช่ เพราะแต่ละคนก็มีเงื่อนไข มีที่มาที่ไปของแต่ละบุคคล ซึ่งเราก็เคารพและตนก็ให้ความเคารพ แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่พรรคต้องทำก็คือ คนที่อยู่ก็ต้องเดินหน้า ทำหน้าที่ต่อไป และต้องหาคนใหม่เข้ามาเติมเต็ม พรรคก็ทำมาอย่างนี้มาตลอดระยะเวลา 70 กว่าปีที่ผ่านมา พรรคถึงอยู่ได้ เราถึงเดินหน้าต่อไปได้ และที่สำคัญก็คือขอให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ อย่าเปลี่ยนแปลงในอุดมการณ์ที่ถูกต้อง ดีงาม และการเดินหน้าไปสู่สถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนเป็นสิ่งที่เราต้องถือว่านี่คือเป้าหมาย ถ้าเราไม่เปลี่ยนสิ่งเหล่านี้พรรคก็ยังเดินต่อได้ ยังก้าวไปข้างหน้าได้ และเดินหน้าสู่ความสำเร็จได้

“ผมเห็นความสำคัญกับทุกคน และผมเคารพทุกคน ในฐานะหัวหน้าพรรค ผมต้องมีหน้าที่ต้องขับเคลื่อนพรรคร่วมกับทุกคนที่ยังแน่นเหนียวยึดมั่นในอุดมการณ์ร่วมกับพรรค พาพรรคไปข้างหน้าไปสู่ความสำเร็จให้ได้ และผมมั่นใจว่าวันนี้ประชาธิปัตย์เดินขึ้น ไม่ได้เดินลงหรอก” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ส่วนงานสัมมนา ส.ส.ของพรรคในวันนี้ มีไฮไลต์ที่น่าสนใจคือการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “คุยกับ ดร.ไตรรงค์” โดย ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งนายจุรินทร์ได้แต่งตั้งเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมเศรษฐกิจของพรรค นอกจากนี้ในช่วงบ่าย รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลแต่ละภาคจะได้นำเสนอผลการดำเนินการที่ผ่านมา พร้อมเสนอแนวทางสำหรับเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และในช่วงเย็นจะมีการสรุปภาพรวมการสัมมนาและปิดงานโดย เลขาธิการพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ก่อนจะมีงานเลี้ยงสังสรรค์กระชับความสัมพันธ์ในช่วงค่ำ.