ก.มหาดไทย สั่งการเน้นยํ้าผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ Community Isolation ต้องพร้อมช่วยดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่ทำ Home Isolation ไม่ได้
วันที่ 2 มี.ค. 2565 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์โควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของศูนย์แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation : CI) ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ณ อาคารอเนกประสงค์ของเทศบาลเมืองบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี และบ้านศรีสุขเมืองทอง อำเภอปากเกร็ด โดยมี นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ปลัดจังหวัดนนทบุรี นายณัฏฐพร แสงบัว นายกเทศมนตรีเมืองบางศรีเมือง นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด นางธนสรณ์ ศรีใช้ประวัติ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่แพร่กระจายอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาการสีเขียว และได้เน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการด้านการเตรียมความพร้อมสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อในกรณีไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ได้
...
ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัดดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จัดทำและเตรียมความพร้อมของศูนย์แยกกักในชุมชน รองรับในกรณีที่ประชาชนที่ไม่สามารถดำเนินการแยกกักตัวที่บ้าน ทั้งมาตรการป้องกันควบคุมโรคภายในชุมชน การบริหารจัดการในการแยกผู้ติดเชื้อ บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จัดสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค และยังกำชับให้ทุกจังหวัดดูแลขยะติดเชื้อ พร้อมเน้นย้ำให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุต่อไปว่า
สำหรับภาพรวมของศูนย์แยกกักในชุมชนมีประมาณ 4,100 แห่งทั่วประเทศ รองรับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไม่รุนแรง หรือกลุ่มสีเขียว ได้ประมาณ 123,000 ราย ขณะนี้มีผู้ที่เข้ารับบริการแล้วประมาณ 28,000 ราย และยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีกกว่า 95,000 ราย ดังนั้น หากประชาชนที่มีผลตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก ทั้ง ATK และ RT-PCR และไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข สามารถเข้ารับการรักษาตัวที่ Community Isolation ใกล้บ้านได้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาและให้การดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อขอรับบริการได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือสายด่วน สปสช. 1330.