4 กระทรวงใหญ่ "ศธ.-อว.-สธ.และมท."ร่วมประชุม เตรียมการ สอบ GAT-PAT หาแนวทางให้ นร.ได้เข้าสอบ โดยไม่เสียสิทธิ์ ไม่ว่าจะเสี่ยงสูง หรือยังอยู่ระหว่างรักษาโควิด-19 ก็ตาม
วันที่ 1 มี.ค. ที่ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดประชุมเตรียมการแนวทางการสอบ GAT-PAT และวิชาสามัญ ของนักเรียนที่อยู่ระหว่างการรักษาอาการของโรคโควิด-19 ให้ได้เข้าสอบ โดยความร่วมมือจาก 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โดยน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยรวมทั้งทั่วโลก ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทุกคนมีความกังวล เพราะต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการศึกษา จึงมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกมิติ และมีความเป็นห่วงนักเรียนนักศึกษา โดยพยายามหาแนวทาง มาตรการ การดำเนินการเพื่อให้เด็กนักเรียนไม่ขาดกระบวนการเรียนรู้ และโอกาส โดยในช่วงนี้ เป็นช่วงของการที่จะสอบของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อเตรียมการและหาแนวทางร่วมกันเพื่อให้นักเรียนได้เข้าสอบ ไม่เสียสิทธิ์ ไม่ว่าจะเสี่ยงสูง หรืออยู่ระหว่างการรักษาอาการของโรคโควิด-19 โดยที่สามารถมาสอบได้และได้รับการยินยอมจากแพทย์ เพราะเราเห็นร่วมกันว่า อนาคตและความมุ่งมั่น มุ่งหวังของนักเรียนในการร่วมสร้างโอกาสเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้จับมือเริ่มต้นการดำเนินการนี้ เพื่อนักเรียนและลูกหลานของท่านทุกคน
...
ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ศธ. ได้ดำเนินงานโดยการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องของการจัดการเรียนการสอน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 กับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย มาโดยตลอด เพื่อทำให้การเรียนรู้ของนักเรียนไม่หยุดนิ่ง การเรียนต้องเดินหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม และในโอกาสนี้ได้ดำเนินการ ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ทปอ. เพื่อช่วยให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสได้เข้าสอบแม้จะติดเชื้อโควิด-19 ถือได้ว่าเป็นความร่วมมือกันทั้ง 4 กระทรวง เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน ดังเช่นทุกภารกิจที่ผ่านมาของ ศบค.ศธ.
ด้านผู้แทน ทปอ. กล่าวว่า ปฏิทินการสอบ GAT/PAT และวิชาสามัญ ปีการศึกษา 2565 กำหนดสอบ GAT-PAT ในระหว่างวันที่ 12-15 มีนาคม 2565 ประกาศผลสอบวันที่ 18 เมษายน 2565 และสอบวิชาสามัญ ในระหว่างวันที่ 19-20 มีนาคม 2565 ประกาศผลสอบวันที่ 20 เมษายน 2565 โดยมีจำนวนผู้สมัคร GAT/PAT และวิชาสามัญ รวมทั้งสิ้น 183,228 คน แบ่งเป็นการสอบ GAT-PAT จำนวน 177,853 คน และสอบวิชาสามัญ จำนวน 155,282 คน โดย 5 วิชาที่มีผู้สมัครสูงสุด ได้แก่ 1. วิชา GAT ความถนัดทั่วไป จำนวน 173,125 คน 2. วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ จำนวน 149,712 คน 3. วิชาสามัญ ภาษาไทย จำนวน 139,711 คน 4. วิชาสามัญ สังคมศึกษา จำนวน 137,372 คน และ 5. วิชา PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ จำนวน 121,055 คน จากสถิติการสมัครในปีนี้ พบว่าวิชาที่มีผู้สมัครมากสุดคือ GAT ความถนัดทั่วไป มีผู้สมัครทั้งหมด 173,125 คน เมื่อเทียบยอดการสมัคร GAT-PAT ในปีก่อนๆ พบว่ามีจำนวนลดลงจำนวนมากตามคาด เนื่องจากการปรับปรุงกระบวนการรับสมัครให้สามารถสมัครหลังทราบผลการคัดเลือกรอบ portfolio จึงทำให้ นักเรียนกว่า 80,000 คนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบเผื่อไว้ก่อน
นอกจากนี้ยังปรับปรุงการเลือกสนามสอบให้ผู้สมัครเลือกสนามสอบเองตามลำดับความต้องการ 5 ลำดับ ผลการจัดสนามสอบ 97.2% ได้สนามสอบลำดับ 1 ที่เลือกไว้ 2.4% ได้สนามสอบลำดับที่ 2-5 ที่เลือกไว้ 0.4% ได้สนามสอบที่ไม่ได้เลือกไว้ และมีสนามสอบทั้งหมด 213 สนามสอบ ทั่วประเทศ ในการจัดห้องสอบสำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการ หรือมีความเสี่ยงสูง ตามที่กำหนดในที่ประชุม ศบค. ครั้งที่ 4/2565 วันที่ 23 ก.พ. 2565 ให้เข้าสอบในสนามที่มีการกำหนดเพิ่มขึ้นเป็นการเฉพาะ ไม่สามารถเลือกสนามสอบได้เอง ได้แก่ (1) สนามสอบพิเศษจังหวัดจันทบุรี สำหรับนักเรียนในจังหวัดจันทบุรี ที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดจันทบุรีร่วมกับศูนย์สอบมหาวิทยาลัยบูรพา และสนามสอบพิเศษมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ซึ่งผู้ประสงค์จะเข้าสอบให้ลงทะเบียนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนการสอบ และสามารถเข้าพักในศูนย์สอบพิเศษจนกว่าจะสอบเสร็จสิ้นทุกวิชา โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่นการเดินทางมายังสนามสอบฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถยนต์ที่จัดให้เป็นการเฉพาะจากหน่วยบริการสาธารณสุข หรือจากสนามสอบจัดให้เท่านั้น
ด้าน ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีเปลี่ยนแปลงปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2565 เฉพาะในส่วนของนักเรียนความสามารถพิเศษ และในส่วนของโรงเรียนที่จัดห้องเรียนพิเศษ เพื่อให้โรงเรียนสามารถเป็นสถานที่จัดสอบรายการต่างๆ และได้ขอให้โรงเรียนให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเป็นสถานที่จัดสอบตามรายการและวันดังกล่าว โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย และสำหรับนักเรียนที่กำลังอยู่ในระหว่างการรักษาอาการป่วยนั้น จัดห้องสอบให้เป็นการเฉพาะ ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และสร้างความมั่นใจและปลอดภัย ไม่เป็นสถานที่แพร่เชื้อ รวมทั้งต้องเน้นย้ำให้นักเรียนที่ป่วยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถยนต์ที่จัดให้เป็นการเฉพาะจากหน่วยบริการสาธารณสุขหรือจากสนามสอบจัดให้เช่นกัน เพราะการดำเนินการในครั้งนี้ เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สิทธิในการสอบเพื่อการศึกษาต่ออย่างไม่มีอุปสรรคใดๆ ซึ่งก่อนวันสอบนั้น ต้องมีการรายงานรายชื่อ จำนวน และสถานที่พักรักษาตัวให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีสถานศึกษาเป็นสนามสอบได้ทราบก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าสอบจะเห็นได้ว่า เราสามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้ หากปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งมีแผนเผชิญเหตุรองรับ
นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การจัดการสอบให้ปฏิบัติตามมติของ ศบค. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ชึ่งประกอบด้วย มาตรการ ด้านสถานที่สอบ ประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียนในการคัดกรองและให้คำแนะนำด้านสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด จัดให้มีพื้นที่แยกสำหรับจัดการสอบเป็นสัดส่วนแยกกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลุ่มผู้ติดเชื้อ เน้นการระบายอากาศที่ดี จัดที่นั่งสอบห่างกันไม่น้อยกว่า 2 เมตร ด้านผู้เข้าสอบ เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังการเข้าสอบ งดการพูดคุย เว้นระยะห่าง การเดินทางไปสนามสอบควรใช้รถส่วนตัวหรือประสานหน่วยสถานที่สอบ หน่วยบริการสาธารณสุข กรณีไม่มีรถส่วนตัว ด้านผู้คุมสอบ ปฏิบัติการคุมสอบตามมาตรฐานการป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุข เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ใช้เวลาในการคุมสอบในห้องสอบให้น้อยที่สุด รวมถึงการวางแผนจัดการสอบให้เหมาะสม สนับสนุนให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในนามคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ศูนย์อนามัย ศึกษาธิการจังหวัด ทปอ. จังหวัด ดำเนินการจัดการสอบให้เป็นไปตามมาตรการ รวมไปถึงการใช้พื้นที่ แยกกัก ชุมชน CI Hospitel ในการสนับสนุนการสอบ การจัดที่พัก การรับส่งผู้ติดเชื้อ และในส่วน กทม. และปริมณฑล ได้ร่วมกับ มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี ในการจัด TAXI ฉุกเฉิน ให้บริการรับ-ส่งผู้ติดเชื้อ ส่วนในต่างจังหวัดให้พิจารณาให้ คกก. โรคติดต่อจังหวัด ดำเนินการร่วมกับ ผู้จัดสอบในพื้นที่ต่อไป
ทั้งนี้ จากการประชุมดังกล่าวมีข้อสรุปร่วมกันว่า ได้ร่วมกันวางแผนและกำหนดแนวทางการเตรียมความพร้อมเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับนักเรียนที่ติดเชื้อและผู้มีความเสี่ยงสูงในการเข้าสอบคัดเลือกระบบ TCAS โดยเห็นควรส่งข้อมูลมาตรการการจัดสอบ GAT- PAT และวิชาสามัญ สำหรับผู้ติดเชื้อให้ทุกจังหวัดพิจารณา โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สาธารณสุข ศึกษาธิการ ทปอ.พื้นที่ อำนวยความสะดวกในการจัด สถานที่สอบ อาจใช้ CI หรือสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อขยายศูนย์สอบ ทั้ง 6 ศูนย์ และให้นักเรียนที่ติดเชื้อประสงค์สอบประสานลงทะเบียนศูนย์สอบได้ ระหว่างก่อนการสอบ และให้ คกก. พิจารณา การดูแล ที่พัก การเดินทาง ให้เหมาะสม ปลอดภัย และระหว่างนี้ ผู้ปกครอง นักเรียน ดูแลสุขภาพโดยยกระดับมาตรการส่วนบุคคลขั้นสูงสุด เพื่อลดการติดเชื้อ