ประธานวิปฝ่ายค้าน ร่ายยาวทุกข์ที่รัฐบาลสร้างให้ประชาชน แนะนายกฯไปทบทวนตัวเอง หรือไม่ก็ยุบสภา ชี้เป็นกรรม ที่ไม่ยอมปฏิรูปการเมือง จนพรรคแตก สภาล่ม
เมื่อเวลา 22.49 น. วันที่ 18 ก.พ. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในการประชุม
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวอภิปราย ถึงทุกข์ปากท้องเศรษฐกิจ คือ แพงทั้งแผ่นดิน ค่าครองชีพแพง ราคาสินค้าขึ้นทุกตัว แต่ค่าแรงไม่ปรับขึ้น อัตราการตกงานที่พบว่ามีจำนวนมาก ภาวะสินค้าเงินเฟ้อ และเงินฝืด โดยอยากขอให้รัฐบาลไปดูเรื่องต้นทุน แม้น้ำมันจะแพงขึ้นจริง ต้องไปดูเรื่องการขึ้นราคาสินค้าด้วยว่าเป็นธรรมหรือไม่ เพราะยังพบการฉวยโอกาสขึ้นราคา เช่นเดียวกับเรื่องล็อตเตอรี่
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงทุกข์จากปัญหาสังคมซ้ำเติม ในเรื่องการถูกหลอกลวงทางออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหาการศึกษา ยาเสพติด และยังมีทุกข์เรื่องการเมือง เพราะคนในพรรครัฐบาลแตกกันเอง จนส่งผลหลายเรื่องทั้งสภาล่ม จนเกิดเหตุการณ์ ส.ส.สันหลังยาว โดยวิธีแก้ง่ายนิดเดียวคือให้นายกฯไปคุมพวกตนเองไม่ต้องมาด่าฝ่ายค้าน เพราะนี่คือกรรม ที่นายกฯไม่ยอมปฏิรูปการเมือง เลยทำให้การเมืองกลับไปสู่สิ่งที่น่าเป็นห่วง
...
ส่วนเรื่องเหมืองทองอัครา นายกฯ พูดชัดเจนว่าขอรับผิดเอง แต่กลับพบพิรุธ ที่บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ดจะได้สัมปทานเพิ่มอีกเกือบ 1 ล้านไร่ โดยนายสุทิน กล่าวว่าการสั่งปิดไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ใช้วิธีไม่ฉลาด ด้วยการใช้มาตรา 44 โดยไม่ศึกษาผลทางวิทยาศาสตร์ไปบ่งชี้ ดังนั้นหากขยายสัมปทานใหม่เพิ่มถือเป็นเรื่องที่หนักกว่าการเสียค่าปรับ ขณะเดียวกันนายสุทินยังกล่าวถึงการปล่อยปะละเลยเรื่องกักตุนหมูของรัฐบาล และเรื่องทุกข์การทุจริตที่ซ้ำเติมประชาชนด้วย
โดยนายสุทิน ได้กล่าวถึงข้อเสนอแนะทางแก้ให้กับรัฐบาล โดยอันดับแรกขอให้ยอมรับความจริง ส่วนเรื่องน้ำมันแพงได้แนะนำให้ลดการเก็บภาษีสรรพสามิต พร้อมให้ทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ส่วนเรื่องหลักการแก้หนี้คือการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย โดยแนะนำให้หารายได้จากคริปโต เคอร์เรนซี ที่ตลาดกำลังเติบโต แต่รัฐบาล นอกจากจะไม่สนับสนุนแล้ว ยังไปเก็บภาษีเพิ่ม พร้อมเสนอให้นายกฯแก้ปัญหาการทุจริต และต้องปฏิรูปการเมือง นอกจากนี้ยังขอให้นายกรัฐมนตรีไปทบทวนตัวเอง ว่าทุกวันนี้อยู่บนกองทุกข์ หรือกองสุข จึงอยากให้ยอมเสียสละเพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ หรือไม่ต้องยุบสภา เพราะจะได้ไปทั้งหมดสภา โดยยืนยันว่ากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับ เสร็จทันแน่นอน
"ผมเพียงจะขอชีวิตคนไทย 60 ล้านคนออกจากอุ้งมือท่าน ถ้าท่านไม่ออก จะเกิดอะไรขึ้น คนจนจะพุ่งขึ้น 1 ใน 3 ผมไปคุยกับนักวิชาการ ห่วงอย่างมาก หลายคนจะจนเฉียบพลัน และหลายคนจะจนเรื้อรัง ที่ไม่ฟื้น เพราะความเหลื่อมล้ำที่ท่านทำขึ้นมา ต่อให้จีดีพีฟื้น ก็จะไปกระจุกกับคนรวยไม่กี่กลุ่ม เมื่อจนเฉียบพลัน แล้วจะจนเรื้อรัง และในที่สุดก็จะกลายเป็นจนถาวร เจ๊ง เพราะรัฐบาลแจกอย่างเดียว" นายสุทิน กล่าว
โดยนายสุทิน ใช้เวลาการอภิปรายรวมทั้งสิ้น 90 นาที จบการอภิปรายในเวลา 00.15 น. และเหลือผู้อภิปรายต่อจากนี้อีก 7 คน ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานในที่ประชุมได้ให้เวลาในการอภิปรายคนละ 10 นาที จากเดิม 12 นาที เพื่อให้ทุกคนได้อภิปราย