รมว.เกษตรและสหกรณ์ ยัน ไม่เคยปกปิดโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ชี้ตลอด 3 ปี ทำมาตลอด ลั่นหากใครบอกมีวัคซีนแก้ เป็นของปลอม รอข่าวดีกลางเดือน พ.ค. นี้ ไทยกำลังรอผลทดลองขั้นสุดท้าย
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 18 ก.พ. 2565 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวชี้แจงกรณีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF ว่า สิ่งที่นำมาวิจารณ์สามารถพูดให้เก่งได้หมด แต่ไม่มีใครรู้ว่าข้าราชการที่ทำงานนั้นกว่าจะผ่านอุปสรรคแต่ละขั้นมาได้เป็นอย่างไร ยืนยันไม่มีใครเพิกเฉย หรืออยากให้มีปัญหากับเกษตรกร หรือผู้บริโภค ซึ่งตนเองเข้าใจที่สมาชิกผู้แทนราษฎรห่วงใยประชาชน แต่ตนเองก็เป็นนักการเมือง และมีความห่วงใยเช่นเดียวกัน
โดยโรค ASF เกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 101 ปีที่ผ่านมา และมีการระบาดไปทั่วโลก จนมาสู่การระบาดในประเทศไทย โดยมีระบาดที่รวดเร็วและระบาดได้หลายช่องทาง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในการป้องกัน แต่รัฐบาลมีการป้องกันถึง 3 ปีเต็ม ถึงตรวจเจอเชื้อ พร้อมยืนยันว่า แม้จะมีการระบาดมาแล้ว 101 ปี แต่ก็ยังไม่มีวัคซีน หากใครออกมาระบุว่ามีวัคซีนแล้วถือเป็นของปลอม ส่วนที่ไทยกำลังอยู่ระหว่างการทดลอง ที่เป็นการจับมือกับสถาบันการศึกษา โดยผลการดำเนินจะออกมาในขั้นสุดท้ายว่าสำเร็จหรือไม่ในกลางเดือน พ.ค. นี้
...
"รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ในเรื่องของ ASF มันไม่มีใครปิดบังกันได้หรอกครับ ทุกฝ่ายทราบ ท่านก็บอกว่าเกษตรกรก็ทราบ มันถึงได้มีการระบาด มาตรการต่างๆ มันถึงได้เกิดขึ้น แต่ผมยืนยันอีกครั้งว่ามันไม่มีการปกปิดแน่นอน ไม่มีประโยชน์กับใครทั้งสิ้น" นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย ระบุว่าการดำเนินการในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินตามมาตรการต่างๆ ทั้งเยียวยาและชดเชยค่าเสียหายเกษตรกรทั้งรายเล็ก และรายย่อย โดยจ่ายให้ในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรค ASF ทั้งหมด ประมาณ 1,100 ล้านบาท พร้อมกำชับเงินต้องถึงมือประชาชนทุกราย อีกทั้ง ในวันที่ 24 ธ.ค. 2563 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย ทั้ง รายย่อย รายกลาง รายใหญ่ ได้จัดงานขอบคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมปศุสัตว์ ว่า ดำเนินการป้องกันโรค ASF อย่างได้ผล โดยตนเองเป็นแขกรับเชิญ ไม่มีการใช้เงินรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว รวมทั้งยังเชิญข้าราชการมารับรางวัล ซึ่งไม่ใช่การจัดงานมากลบเกลื่อน จึงขอให้ไปสอบถามคณะกรรมการจัดงานดังกล่าวได้
"ถ้าผมเป็นคนจัดงานวันนั้น ทำเพื่อกลบเกลื่อน ผมไม่กล้าไปว่าคนอื่นหรอกครับ ผมนี้เลวจริง แต่มันไม่ใช่เลยครับ มันไม่ใช่สิ่งที่ท่านเอามาขึ้นชาร์ตเลย ผมขอความกรุณา ท่านชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ณ วันนั้นมันเป็นอย่างไร เพราะนั้นเป็นการสะท้อนว่าการป้องกัน ASF ภาครัฐได้ผล หากไม่ได้ผล เขาคงไม่เสียเงินส่วนตัวมาจัดงานแสดงความขอบคุณในน้ำใจหรอกครับ" นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย ยังระบุว่าการส่งออกเนื้อสุกรไปต่างประเทศ ไม่มีการเอื้อให้กับนายทุนทั้งสิ้น โดยสามารถตรวจสอบจากเอกสารได้ ว่ามีบริษัทใดบ้างส่งออก ส่วนกรณีเรื่องการเคลื่อนย้ายสัตว์มีเจ้าหน้าที่ไปเอี่ยว ขอให้ส่งข้อมูลมาให้ ตนเองพร้อมที่จะเอาผิดและร่วมมือตรวจสอบ เพราะไม่ได้เล่นการเมืองเพื่อหาผลประโยชน์ และขอให้ไปสอบถามโบรกเกอร์เหล่านั้นว่าไปรับเงินใครมา เพราะยินดีจะตรวจสอบให้ พร้อมขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่เป็นห่วง โดยกระทรวงได้สั่งให้หน่วยงานไปทบทวนและสั่งในเรื่องต่างๆ แล้ว ยืนยันจะไม่ทำนาบนหลังคน หรือผลักภาระค่าใช้จ่ายไปที่ประชาชน และจะทำให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด