“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ยื่นหนังสือลาออก ส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว มีผล 4 ก.พ. พร้อมเดินหน้าต่อในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ผลักดันนโยบายให้เป็นรูปธรรม หวังคนกรุงสนับสนุนจากผลงาน ส.ส.ที่ผ่านมา
วันที่ 3 ก.พ. 2565 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวที่รัฐสภา ภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร หรือ ผู้ว่าฯ กทม. โดยการลาออกจากความเป็น ส.ส. จะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (4 ก.พ. 2565)
นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า รู้สึกตื่นเต้น ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่ต้องพิสูจน์บทบาทในการบริหารงานเมือง เพื่อให้คนกรุงเทพฯ เลือกเข้าไปทำงาน ตอนนี้เหมือนคนที่มาสมัครงานใหม่ มาสัมภาษณ์งานกับเจ้านายซึ่งก็คือคนกรุงเทพฯ เชื่อว่ากรุงเทพมหานครเปรียบสมือนสำนักงานใหญ่ที่ต้องการคนเข้ามาจัดการดูแลผู้อยู่อาศัย และผู้ว่าฯ กทม. ก็เหมือนผู้จัดการสำนักงาน ผู้จัดการโรงงาน ผู้จัดการฝ่ายบุคคล โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคต่อทันที ซึ่งในระหว่างนี้ทีมทำงานกำลังกระชับนโยบายให้ได้มากที่สุด เพื่อผลักดันให้เป็นรูปธรรมไม่เกิน 10 ด้าน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น “กรุงเทพฯ เมืองปลอดภัย” มุ่งเน้นที่จะสร้างความปลอดภัยให้คนกรุงเทพฯ จากการสัญจรและจากอาชญากรรมบนท้องถนน หวังว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนจากผลงานในฐานะ ส.ส. ที่ผ่านมา
...
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าระยะเวลา 3 เดือนที่มีอยู่จนกว่าจะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. น้อยไปหรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า ต้องทำงานเต็มที่ และไม่รู้สึกกังวลกับวันเวลาเลือกตั้งที่ยังไม่แน่ชัด ไม่หวั่นใจหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนไม่ได้มีการเลือกตั้ง เพราะถ้าวางแผนงานโดยไปอิงกับแผนเลือกตั้งของรัฐบาลก็จะทำงานได้ลำบาก อย่างในการเลือกตั้งปี 2562 ก็มีการเลื่อนมาหลายครั้ง “เราอิงกับตรงนั้นไม่ได้ เพราะเราไปสั่งเขาไม่ได้ และเชื่อเขาก็ไม่ได้”
อย่างไรก็ตาม นายวิโรจน์ ยังได้ฝากให้ประชาชนติดตามการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ. ต่อไป เข้าใจว่าพรรคก้าวไกล และพรรคฝ่ายค้าน เตรียมแนะนำสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ เพราะประชาชนเข้าใจแล้วว่าปัญหาการเมือง ปัญหาปากท้อง ปัญหาคุณภาพชีวิต และความสิ้นหวังในอนาคตเป็นเรื่องเดียวกัน และถ้าดูการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาจะเห็นว่าประชาชนออกไปใช้สิทธิ์จำนวนไม่น้อย เพราะเห็นแล้วว่าการเลือกตั้งเป็นกลไกสำคัญในการคลายวิกฤติครั้งนี้.
