วิป 3 ฝ่ายเคาะซักฟอกไม่ลงมติ ฝ่ายค้านขึงเวทีขยี้ 22 ชั่วโมง รัฐบาลได้ 8 ชั่วโมงไว้แก้ต่าง “ประยุทธ์” เรียก “วิษณุ” ติวเข้มทำการบ้านตอบญัตติ “เนติบริกร” ยันกฎหมายลูกไม่มีทางคลอดก่อน ก.ค.แน่ “ไพบูลย์” โต้รัฐบาลอยู่ครบวาระ เบรกเลิกฝันยุบสภาฯ ไล่ส่งทนไม่ไหวก็ลาออกไป “สมศักดิ์” บอกปัญหาในบ้านแก้ไปแล้ว การันตีสามมิตรไม่ทิ้ง พปชร. “ชลน่าน” ลั่นไม่ยอมเตะหมูเข้าปากหมา กระแทก “บิ๊กตู่” อยู่ต่อยิ่งเลวร้าย “ทักษิณ” แซะนายกฯรักบ้านเมืองจริงโชว์สปิริตไขก๊อก ฟันธงไม่มีปฏิวัติ-เลือกตั้งใหม่กลางปี “วิโรจน์” ทิ้ง ส.ส.ลุยชิงผู้ว่าฯ กทม. ปรับแคมเปญ 3 เดือนตีตื้น “ชัชชาติ”
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แจ้งที่ประชุม ครม.ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะให้ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 ก.พ. ที่ประชุมวิปสามฝ่ายได้หารือได้ข้อสรุปให้เวลาฝ่ายค้านอภิปราย 22 ชั่วโมง ส่วนรัฐบาลได้ 8 ชั่วโมง
วิป 3 ฝ่ายแบ่งเวลา 22 ต่อ 8 ชม.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร (วิป 3 ฝ่าย) เพื่อหาข้อสรุปวันและเวลาอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 15.10 น. ตัวแทนวิป 3 ฝ่าย นำนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปจะมีการเปิดอภิปรายวันที่ 17-18 ก.พ. วันแรกประชุมตั้งแต่เวลา 09.30-00.30 น. วันที่ 2 ตั้งแต่ 09.00-24.00 น. ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 22 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลได้ 8 ชั่วโมง บวกกับเวลาอีกนิดหน่อย เพื่อให้ได้มีการชี้แจงได้ชัดเจน ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะใช้เวลาให้คุ้มค่าเป็นประโยชน์สร้างสรรค์ เป็นธรรมที่สุด
...
ปธ.วิปรัฐให้ฝ่ายค้านขย่มเต็มที่
ด้านนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่ารัฐบาลให้เวลาฝ่ายค้านเต็มที่ การอภิปรายตามมาตรา 152 ถือเป็นประโยชน์กับรัฐบาลที่จะอภิปรายถึงจุดบกพร่องจากฝ่ายค้าน มั่นใจว่าใน 8 ชั่วโมงรัฐบาลจะตอบคำถามจากสิ่งที่ฝ่ายค้านชี้แนะว่ากล่าวได้ เพื่อแก้ไขสิ่งที่รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการ หวังว่าจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่เกิดการประท้วงวุ่นวาย ส่วนองค์ประชุมสภาฯ ไม่น่ามีปัญหาเพราะพรรค พปชร.มี ส.ส.ติดโควิดเพียง 1 คน กลุ่มเสี่ยงกักตัวครบ 7 วันแล้ว ตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบ เข้าประชุมตามปกติ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยต้องตรวจสอบอีกครั้ง
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การอภิปรายฯ ตามมาตรา 152 ฝ่ายค้านมีหน้าที่โดยตรงในการดำเนินการต่อรัฐบาล ดังนั้น ส.ส.พรรครัฐบาลจะไม่ตอบชี้แจงในการอภิปราย แต่จะให้ฝ่ายรัฐมนตรีใน ครม.ตอบชี้แจงให้ชัดเจน
“ไพบูลย์” ยันรัฐบาลอยู่ครบวาระ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงสถานการณ์ในพรรคหลังแพ้ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ว่า เป็นเพียง 1 ใน 400 เขต เหลือ 399 เขต แค่ให้ข้อมูลกับพรรค แต่ไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญใดๆ พรรคต้องทำงานดูแลประชาชนหนักขึ้น เลือกตั้งครั้งหน้าต้องรออีกปีกว่า ยังมีเวลาให้รัฐบาลทำงาน เชื่อมั่นจะไม่มีการยุบสภา จะอยู่ครบวาระเพื่อเลือกตั้งใหญ่เดือน มี.ค.2566 หลังการเลือกตั้งมีเสียงวิจารณ์เป็นปกติ แต่เพียง 1 เขต จะนำมาตัดสินเขตที่เหลือไม่ได้ พรรคยังมี ส.ส.กทม.อีก 11 คน บริบทแต่ละเขตเลือกตั้งแตกต่างกัน มั่นใจเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าพรรคจะเข้าไปอยู่ในใจประชาชนได้ พอกันทีกับการเรียกร้องให้ยุบสภาพูดมาตั้ง 3 ปีแล้ว ยืนยันพรรคเดินหน้าได้อยู่แล้ว อย่าคิดเยอะ พรรคการเมืองมีปฏิปักษ์อยู่แล้ว แม้กระทั่งคนที่เหมือนจะเป็นมิตร แต่มีการแข่งขัน ต้องรอให้มีการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ฝ่ายค้านทนไม่ไหวก็ลาออกไป
เมื่อถามว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากพรรค พปชร.ยังไม่ปรับเปลี่ยนจะเหลือ ส.ส.ต่ำกว่า 50 คน นายไพบูลย์ตอบว่าก็พูดกันไป พรรคต้องแข่งขันกัน มีการให้ร้ายพรรคคู่แข่ง ดิสเครดิตทางการเมือง แต่พรรค พปชร.ไม่ทำแบบนั้น เมื่อถามว่ากรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค พปชร. โพสต์เฟซบุ๊กว่าศัตรูของศัตรูคือมิตร นายไพบูลย์ตอบว่า อย่าคิดเยอะ การเมืองก็พูดกันไป ไม่มีสาระที่จะนำมาเป็นเรื่องภายในพรรค ยืนยันไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล รัฐบาลและสภา จะอยู่ไปอีกปีกว่า ส่วนคนที่เรียกร้องให้ยุบสภา รู้สึกเห็นใจ เพราะเรียกร้องมาตั้งแต่ปีแรก ห่วงว่าจะอึดอัดจนทนไม่ไหว ถ้าทนไม่ไหวก็ลาออกไป ไม่เป็นไร
“สมศักดิ์” ชี้ปัญหาในพรรคแก้แล้ว
ก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมพรรคพลังประชารัฐ มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุมร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม วาระการประชุมเพียงแจ้งวาระการประชุมสภาฯประจำสัปดาห์ บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงามี ส.ส.เข้าร่วมบางตา โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรค พปชร. อยู่ในช่วงขาลงจะเป็นพรรคต่ำกว่า 50 เสียง ถ้าไม่มีเปลี่ยนแปลงว่า ภายในพรรคเปลี่ยนแปลงกันมากแล้ว ในช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อและผลการเลือกตั้งซ่อม กทม. เขต 9 สิ่งที่ปรับเปลี่ยนปรับปรุงได้แก้ปัญหาไปแล้ว รัฐบาลและรัฐสภายังมีเวลากว่า 1 ปี 2 เดือนทำให้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่คนไม่เข้าใจ คะแนนนิยมพรรคแล้วแต่คนมองตกต่ำหรือไม่ ต้องรอดูก้าวเดินต่อไปของพรรค หัวหน้าพรรคคงเข้าใจอะไรมากมายและก้าวเดินต่อไป
การันตีสามมิตรไม่ทิ้ง พปชร.
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค โพสต์เฟซบุ๊กระบุศัตรูของศัตรูคือเพื่อน เป็นเรื่องเล็กๆไม่สนใจ ข้อกังวลว่า ส.ส. 21 คนที่ออกไปจะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน เรื่องจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อย่าคิดไปก่อน เมื่อถามว่ากลุ่มสามมิตรจะยังอยู่กับพรรคพปชร.หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบ “อยู่ครับ” กระแสข่าวที่ระบุว่าเลือกตั้งครั้งหน้ากลุ่มสามมิตรจะไม่อยู่กับพรรค พปชร.แล้ว ขึ้นอยู่กับสื่อจะมอง เพราะสื่อเป็นคนวิเคราะห์ ตอนนี้สื่อพัฒนาไปมาก บางทีเรายังไม่คิด แต่คิดให้เราไปแล้ว ต้องคิดตามว่าเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ เมื่อถามย้ำว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงในนามพรรค พปชร. แน่นอนใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า สื่อคิดนำให้ อย่าไปถามอย่างนั้น เพราะไม่สร้างสรรค์
“ชลน่าน” ไม่เตะหมูเข้าปากหมา
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายค้านไม่ได้กลัวที่จะลาออกหากกดดันรัฐบาลได้ แต่ต่อให้ลาออกอย่างไรรัฐบาลรวมตัวเป็นเสียงข้างมาก บริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ ไม่อยากเตะหมูเข้าปากหมา รัฐบาลคงดีใจที่ไม่มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบในสภาฯ ทำหน้าที่เป็นองค์ประชุมในสภาฯได้ตลอด บริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ เพราะเขาด้านพอที่จะไม่เกรงกลัวอำนาจอธิปไตยของประชาชน คิดว่ายึดอำนาจมาแล้วจะทำอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแค่ฝ่ายค้านลาออก ก็ไม่สามารถอยู่ได้ จะคืนอำนาจให้ประชาชน แต่รัฐบาลนี้ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อแต่ละฝ่ายมีเป้าหมายชัดเจนจะห้ำหั่นกันไม่แน่ หาก 21 เสียงมาอยู่ร่วมฝ่ายค้าน พวกเราไม่ต้องลาออกเลยหรือแม้ลาออกแล้ว 21 เสียงไม่เป็นฝ่ายอะไร ไม่ทำงานร่วมกับฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลก็ล่มอยู่แล้ว
ไล่ “บิ๊กตู่” อยู่ต่อยิ่งเลวร้ายกว่านี้
นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงการยื่นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่า ฝ่ายรัฐบาลกำหนดวันอภิปรายระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ. ดูเนื้อหาตามญัตติที่ยื่น 2 วันฝ่ายค้านจะได้เวลาไม่เกิน 30 ชั่วโมง จากที่ขอเบื้องต้น 36 ชั่วโมง เนื้อหาอภิปรายกำหนดไว้ 4 กลุ่ม ได้แก่ วิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง วิกฤติโรคระบาด วิกฤติการเมือง และวิกฤติปัญหาเฉพาะ เช่น เหมืองทองอัครา PM2.5 การประมง และการทุจริตคอร์รัปชัน และยาเสพติด จะใช้บรรทัดฐานเดิมไม่ได้ เพราะประเด็นเนื้อหาการอภิปรายมาก จะพยายามต่อสู้ให้ได้เวลามากที่สุด หรือใกล้เคียง 36 ชั่วโมง แม้ไม่มีการลงมติแต่เสนอข้อเท็จจริงให้รัฐบาลรับทราบ ในสิ่งที่รัฐบาลมองไม่เป็นปัญหา เชื่อว่าฝ่ายค้านแต่ละพรรคจะตบท้ายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ควรพิจารณาลาออกได้แล้วหรือคืนอำนาจให้ประชาชน ถ้าอยู่ต่อไปจะเลวร้ายไปกว่านี้ ประเทศจะเสียหายมากกว่านี้
“สุวัจน์” จี้แก้เสถียรภาพ รบ.ด่วน
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกฯ ในฐานะ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองว่า ปีสุดท้ายของรัฐบาลบรรยากาศจะเป็นอย่างนี้ เริ่มเตรียมผู้สมัคร เปิดตัวพรรคอุ่นเครื่อง ชิมลาง จะได้ทดสอบความนิยม ทดสอบนโยบายต่างๆ แต่ละพรรคจะได้ปรับปรุง อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพรัฐบาลต้องดูให้ดี สภาฯ ล่มนับองค์ประชุมไม่ครบ เป็นสัญญาณไม่ดี เหมือนรัฐบาลไม่มั่นคงนัก การทำงาน ในสภาฯ ไม่ราบรื่นกระทบการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลจะอยู่ยาวแค่ไหนไม่ทราบ แต่เสถียรภาพต้อง รีบแก้ไขด่วนให้ตัวเลขต่างๆนิ่ง พรรคแกนนำกับพรรค ร่วมรัฐบาลต้องหารือกันใกล้ชิดเพื่อประคองรัฐบาลทำงานแก้ไขให้เต็มที่ จะยุบสภาเลือกตั้งเมื่อไหร่ว่ากันไป ทุกนาทีมีค่า จะปรับ ครม.หรือไม่เป็นเรื่องของนายกฯ ทุกพรรคเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว
นายกฯพ้นกักตัวเข้าทำเนียบฯ
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบ รัฐบาลเป็นวันแรกหลังกักตัวครบ 7 วัน จากเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย โดยเวลา 08.30 น. คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ประธานมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกเข้าพบมอบดอกป๊อปปี้ เนื่องในโอกาสวันทหารผ่านศึก 3 ก.พ. ประจำปี 2565 ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯ ร่วมอุดหนุน ยืนยันรัฐบาลจะดูแล ทหารผ่านศึกและครอบครัวมีความเป็นอยู่ดีขึ้น มีอาชีพ มีรายได้ ขณะที่คุณหญิงแสงเดือนขอบคุณและเป็นกำลังใจให้นายกฯ และรัฐบาลบริหารประเทศ ทั้งนี้นายกฯ มีสีหน้าไม่ค่อยสดชื่น แพ้อากาศไอและจามเป็นระยะ จนถูกถามว่า ดูมีอาการเหนื่อยๆ นายกฯ ได้ตอบกลับว่า เหนื่อยแต่ก็ต้องทำ วันนี้เพิ่งออกจาก กักตัววันแรกก็กลับมาทำงาน
เรียก “วิษณุ” ติวเข้มรับมือญัตติร้อน
จากนั้นเวลา 14.20 น. ที่ห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้เรียกนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เข้าหารือด่วนเตรียมการชี้แจงญัตติอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของฝ่ายค้าน นานกว่า 2 ชั่วโมง นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ สอบถามถึงการอภิปรายที่จะมีขึ้นเพื่อเตรียม พร้อมบางเรื่องนายกฯ อ่านญัตติแล้วไม่เข้าใจ ผู้ยื่น หมายถึงพฤติกรรมอะไร ตนไม่เข้าใจเช่นกัน เช่น เขียนว่าการเลือกตั้งย้อนยุคไปสู่ระบบอุปถัมภ์และการใช้เงินเป็นหลัก เกิดคำถามขึ้นว่าใครต้องตอบเพราะเราไม่มีกระทรวงเลือกตั้ง ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดการเลือกตั้ง และรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบการมีระบบอุปถัมภ์ หรือใช้เงิน เป็นหลัก ซึ่งไม่ถึงขนาดว่าต้องตอบทุกเรื่อง เพราะมันเยอะ แล้วฝ่ายค้านเองพูดเรื่องที่ไม่ได้เขียนมาในญัตติได้
ไม่เครียดยังไม่ต้องพึ่งมือ ส.ส.โหวต
นายวิษณุกล่าวว่า ในการหารือกับนายกฯ ครั้งนี้ ยังเป็นการเตรียมข้อมูลบางอย่าง โดยมีทีมงานของนายกฯ รับฟังด้วย การอภิปรายนายกฯ จะชี้แจงกว้างๆ เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องโรค ระบาดเป็นของกระทรวงเกษตรฯ ราคาสินค้ากระทรวงพาณิชย์ เหมืองอัครากระทรวงอุตสาหกรรม แต่นายกฯ ไม่ได้มีความกังวลใดๆต่อการอภิปราย เพราะอภิปราย โดยไม่ลงมติ และสามารถเตรียมข้อมูลได้ทัน
ย้ำ 2 ก.ม.ลูกไม่คลอดก่อน ก.ค.
นายวิษณุกล่าวถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพรรคการเมืองว่า กกต.แจ้งว่า รับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นจะส่งร่างมาให้วันที่ 7 ก.พ. ส่งไปวิปรัฐบาลแล้วแจ้งกลับมาที่รัฐบาล ก่อนนำเข้า ครม.วันที่ 15 ก.พ. รายงานให้ทราบให้ นายกฯ ลงนามส่งประธานสภาฯ ได้ทันที รวมถึงนายกฯ ลงนามรับรองร่างกฎหมายลูกที่ ส.ส.เสนอด้วยคราวเดียวกัน ไทม์ไลน์ที่เคยคาดการณ์กฎหมายลูกจะบังคับใช้ เร็วที่สุดคือช่วง ก.ค. แต่อาจช้ากว่านั้นก็ได้ เมื่อทูลเกล้าฯ แล้วทรงมีเวลาอีก 90 วัน แต่ย้ำว่าไม่ก่อน ก.ค.แน่ เมื่อถามว่า ดูเหมือนบรรยากาศขณะนี้จะบีบให้ยุบสภา นายวิษณุย้อนถามพร้อมกับยิ้มว่า แน่หรือ เมื่อถามว่า กฎหมายลูกไม่เสร็จออกเป็น พ.ร.ก. หรือ ประกาศ กกต.ได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า กกต.ไม่กล้าออก ถ้าไว้ใจให้รัฐบาลออกก็ออกได้ แต่คง ไม่มีใครไว้ใจให้รัฐบาลเขียนกติกาเอง
“บิ๊กป้อม” ยังนิ่งเก็บตัวเงียบ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยังคงไม่ได้เข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล และยังไม่มีท่าทีใดตั้งแต่พ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร แม้มีวาระงานเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 1/2565 เดิมประชุมที่บัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ได้เปลี่ยนไปประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดแทน
“สุพัฒนพงษ์-ดอน” ต่อยอดซาอุฯ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า จากการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย นายกฯสั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการหลังการเจรจา มอบหมายนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ ตั้งกรรมการเร่งติดตามการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ให้กระทรวงแรงงานประสานหน่วยงานในกำกับเร่งเตรียมพร้อมการเยือนของรัฐมนตรีสองฝ่ายภายในเดือน ก.พ.เพื่อลงนาม MOU ขับเคลื่อนเร็วกว่าที่กำหนดไว้ภายใน 2 เดือน
“โทนี่” สะกิด “บิ๊กตู่” รักชาติให้ไขก๊อก
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวในรายการ CARE คิด เคลื่อน ไทย หัวข้อการเมืองไทยวิปโยค การเมืองโลกวิปริต ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลคงอยู่ได้ไม่นานและอยู่ลำบาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ตั้งใจดีแต่โลกเปลี่ยนเร็วมาก พล.อ.ประยุทธ์อาจตามไม่ทัน ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง จึงไม่มีใจรักที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงใจการเลือกตั้ง คราวหน้าพรรค พปชร.จะแตกออกไป อย่างตอนนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรคไป เมื่อเสร็จรวมการเฉพาะกิจจะมีคนแยกออกไป จึงเป็นห่วงว่า พล.อ.ประยุทธ์ เจอด่านแรกนายกฯ 8 ปีตามรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร เมื่อครบแล้วจะเป็นอย่างไร จะชูใครมาเป็นนายกฯหรือจะชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังเดินไหวอยู่รึเปล่าต้องฟิตหน่อยแล้ว พปชร.จะชูใครและความขัดแย้งอย่าบอกว่าไม่มี รัฐบาลไม่น่าจะอยู่ได้นานจากสถานการณ์ พปชร.ตอนนี้ ประชาชนเห็นกันอยู่ เลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม.พรรค พปชร.ได้คะแนนมาเพียง 10% ต้องยอมรับว่าตอนนี้รัฐบาลอ่อนแอ ฝ่ายสนับสนุนอ่อนกำลังมาก ไม่มีใครมั่นใจรัฐบาลลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ถ้ารักบ้านเมืองจริงยุบสภาฯให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า จะเป็นการแสดงสปิริตในการรักบ้านเมืองกว่า
ฟันธงไม่มีปฏิวัติ-ได้ ลต.ใหม่กลางปี
ผู้ร่วมเสวนาคนหนึ่งถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส โพสต์ข้อความ “ศัตรูของศัตรูคือมิตร” หลังเลือกตั้ง หมายถึงใคร นายทักษิณตอบว่า เป็นคำถามที่ดี แต่ต้องถาม ร.อ.ธรรมนัสเอง จะตอบได้ดีกว่า ไม่รู้หมายถึงใครเป็นศัตรูของศัตรูแกและเป็นเพื่อนแก ถามว่าตนคงไม่ใช่ เพราะตนกับ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ศัตรูกัน พล.อ.ประยุทธ์เป็นเตรียมทหารรุ่นน้อง ตอนเป็นนายกฯเป็นคนเซ็นรับสนองพระบรมราช โองการให้เป็นนายพล แต่การเมืองแข่งขัน ลูบคมกันเป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่ศัตรู ถ้าถามตอนนี้ตนไม่ใช่ศัตรูของ พล.อ.ประยุทธ์และ ร.อ.ธรรมนัส เป็นรุ่นน้องเยอะเลย เคยอยู่เพื่อไทย เป็นคนเหนือด้วย รู้จักกันดี ส่วนกระแสการรัฐประหารไม่น่าจะมีปฏิวัติ แต่ไม่คิดว่านายกฯจะได้อยู่ยาวนานขนาดนั้น ไม่เกินกลางปีต้องเลือกตั้ง สนิมเกิดจากเนื้อในตน โอกาสเกิดเลือกตั้งใหม่อย่างช้ากลางปีน่าจะจบ
“วิโรจน์” ลาออกลุยตีตื้น “ชัชชาติ”
ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าวันที่ 3 ก.พ.จะยื่นหนังสือลาออกจาก ส.ส.ที่รัฐสภา เพื่อเตรียมพร้อมลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่าหากเป็นไปตามที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พูด เราจะมีเวลา 3 เดือนรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ล่าสุดปรับแผนใช้แคมเปญ 3 เดือนแบ่ง 3 เฟส สิ่งที่จะชนะใจชาว กทม.ได้มีอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ตัวผู้ว่าฯ กทม.เชื่อมั่นนายวิโรจน์และทีมงาน 2.นโยบายที่จะนำเสนอให้ประชาชนเลือกเตรียมไว้หมดแล้ว เมื่อถามว่าแต่ต้องยอมรับว่าสนาม กทม.กระแสสำคัญ จะตีตื้นนายชัชชาติ
“อมรัตน์” บี้หยุดวิถีโจรคุกคามสื่อ
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อนประชาชน โดยนางอมรัตน์ โชค ปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่ารัฐบาลยังไม่เลิกพฤติกรรมคุกคามสื่อ วันที่ 15 ม.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกบ้านนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการและพิธีกรทีวีช่องหนึ่ง ข่มขู่คนในบ้านว่านายศิโรตม์เป็นบุคคลเฝ้าระวัง มาขอถ่ายรูปคนในบ้าน แต่ถูกปฏิเสธยังขู่ว่าจะมาทุกเดือน เห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อยต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แบบนี้คือวิถีโจร ไม่ใช่วิถีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯมีไว้เพียงข้ออ้าง ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนนานเกินพอ อยากให้ยุบสภาหรือลาออกคืนอำนาจประชาชน
สภาล่มอีก ส.ส.ไม่ครบองค์ประชุม
ช่วงเย็น การประชุมสภาฯเข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ตามที่นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอ ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนร่าง เมื่อสมาชิกอภิปรายครบทุกคนแล้ว นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯขอนำร่างกฎหมายดังกล่าวส่งไปให้ ครม.ตรวจสอบเนื้อหาก่อนภายใน 60 วัน เพราะยังไม่ผ่านการกลั่นกรองจาก ครม. โดยนายเท่าพิภพกล่าวว่า ขอรัฐบาลอย่าขวางเพราะเนื้อหาเปิดช่องให้วิสาหกิจชุมชน ประชาชนและเกษตรกรมีช่องทางจะสร้างรายได้จากการแปรรูปพืชผลการเกษตรที่ปัจจุบันราคาตกต่ำ การแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิตเป็นตัวช่วยของรัฐบาลจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น การขอยื้อเวลาอีก 60 วัน ยังไม่รู้ว่าในที่สุดสภาฯจะลงมติรับหลักการให้หรือไม่ อาจแอบคุยหรือตกลงกับกลุ่มทุน จากนั้นนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ประธานที่ประชุม ขอมติจะให้ส่งร่าง พ.ร.บ.ให้ ครม.พิจารณาก่อนหรือไม่ แต่เมื่อตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติมี ส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุม 234 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง หรือ 238 คน จาก ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 475 คน ประธานต้องสั่งปิดประชุมเวลา 18.35 น.เป็นเหตุสภาฯล่มซ้ำซากอีกครั้งนับจากช่วงปีใหม่
ยื่นสอบคิงส์เกตกลับมาทำเหมือง
เมื่อเวลา 11.40 น. ที่รัฐสภา เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ นำโดย น.ส.จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ ตัวแทนเครือข่ายฯ เข้ายื่นหนังสือต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอให้สภาฯตรวจสอบบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ดได้รับอนุญาตประทานบัตรกลับมาทำเหมืองทองพิจิตร โดย น.ส.จุฑามาสกล่าวว่า หากคิงส์เกตได้รับอนุญาตกลับมาทำเหมืองทองใหม่ตามกระแสข่าว ถือว่าได้รับอนุญาตประทานบัตรและผลประโยชน์อื่นเกินกว่าข้อพิพาทชั้นอนุญาโตตุลาการ แลกกับการที่นายกฯไม่ถูกอนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้แพ้คดี เสียค่าปรับ 24,750 ล้านบาท พบข้อมูลผลประโยชน์ที่ได้เกินกว่าข้อพิพาท ขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบอำนาจรัฐฉ้อฉลของฝ่ายบริหาร สั่งให้เหมืองทองคิงส์เกต กลับมาเปิดใหม่ ให้นำไปอภิปรายซักฟอกรัฐบาล และนำข้อเท็จจริงในกระบวนการอนุญาโตตุลาการที่ถูกปกปิดมาเปิดเผยสู่สาธารณะ
ฝ่ายค้านรับลูกสาวไส้ทุกช่องทาง
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ฝ่ายค้านจะนำเข้าสู่กลไกสภาฯ เพราะใช้กฎหมายเผด็จการออกโดยหัวหน้า คสช. บังคับใช้และตีความกฎหมายเอง ในการอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 จะนำเรื่องเหมืองทองอัคราไปซักฟอกนายกฯ ที่ทำได้ก่อนคือตั้งกระทู้สดถามนายกฯและ รมต.ที่เกี่ยวข้อง พรรคฝ่ายค้านจะลงพื้นที่รับฟังความเห็น นำเรื่องเข้า กมธ.ตรวจสอบเชิงลึก อาจเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เพราะเป็นคดีในอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ไม่มีใครยอมเอาทรัพย์สมบัติชาติไปแลกผลประโยชน์ พล.อ.ประยุทธ์
ศาล รธน.ตีตกคำร้อง “ธาริต”
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีศาลอุทธรณ์ส่งคำโต้แย้งของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส 2 ผู้คัดค้านในศาลแพ่ง คดีร่ำรวยผิดปกติ เพื่อขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 81 วรรคสองขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25, 26, 27 หรือไม่ ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 81 วรรคสองที่บัญญัติว่าในคดีที่ร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ให้ผู้ถูกกล่าวหามีภาระการพิสูจน์ที่ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่า ทรัพย์สินดังกล่าวมิได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติ ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้นายธาริตถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ ให้ผู้อื่นถือทรัพย์สินแทนกว่า 346 ล้านบาท ต่อมาปี 2564 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและส่งศาลแพ่งยึดทรัพย์่วงเงินกว่า 53 ล้านบาท
รับวินิจฉัยยุบพรรคไทรักธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังรับวินิจฉัยคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นยุบพรรคไทรักธรรม (ชื่อเดิมพรรคไทยรักธรรม) กรณีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 30 ให้เสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเพื่อจูงใจให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค แจ้งให้ผู้ร้องทราบและส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง