ไฟเขียวผ่านตลอด โรดแม็ปไทม์ไลน์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลัง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ออกมาประกาศปักหมุดเดือนพฤษภาคมปีนี้ คนกรุงจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
เสียงสำทับจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม มาทันที “เคยพูดแล้ว จะเลือกตั้งไม่เกินพฤษภาคม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงใดๆ ผมจะหวงอำนาจทำไมไม่เคยหวงอำนาจ”
ท่ามกลางเสียงนินทาอาการ “จวนตัว” หารูระบายแรงเสียดทาน เบี่ยงกระแสกดดันนายกฯลาออก ยุบสภา
ตามจังหวะรุกคืบกระทืบซ้ำจากผลงานเลือกตั้งซ่อม ส.ส.3 สนาม ที่พรรคพลังประชารัฐแพ้เรียบ โดยเฉพาะล่าสุดที่เขตหลักสี่-จตุจักร กทม. คะแนนได้มาจิ๊บจ๊อยหร็อมแหร็ม
ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาแก้ตัว ทั้งแกนนำ ลูกหาบ ตีมึนลูกเดียว
มีเพียงโทรโข่งรัฐบาลที่ยังทำงานแข็งขัน ยืนกระต่ายขาเดียวไม่เกี่ยวกระแส “บิ๊กตู่” ตกต่ำ
งานนี้ ฝ่ายค้านไม่ปล่อยผ่าน “หมอชลน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตามบี้นายกฯหมดเวลาอยู่ต่อ ประชาชนบอกผ่านผลเลือกตั้ง ต้องการความเปลี่ยนแปลง
...
เลือกเอาว่าจะยุบสภา หรือออกตามเงื่อนไขนายกฯอยู่ได้ 8 ปี
ล้อจังหวะ “โทนี่ วู้ดซัม” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สวมบทนักวิเคราะห์ รัฐบาลอยู่ได้อีกไม่นาน เลือกตั้งคราวหน้าพลังประชารัฐจะแตกอีก เพราะหมดเวลา “รวมกันเฉพาะกิจ”
เคสแบบเดียวกับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาพรรค ที่ขน ส.ส.ออกไปกลุ่มใหญ่ จะมีอีกแน่
สภาพรัฐบาลอ่อนแอ ฝ่ายสนับสนุนตีจาก ส่งผลต่อเชิงบริหาร ความมั่นใจ การลงทุนหายหมด
แนวร่วมแตกกระเจิง มิตรสหายกลายเป็นศัตรู “หอกข้างแคร่” อย่าง “ผู้กองนัส” ยังไม่ไปไหน
รอจังหวะเดินเกมบอนไซโค่นล้มในเวทีรัฐสภา โดยเฉพาะคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจงวดหน้า กลางปีนี้ยังไม่รู้ “บิ๊กตู่” จะหาทางรอดจากเกม “ซ่อนแต้ม” ยังไง
ลำพังตอนนี้แค่รักษาองค์ประชุมยังยากเย็น สภาล่มซ้ำซาก ส.ส.ต้องมาหายไปอีก เสียงปริ่มน้ำร่อแร่เต็มที
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ก็ระหองระแหงหนักข้อ ศึกเลือกตั้งซ่อมบาดหมางรุนแรง ค่ายสะตอ ทั้งด่า ทั้งแฉ หมดเวลาเกรงใจกันแล้ว
เช่นเดียวกับค่าย “เซราะกราว” เหยียบตาปลากันไม่จบ อยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์แท้ๆ
“เสี่ยหนู” พอได้พูดในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเมื่อไหร่ มักออกแนวแบะท่าเตรียมชิ่งหนี ไปอยู่ตรงกลางทางสองแพร่ง ออกลูกกั๊กตามสูตร พร้อมเสียบทุกขั้ว ร่วมรัฐบาลทุกฝ่ายหลังเลือกตั้ง
โมเมนตัมการเมืองกำลังเหวี่ยงออกนอกวงโคจร “บิ๊กตู่” ไปเรื่อยๆ
ตามสัญญาณอาการสะท้อนผ่านการเลือกตั้งซ่อม อำนาจบารมีผู้นำไม่เข้มขลังเหมือนเดิม หรือ “บิ๊กตู่” จะต้องอยู่ทำหน้าที่ต่อไปจนพังคาเก้าอี้ ไม่สนกระแสการเมือง ไม่สนกระแสประชาชน
หรือต้องอยู่จนกว่าจะมีสัญญาณพิเศษให้เปลี่ยนแปลง
ถึงอย่างนั้นหนทางไปต่อช่างดูมืดมน ป้อมค่ายการเมืองจ่อชิ่งหนีทั้งวงใน วงนอก พรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่พลังประชารัฐ ฐานบัญชาการหลักที่หามเสลี่ยงมาเป็นนายกฯรอบสอง สนิมเนื้อในกัดกร่อน คิดแต่หาทางเอาตัวรอด ทิ้ง “ผู้นำ” ไว้เบื้องหลัง
ในเชิงบริหารก็ขาลง อย่าเพิ่งคิดไกลไปถึง 3 สมัย เป็นนายกฯ 10 ปี หรือ 20 ปี ตามยุทธศาสตร์ชาติ
เพราะลำพังแค่อยู่ต่อแต่ละวันยังยากเย็น
ภาวะของแพง ค่าแรงถูก เศรษฐกิจยอบแยบ เงินคงคลังร่อยหรอ พอหมดโปรโมชันเติมเงิน ก็ตื้อตันคิดอะไรไม่ออก เพราะไม่มีตัวช่วย ไม่มีทีมงานบริหารเศรษฐกิจดีๆ
ผู้นำวังเวง ประชาชนก็ว้าเหว่เดียวดาย ขาดเงินเหมือนขาดใจ ยืนระยะไม่ไหว ลากถูไปได้อีกไม่นาน ล้อจังหวะฝ่ายต้าน แห่ออกมาฟันธงรัฐบาลถึงทางตัน อยู่ได้ไม่เกินกลางปี
เปิดช้อยส์ให้เลือกแค่สองทาง ยุบสภา หรือลาออก เพราะยังหวั่นๆทางเลือกที่สาม ล้างกระดานการเมือง
หมากเกมนี้กำลังเป็นต่อ ถ้าเจอล้มกระดานก็คงเซ็งไปตามๆกัน.
ทีมข่าวการเมือง