ช็อกตาตั้งกันไปทั้งพรรค กับความพ่ายแพ้แบบหมดรูปในครั้งนี้ โดยผลคะแนนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร อย่างไม่เป็นทางการ

“อ๊อป” สุรชาติ เทียนทอง จากเพื่อไทย ได้ 29,416 คะแนน

“เพชร” กรุณพล เทียนสุวรรณ จากก้าวไกล ได้ 20,361 คะแนน

“เอ๋” อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคกล้า ได้ 20,047 คะแนน

“มาดามหลี” สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ จากพลังประชารัฐ ได้ 7,906 คะแนน

และ “พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์” จากไทยภักดี ได้ 5,957 คะแนน

ผลคะแนนที่ออกมาบ่งชี้ทิศทางการเมืองในอนาคตได้พอสมควร แม้การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนกันน้อยกว่าเมื่อปี 2562

แต่ผู้สมัครทุกคนและทุกพรรคที่ส่งตัวแทนลงชิง ก็ใส่กันเต็มเกียร์ เพื่อนำผลที่ได้ไปต่อยอดยุทธศาสตร์การเลือกตั้งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า

พลังประชารัฐเอง ต้องการรักษาฐานเก้าอี้เดิมเอาไว้ เพื่อไม่ให้กระแสความนิยมที่ตกต่ำ ทั้งในส่วนของพรรค และของรัฐบาล รูดทะราดไปกว่านี้

ส่วนเพื่อไทย ก็ต้องการปักหมุดหมาย “แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” ตามยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้

ขณะที่ก้าวไกล ก็หวังต่อยอดปลุกพลังคนรุ่นใหม่ คนหัวก้าวหน้า

ส่วนพรรคเกิดใหม่อย่าง พรรคกล้าและไทยภักดี ต้องการลงเสาเอกแรกทางการเมือง

จากผลคะแนนที่ปรากฏ คงพอเห็นเค้าลางกันบ้างแล้ว

โดยเฉพาะพลังประชารัฐ ที่ต้องกลับไปวิเคราะห์ให้ถึงกึ๋น ว่าที่แพ้ราบคาบมา 3 สนามรวด โดยเฉพาะสนามเมืองกรุง ที่หมดสภาพมวยแชมป์เก่า มันเพราะอะไร

แน่นอนว่าการเลือกตั้งสนามเมืองกรุงกับต่างจังหวัด ปัจจัยย่อมแตกต่างกัน แต่องค์ประกอบก็ยังคงเป็น ตัวผู้สมัคร บวกกับกระแสของพรรค

...

ไปดูที่ตัวผู้สมัคร ถือว่าจับพลัดจับผลูมาเป็นมวยแทนสามี คือ “สิระ เจนจาคะ” ที่ถูกจับฟาวล์ไป

บทบาทในสภาที่ผ่านมาของ “สิระ” ก็เล่นแต่บทบู๊ล้างผลาญ ละลานไปทั่ว สร้างศัตรูไปทั่วบ้านทั่วเมือง

แม้จะมีการระดมแกนนำพรรคลงไปช่วย ทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค,“ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดีอีเอส,“สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม

ก็ยังไม่สามารถปลุกกระแสขึ้นมาได้ จนช่วงโค้งสุดท้ายต้องงัดไม้ตายกลับมาชู “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นจุดขายเหมือนเดิม

ขณะที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์เองก็ใส่เกียร์ว่างลอยตัว ไม่ได้ออกแรงช่วย หลังมีคนเห็น “บิ๊กสีกากี” มุดเข้าทำเนียบฯเข้าไปรายงานข้อมูลการข่าวเชิงลึก

ปล่อย “ลุงป้อม” ต้องลากสังขาร ช่วยลูกพรรคอยู่คนเดียว

แล้วแบบนี้มันจะจูบปากกันหวานชื่น เหมือนคืนวันเก่าก่อนได้ยังไง

แม้ “สันติ พร้อมพัฒน์” ว่าที่แม่บ้านคนใหม่ พปชร. จะรีบชิงดับกระแสไม่ให้ไหลติดลบไปกว่านี้ ประกาศจะปรับกลยุทธ์วิธีการทำงานใหม่

งัดนโยบายการทำงานให้ตรงตามความต้องการของประชาชนมากขึ้น

ก็ไม่รู้ว่าจะทันกาลหรือไม่ เพราะแว่วว่า บรรดาเห็บเหาเริ่มคิดจะกระโดดหนีกันแล้ว

“พี่น้องนอกไส้” อาจวงแตกก่อนกาลอันควร.

เพลิงสุริยะ