ถึงวันนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว. กลาโหม คงต้องเลิกฟังเหล่าบริวารที่เอาแต่ประจบสอพลอได้แล้ว ฟังแต่คำป้อยอกรอกหูว่าคะแนนนิยมยังดีอยู่ ทำให้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ของจริงเห็นชัดเจนแล้วจากผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครหมายเลข 7 จากพรรคพลังประชารัฐ แพ้หลุดลุ่ยได้แค่ 7,906 คะแนน เข้าป้ายเป็นอันดับ 4

ในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย นางสรัลรัศมิ์ทิ้งไพ่ตายชูสโลแกน “รักลุงตู่ กาเบอร์ 7” แต่ตัวเองกลับตายเสียเอง แถมยังลากลุงตู่มาลำบากด้วย เพราะคะแนนที่ออกมาสะท้อนว่า มีคนรักลุงตู่น้อยเหลือเกิน กระแสตกอย่างแรง

ผิดกับการเมืองขั้วตรงข้ามบิ๊กตู่ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้คะแนนถล่มทลาย เข้าป้ายเป็นอันดับ 1 และ 2 โดย นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง ได้ 29,416 คะแนน ตามด้วย นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครหมายเลข 6 พรรคก้าวไกล ได้ 20,361 คะแนน แม้กระทั่ง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคกล้า ยังได้คะแนนถึง 20,047 คะแนน

การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะเด็ดขาดของฝ่ายประชาธิปไตย พื้นที่กรุงเทพฯ อำนาจรัฐกับอำนาจเงินไม่ขลังเหมือนพื้นที่ต่างจังหวัด กระแสพรรคและตัวผู้สมัครสำคัญที่สุด

พรรคเพื่อไทยมีฐานในเขตนี้อยู่แล้ว นายสุรชาติเคยชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ทำฐานไว้อย่างดี และด้วยบุคลิกอ่อนน้อมถ่อมตน เข้าหาชาวบ้านด้วยความนอบน้อม เสมอต้นเสมอปลาย จึงชนะไปแบบไร้ข้อกังขา

ส่วนพรรคก้าวไกลแม้ได้ที่ 2 แต่ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วพรรคก้าวไกลได้คะแนนสูงกว่าการเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ในนามพรรคอนาคตใหม่ จุดแข็งของพรรคก้าวไกลนอกจากมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนแล้ว ยังมีนโยบายโดนใจ กระตุกความรู้สึกถึงก้นบึ้ง

...

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า แม้ครั้งนี้ เรายังไม่เป็นผู้ชนะ แต่ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว มีตัวเลขหนึ่งที่อยากพูดถึงคือ นโยบายการปฏิรูปกองทัพ ของเราในค่ายทหารต่างๆ หากเทียบตัวเลขแล้ว อดีตอนาคตใหม่ได้ 17% จากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่มาจากค่ายทหารประมาณ 26% ซึ่งทำให้เห็นว่าพลทหารเห็นด้วยกับสิ่งที่เราต้องการจะทำ และในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เราได้มา 35% แสดงให้เห็นว่านโยบายปฏิรูปกองทัพของเราได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ

อันที่จริงถ้าบิ๊กตู่ไม่ตั้งใจหลอกตัวเอง ในใจก็คงยอมรับสภาพอยู่แล้ว เป็นนายกฯมา 7 ปีกว่า คนย่อมเบื่อเป็นธรรมดา แถมเป็นยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ของแพงทั้งแผ่นดิน กราฟความนิยมหัวทิ่มลงทุกวัน ถึงได้พยายามยื้อเวลาการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาตลอด

แต่เมื่อโดนกดดันอย่างหนักก็ได้มีสัญญาณออกมาแล้วว่า จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในเดือน พ.ค.นี้ โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตอบกระทู้ในวุฒิสภาว่า ได้ประสานกับ กกต.อย่างต่อเนื่องถึงความพร้อมจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังวันที่ 21 ก.พ.จะหารือร่วมกันอีกครั้ง คาดว่าจะนำเรื่องเข้า ครม.ได้ต้นเดือน มี.ค. เมื่อ ครม.มีมติอย่างไร สัปดาห์ต่อไปแจ้งให้ กกต.ทราบ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าปลายเดือน มี.ค. ทาง กกต.จะประกาศให้มีการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ได้ หลังจาก กกต.ประกาศแล้วจะต้องมีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน คาดว่าช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดคือเดือน พ.ค.

ตอนนี้บิ๊กตู่ยังเหลือไพ่เด็ดในมืออีกใบที่หวังจะฟื้นกระแสกลับมาได้ คือการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งโครงการเยียวยาโควิดลอตใหม่ตาม พ.ร.บ.กู้เงินกำลังทยอยออกมา แต่จะได้ผลแค่ไหนต้องไปลุ้นกันอีกที.

ลมกรด