เพื่อไทย แห่วันสุดท้าย หาเสียง “สุรชาติ” มั่นใจ คว้าชัยเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักรได้ บอก เป็น ส.ส.ต้องทำงานให้ทุกคน ไม่ใช่แค่คนที่กาบัตรให้ “หมอชลน่าน” ย้ำ เลือกตั้งเพื่อคืนชีวิตให้ทุกคน
วันที่ 29 ม.ค. เมื่อเวลา 09.00 น. ที่หน้าวัดเสมียนนารี พรรคเพื่อไทย นัดรวมตัวขึ้นรถแห่หาเสียง ให้ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่ จตุจักร ของพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสรวงศ์ เทียนทอง ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งเขตหลักสี่-จตุจักร (บางแขวง) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค บรรยากาศตลอดการแห่หาเสียงมีประชาชนให้การตอบรับ โบกมือทักทาย และส่งเสียงให้กำลังใจ โดยนายสุรชาติ ได้กล่าวถึงแนวทางการหาเสียงในวันสุดท้าย ซึ่งจะขึ้นรถแห่หาเสียงทั่วเขตหลักสี่ และเขตจตุจักร กำหนดถึงแค่ 18.00 น. ซึ่งจะใช้เวลาที่มีลงพื้นที่พบปะประชาชนให้ได้มากที่สุด ส่วนที่โพลหลายสำนักวางเป็นตัวเต็ง อีกทั้งพรรคการเมืองหลักมองพรรคเพื่อไทย เป็นคู่แข่งสำคัญ ในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้นตนทำทุกอย่างให้เต็มที่ พร้อมทั้งยังมั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยในครั้งนี้ได้ มั่นใจในสิ่งที่ตนทำมา และมั่นใจว่าประชาชนจะให้โอกาส
...
เมื่อถามว่า ทำไมประชาชนจะต้องเลือกพรรคเพื่อไทย นายสุรชาติ กล่าวย้ำว่า ถ้าเลือกตนก็จะได้ความทุ่มเทในการทำงาน เพราะตนได้พิสูจน์มาโดยตลอดครั้งมีตำแหน่ง หรือไม่มีตำแหน่ง และการที่จะเป็นตัวแทนประชาชนนั้น ตนบอกเสมอว่า การจะเป็น ส.ส. ไม่ใช่เป็นให้เฉพาะคนที่เลือกเราเท่านั้น แต่ต้องทำให้กับทุกคน รวมถึงการเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย ส่วนการทุจริตเลือกตั้งนั้น พรรคเพื่อไทย พร้อมสำหรับการส่งตัวแทนไปติดตามในหน่วยต่างๆ และหวังว่า การเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) รวมถึงการนับคะแนน จะเป็นไปอย่างโปร่งใส เพราะเชื่อว่า ทุกคนอยากเห็น และขอย้ำว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า ไม่ใช่แค่การเลือกตัวแทนเข้าสภา แต่เป็นศักดิ์ศรีของทุกคน พร้อมเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.)
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันที่ 29 ม.ค. จะเป็นการเน้นย้ำขอทุกคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกังวลหากออกมาใช้สิทธิกันน้อย เราจะไม่สามารถสู้กับฝ่ายใช้วิธีนอกประชาธิปไตยได้ เหลืออีกวันเดียว จะตัดสินชีวิตพี่น้องประชาชนใน เขตหลักสี่-จตุจักร และทั่วประเทศ เลือกตั้งครั้งนี้นอกจากจะได้คนตั้งใจเข้ามาทำงานแล้ว ยังย้ำว่า เราเลือกพรรคที่มีประสิทธิภาพมาใช้รับ คืนชีวิตใหม่ให้ทุกคนก็คือพรรคเพื่อไทย และที่สำคัญ คือ จะเป็นการสั่งสอนพรรคการเมือง ที่ใช้วิธีการนอกประชาธิปไตย
