2 แกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย เน้นย้ำความแตกต่างจากพรรคอื่น มุ่งฟื้นเศรษฐกิจเป็นหัวใจสำคัญ ชี้ ต้องแก้ปัญหาปัจจุบันและวางอนาคตไปพร้อมกัน ไม่ขอฝากอะไรถึง “พล.อ.ประยุทธ์”
วันที่ 19 ม.ค. 2565 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงเรื่องประชาธิปไตย ว่า ต้องยอมรับว่าประชาธิปไตยของไทยกฎหมายสูงสุดคือรัฐธรรมนูญ วันที่ทำพรรคพลังประชารัฐเคยประกาศว่าจะทำการเมืองบนการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย เมื่อรัฐธรรมนูญถูกเขียนขึ้นได้เล็งเห็นแล้วว่าประเทศจะต้องเปลี่ยนผ่านไปอย่างไร ซึ่งขณะนั้นอยู่ในรัฐบาล และมองว่าในเวลาเช่นนี้การเปลี่ยนผ่านประเทศจะต้องไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง จึงอาสาขึ้นมาทำพรรคในวันนั้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ประเทศ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือการเดินทางเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย เพราะมีกฎ มีกติกา
การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเราลงสู่สนามการเลือกตั้งเต็มรูปแบบ ทำหน้าที่สร้างพรรคการเมือง และอาสาประชาชนไปสู่การเลือกตั้ง ทำหน้าที่นั้นมาตลอด และยังยืนหยัดอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นวันนี้คงจะไม่กลับมาเดินหน้าลงสู้สนามเลือกตั้งอีกครั้ง เพราะต้องใช้พลังมากมาย ซึ่งยังเคารพและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นจุดหลักและจุดยืนของพรรค ขอประกาศตัวเองว่าพรรคนี้จะเป็นพรรคประชาธิปไตย และเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน
...
จากนั้น นายอุตตม สาวนายน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยอีกราย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมในเรื่องของความแตกต่างของพรรคสร้างอนาคตไทยจากพรรคการเมืองอื่นๆ ว่า พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็คงต้องนำเสนอจุดยืนของพรรคกับประชาชน และจะสามารถทำงานให้บรรลุเป้าหมายบนจุดยืนนั้นอย่างไร สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทยมีเป้าหมายและจุดยืนที่ชัดเจนว่าเข้ามาเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ เพราะเห็นว่าปัญหาปากท้องเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในวันนี้ และยังชัดเจนว่าจะระดมผู้คนจากหลากหลายภาคส่วนที่จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่พรรคตั้งไว้ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะปรากฏออกมาให้ประชาชนได้เห็นว่าพรรคสร้างอนาคตไทย สามารถรวบรวมผู้คน นำเสนอชุดความคิดใหม่ดังที่อาสาไว้หรือไม่
นายสนธิรัตน์ ระบุเพิ่มเติมว่า “พรรคนี้แตกต่างแน่นอนเพราะจะฟื้นเศรษฐกิจ เป็นพรรคที่มีความมุ่งมั่นจะฟื้นเศรษฐกิจ เป็นพรรคที่มีประสบการณ์ มีคนทำงาน มีผู้เชี่ยวชาญ และมั่นใจว่าจุดแตกต่างของพรรคนี้กับพรรคอื่นๆ พรรคเราจะเป็นพรรคที่มุ่งหน้าในการฟื้นเศรษฐกิจประเทศ นั่นเป็นภารกิจหลักของพรรคสร้างอนาคตไทย และนี่คือความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดของพรรคสร้างอนาคตไทย”
เรื่องฟื้นเศรษฐกิจยืนยันว่าคณะทำงานของพรรคเริ่มมาอย่างต่อเนื่องแล้ว การแก้ปัญหาเศรษฐกิจมีทั้งระยะสั้น คือ เรื่องปากท้องประชาชน การทำมาหากิน และเรามองภาพรวมทั้งระบบของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ คำถามว่าเอาเงินงบประมาณที่ไหนมาแก้ แล้วจะเอาไปทำอย่างไรให้หมุนเวียน สิ่งเหล่านี้เราได้ทำและศึกษาไว้ จะเริ่มขับเคลื่อนเมื่อพรรคได้มีโอกาสทำงาน เพราะฉะนั้นการแก้เศรษฐกิจคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายได้อย่างไร และสร้างรายได้ให้ประชาชน สอดรับกับภาพในเชิงงบประมาณและความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ ที่สำคัญเรามองประเทศไทยเป็นประเทศเดี่ยวไม่ได้ เพราะประเทศพึ่งพาพึ่งพิงกัน
ส่วนคำถามว่านโยบายในส่วนของพรรคพลังประชารัฐยังทำไม่ได้นั้น นายสนธิรัตน์ ให้คำตอบว่า ผลงานด้านเศรษฐกิจของพวกเราทำไว้เยอะมาก เพียงแต่บางเรื่องอาจจะได้เริ่มแต่ยังทำไม่เสร็จ บางเรื่องทำไปแล้วอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง นั่นเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าไปดูผลงานด้านเศรษฐกิจที่เราทำมาแล้วครอบคลุมมากมาย แต่หลายนโยบายที่ตั้งใจจะทำในการร่วมรัฐบาลล่าสุดนั้นมีบางเรื่องที่จะทำแต่เวลาสั้นเกินไป หลายนโยบายแก้ที่กฎหมาย แก้ที่โครงสร้าง ต้องใช้เวลา แต่เราไม่ได้ทำต่อ ย้ำว่าเรามุ่งเป้าในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหัวใจสำคัญ
ต่อมา นายอุตตม เสริมว่า เศรษฐกิจวันนี้เป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งแก้คือปากท้อง แต่พรรคจะให้ความสำคัญกับการเตรียมประเทศไทยเข้าสู่อนาคต วันนี้ปัญหาเฉพาะหน้ารุมเร้ามาก ไม่มีการคิดถึงอนาคตเท่าที่ควร เราไม่สามารถที่จะรอจนแก้ปัญหาเสร็จแล้วค่อยคิดถึงอนาคต ต้องเริ่มวันนี้ การลงทุนเพื่ออนาคตจะทำอย่างไร การเข้าสู่โลกของเทคโนโลยี Digital Economy จะทำอย่างไร การทำให้ไทยยังอยู่บนจอเรดาร์ของต่างประเทศที่เป็นผู้ค้าผู้ลงทุน ต้องคิดแล้ว การเยียวยาผู้ประกอบการ SME ถูกต้อง แต่จากการหารือกันต้องมากกว่านั้น วันนี้เขาขาดเงินทุนที่จะต่อยอด ปัจจุบันและอนาคตต้องไปด้วยกัน ระบบสวัสดิการแห่งรัฐพวกเราก็เป็นคนริเริ่มทำไว้แต่ต้น ไม่ใช่ช่วยแค่เฉพาะหน้าในสิ่งที่จำเป็น ดีใจที่วันนี้เห็นระบบพร้อมเพย์ถูกใช้งานเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน และจะทำงานต่อเนื่องถ้ามีโอกาสได้เข้าไปทำงานเพื่อให้คนไทยไม่เสียโอกาสในอนาคต
ในช่วงท้ายมีการถามถึงเจ้าของตัวจริงของพรรคสร้างอนาคตไทยว่าคือใคร โดยนายสนธิรัตน์ ตอบทันทีว่า ไม่มีเจ้าของพรรค นอกจากนี้ในฐานะที่เคยเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้เศรษฐกิจที่ไม่ดีอยากบอกอะไร ซึ่งนายสนธิรัตน์ ส่งเสียงหัวเราะ ก่อนที่ นายอุตตม จะเป็นผู้ตอบว่า วันนี้เป็นการพูดถึงจุดเริ่มต้นของพรรคสร้างอนาคตไทย นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำลังทำงาน คงไม่ได้มีอะไรที่จะฝากไป ส่วนในอนาคตเมื่อเราเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ มีข้อเสนอ ข้อคิดเห็น ก็จะนำเสนอ และเมื่อถามถึงพรรคสร้างอนาคตไทยตั้งเป้าจะได้จำนวน ส.ส.เท่าไร นายสนธิรัตน์ ปฏิเสธที่ตอบคำถามโดยระบุว่า อยู่ที่ประชาชน วันนี้ขอทำงานก่อน เพราะวันนี้เพิ่งเริ่มต้น.