“อุตตม-สนธิรัตน์” เปิดตัวในนามพรรคสร้างอนาคตไทย แก้ปัญหาและวิกฤติประเทศ ดึงบุคลากรผู้มีความรู้ประสบการณ์หลายภาคส่วนร่วม ชี้ แก้ปัญหาต้องเกิดจากการรู้จริง ไม่ใช่คิดและคาดเดาเอาเอง
วันที่ 19 ม.ค. 2565 นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันแถลงข่าวในฐานะ “พรรคสร้างอนาคตไทย” หวังฟื้นเศรษฐกิจ สร้างอนาคตประเทศ
นายอุตตม กล่าวว่า พวกเราหารือและเห็นพ้องว่าสถานการณ์ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วงมาก ทั้งมิติของเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปัญหาปากท้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ค่าครองชีพสูงขึ้น ภัยพิบัติโรคระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด มีปัญหาความเหลื่อมล้ำมากขึ้น บั่นทอนคุณภาพชีวิตและความหวังของคนไทยในอนาคต และตลอด 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพบเจอประชาชนมากมายรับฟังเสียงสะท้อน หนึ่งในนั้นคืออยากเห็นสมการการเมืองที่เปลี่ยนแปลง ให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างราบรื่น อยากเห็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวจากประชาชนหลายภาคส่วน
...
ในส่วนของพรรคสร้างอนาคตไทย กำเนิดจากบุคลากรหลากหลายความรู้ ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน เชิญชวนผู้คนที่อาจจะยังไม่พร้อมทำงานการเมืองแต่มีใจที่จะสนับสนุนความคิดเพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ เชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้เชิญชวนบุคลากรในอดีตที่เคยมีผลงาน นักการเมือง รวมถึงผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชนเชื่อว่าจะสามารถผนึกกำลังคนไทย นี่คือจุดยืนหนึ่งของพรรคสร้างอนาคตไทย ปัญหาบ้านเมืองใหญ่หลวงไม่สามารถแก้ได้ด้วยคนจำนวนน้อย
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า จากนี้ไปจะเริ่มระดมความคิด รับฟังทั่วประเทศ เพื่อจะตกผลึกในปัญหาและกำหนดแนวความคิด นโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางปฏิบัติที่ทำได้จริง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาประเทศในปัจจุบัน วางรากฐานเพื่ออนาคต ประชาชนต้องมีความหวังที่จับต้องได้ มีโอกาสที่พัฒนาความสามารถและความใฝ่ฝัน มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนต่อยอดความฝัน มีสิทธิเสรีภาพ ความยุติธรรม เราจะไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง พร้อมอาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย และเชิญชวนทุกท่านมาสร้างอนาคตไทยด้วยกัน
ทางด้าน นายสนธิรัตน์ ระบุว่า วันนี้ไม่ใช่วันเปิดพรรค แต่ได้นำพาผู้มีเจตนารมณ์มีจะสร้างพรรคการเมืองมาเสนอต่อสื่อมวลชนและประชาชนเป็นครั้งแรก พรรคสร้างอนาคตไทยเกิดขึ้นจากสถานการณ์บ้านเมือง ส่วนตัวนั้นไม่ได้คิดจะกลับมาทำงานการเมืองอีกเนื่องจากคิดว่าเพียงพอแล้ว แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์วันนี้ผู้คนต่างมองหาความหวังที่จะพาฝ่าวิกฤติของชีวิต ตั้งแต่โควิด-19 กระทบการทำมาหากิน ปากท้อง รายได้ประชาชน คือสิ่งที่เราตนเอง นายอุตตม และทีมงานทั้งหมดหารือมาเป็นระยะ รู้สึกว่าอาจจะมีความจำเป็นอีกครั้งที่จะมาขออาสา ทั้งนี้ ความหวังประชาชนคือจุดเริ่มที่สำคัญ
นอกจากนี้ ต้องให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคจะนำพาพวกเขาไปได้ จึงมีโอกาสพูดคุยกันว่าปัญหาวันนี้ถลำลึกจากการบริหารบวกกับสถานการณ์โควิด-19 กว่า 2 ปี เป็นจุดที่ตัดสินใจพบปะและรวบรวมผู้คน จนเห็นว่ามีคนที่ปรารถนาดีต่อชาติ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง จากนักการเมืองรุ่นเก่าและใหม่ คนที่มีประสบการณ์ต่างๆ รวมถึงประชาชน เข้ามาแลกเปลี่ยน จึงตัดสินใจร่วมกันว่ามีความจำเป็นที่ประเทศจะต้องมีความหวังอีกครั้ง พรรคนี้ไม่ใช่พรรคการเมืองอย่างเดียว แต่มาจากทุกภาคส่วน อีกทั้งที่ภูมิใจมากคือ เรามีผู้นำที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งทำงานเพื่อสังคมมา 30-40 ปี วันนี้ขอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเมือง รวมถึงบุคลากรที่มีความสามารถมากมาย และการแก้ปัญหาต้องเกิดจากการรู้จริง ไม่ใช่คิดและคาดเดาเอาเอง
อย่างไรก็ตาม การเกิดของพรรคไม่ได้เกิดเพื่อการเลือกตั้ง แต่เพื่อให้เรามีความหวัง เป็นจุดเริ่มที่จะทำงานบนอุดมการณ์เดียวกัน เป็นหัวใจสำคัญของพรรคการเมือง สร้างให้สังคมมีความเชื่อมั่น เราเคยทำพรรคและเป็นผู้อาสาที่จะรวบรวมบุคลากร สิ่งที่ตั้งใจคือพรรคสร้างอนาคตไทยจะต้องเป็นเสาหลัก เชื่อมโยงจุดเปลี่ยนผ่าน วางรากฐานไปสู่อนาคตข้างหน้า เปิดกว้างกับทุกอาชีพและทุกวัย ประคับประคองคนรุ่นใหม่ สร้างความรู้ ประสบการณ์ บุคลากร ย้ำว่าไม่ใช่เพื่อการเลือกตั้ง แต่จะยึดโยงกับประชาชน สร้าง ส.ส.ของพรรคให้เป็น ส.ส.อุดมการณ์ ในการทำงานนิติบัญญัติเพื่อบ้านเมือง พร้อมขอบคุณที่ได้รับความสนใจอย่างมาก.