(แฟ้มภาพ)
เลขาฯ รมว.สาธารณสุข แจง “อนุทิน” ปัดกล่าวโทษประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ตำหนิพวกไร้จิตสำนึก รวมถึงร้านอาหารกึ่งผับที่ละเลยมาตรการ พร้อมโต้ประเด็นดราม่าลูกชาย
จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมการรับประทานอาหาร ซึ่งมี นายเศรณี ชาญวีรกูล บุตรชายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมอยู่ด้วย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขภายในงาน
ล่าสุดวันนี้ (6 ม.ค. 2565) นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ที่ผ่านมามีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น 2-3 เรื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อนายอนุทิน ขอถือโอกาสนี้ชี้แจงทุกเรื่องไปพร้อมกัน
ประเด็นแรก การกล่าวหาว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโทษประชาชน จากการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา แท้จริงแล้วจุดประสงค์คือต้องการตำหนิผู้ที่ละเลยมาตรการด้านสาธารณสุขจนนำมาซึ่งการระบาดของโควิด-19 และที่ผ่านมา มีปัญหาชัดเจนว่าร้านอาหารกึ่งผับละเลยมาตรการ กลายเป็นจุดระบาดที่สำคัญ เป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขกังวลมาก นี่คือเรื่องที่ต้องการสื่อสาร แต่กลับมีการนำเสนอเพื่อชี้ให้เห็นว่า นายอนุทิน กำลังกล่าวโทษประชาชนทุกคนที่ติดเชื้อ ซึ่งไม่เป็นความจริง ที่ตำหนิคือพวกที่ไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมเท่านั้น

...
ประเด็นต่อมาก็มีเรื่องบุตรชายของนายอนุทิน ซึ่งหากดูบริบทในงานจะเห็นว่าจัดกันในสถานที่เปิดโล่ง และที่สำคัญคือในงานมีผู้สูงวัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งกว่าจะผ่านการคัดกรองเข้ามาร่วมงานได้ต้องมีการตรวจอย่างรัดกุมที่สุด มีการตรวจหาเชื้อ และต้องยื่นเอกสารยืนยันการรับวัคซีนให้ครบถ้วน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าผู้สูงวัยคือกลุ่มเสี่ยงป่วยหนักแม้จะได้รับวัคซีนโควิด-19 ก็ต้องระวัง ดังนั้นผู้จัดงานไม่ประมาทแน่นอน พร้อมขออย่าเปรียบเทียบกิจกรรมนี้กับการแพร่ระบาดในสถานบันเทิง เพราะอย่างที่บอกว่ามาตรการต่างๆ ในกิจกรรมนี้มีความเข้มงวดอยู่แล้ว เนื่องจากมีกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่ม 608 ร่วมกิจกรรมอยู่ด้วย
“ปัจจุบันร้านอาหารกึ่งผับหลายเจ้าซึ่งเป็นแหล่งระบาดนั้น ไม่เพียงแต่ละเลยมาตรการ แต่ยังกระทำผิดกฎหมาย ก็ถูกต้องแล้วที่จะต้องถูกตำหนิและควรต้องได้รับโทษด้วย ซึ่งต่างกันอย่างยิ่งกับอีกกิจกรรมที่จัดขึ้น ซึ่งเป็นงานแบบปิด ไม่ได้เปิดให้สาธารณะเข้าร่วม จัดกันในที่โล่ง รับประทานอาหารกันเฉพาะครอบครัว มีมาตรการคัดกรองก่อนเข้างาน แต่กลับโดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งที่เป็นกิจกรรมที่ทำถูกต้อง ตรงนี้ต้องขอความเป็นธรรมด้วย”.