“ทีมข่าวการเมือง” ได้ถือโอกาสการเปลี่ยนผ่านสู่ศักราชใหม่ เปิดหน้าสัมภาษณ์พิเศษ โดยคัดสรรบุคคลที่เป็นจิ๊กซอว์ “ชิ้นสำคัญ” ในสถานการณ์ทางการเมืองช่วงต่างๆ มาแง้มมิติทางความคิด มุมมองและตัวตน จากถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของบุคคลสำคัญชนิดเกาะติดกระแส

บุคคลแรกในปีเสือดุที่ “ทีมข่าวการเมือง” เลือก คือ “บิ๊กน้อยพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกดึงเข้ามาเป็นกาวประสานเชื่อมภายใน พปชร.ให้เป็นหนึ่งเดียว และกำหนดยุทธศาสตร์ เตรียมการเลือกตั้งใหญ่

ต้องยอมรับว่า พล.อ.วิชญ์ เป็นขุนพลคู่กาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้า พปชร. สัมพันธ์ยาวนานกว่า 30 ปี

ฉะนั้นภารกิจที่ พล.อ.ประวิตรรับผิดชอบ พล.อ.วิชญ์ ได้ลงไปดูในรายละเอียด นำมาประกอบเป็นยุทธศาสตร์พรรค เพื่อไปกำหนดเป็นนโยบายรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

อาทิ งานด้านป้องกันและลักลอบค้ายาเสพติด ตลอดปี 64 ที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง-ป.ป.ส.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่ให้เบาะแส กล้าเปิดเผยข้อมูลกันมากขึ้น

...

นำไปสู่การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด (ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี เฮโรอีน ฝิ่น โคเคน กัญชา เคตามีน) ได้มากกว่า 325,000 คน จำนวนนี้เป็นผู้ผลิต 10,619 คน สามารถขยายผลนำสู่การยึดทรัพย์ผู้กระทำกว่า 6,709 ล้านบาท

แม้โควิด-19 ระบาดตลอดปี กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดยังคงเร่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบนำเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน จากแหล่งผลิตของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน

ลำเลียงเข้าไทยด้วยกองกำลังติดอาวุธ เดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติ สู่พื้นที่พักคอยหมู่บ้านแนวชายแดนภาคเหนือ และเปลี่ยนเส้นทางลักลอบนำเข้าด้านตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น มุ่งเข้าพื้นที่พักคอยภาคกลาง

ขบวนการค้ายาเสพติดยังได้พัฒนาขยายเครือข่ายในวงกว้างมากขึ้น มีกลุ่มเยาวชน ผู้ตกงาน ผู้เสพ ผันตัวเป็นนักค้ายาเสพติดในชุมชน

มีการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ นิยมใช้ระบบขนส่งทางพัสดุภัณฑ์มากขึ้น โดยเฉพาะเฮโรอีน-กัญชา-ยาไอซ์ ลักลอบซุกซ่อนดัดแปลงไปกับสินค้ารูปแบบต่างๆขนส่งออกต่างประเทศผ่านเส้นทางเรือ

ฉะนั้นปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญติดตาม ขับเคลื่อนแก้ปัญหามาตลอด โดยปี 65 จะทำให้สังคมปลอดยาเสพติด ผ่านมาตรการป้องกันควบคู่แก้ปัญหายาเสพติด

พร้อมร่วมบำบัดฟื้นฟูและช่วยเหลือให้โอกาสทางสังคมกับผู้เสพที่ผ่านการบำบัด ไม่ให้เกิดปัญหากลับไปเสพซ้ำ โดย พล.อ.ประวิตรจะเปิด “ศูนย์แก้ปัญหายาเสพติด” บูรณาการ 8 หน่วยงาน ทั้งกลาโหม-มหาดไทย-สาธารณสุข-ศึกษา-ยุติธรรม-แรงงาน-สตช.-ป.ป.ส. เพื่อรับมาบำบัด

เช่นเดียวกับงานด้านป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งได้ทำมายาวนาน 7-8 ปี สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ และได้ขยายผลขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยเป็นมิตรสำหรับเด็ก

ซึ่งเดิมในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่-เชียงราย-ลำปาง ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลทุกมิติ ทั้งการดำเนินคดี การช่วยเหลือผู้เสียหาย การป้องกันการค้ามนุษย์

ยังไม่นับรวมด้านเศรษฐกิจตาม “โมเดลเศรษฐกิจใหม่” 3 มิติ ทั้งเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อจัดระเบียบใช้ประโยชน์พื้นที่ร่วมกันของสังคม ในปี 65 พล.อ.ประวิตรยังเตรียม “คิกออฟแก้ปัญหาความยากจน” แม้นโยบายแก้จนของรัฐบาลคืบหน้าคลายปัญหาไปได้หลายเปลาะแล้ว

“เหนื่อยหน่อย งานเต็มเลย” พล.อ.ประวิตรพูดกับคนใกล้ชิดถึงภาพรวมการทำงาน ปี 64 พร้อมมองการเมืองในปี 65

“ไม่มีปัญหา ปี 65 รัฐบาลจะอยู่ถึงประชุมเอเปกจบ”

มีจุดที่น่าเป็นห่วง “สภาฯอย่างเดียว” เพราะปีที่แล้ว สภาฯล่มประมาณ 15 ครั้ง

นั่นเป็นตัวอย่างที่ พล.อ.ประวิตรทำมาต่อเนื่อง ในปี 65 จะผลักดันนโยบายแก้จน-ศูนย์แก้ปัญหายาเสพติด

สิ่งเหล่านี้ พล.อ.วิชญ์ บอกกับ “ทีมข่าวการเมือง” ว่า ตั้งแต่เข้ามาก็ดำเนินการเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ พปชร.ไปหลายอย่าง โดยใช้ข้อมูลภาพรวมจากนโยบายที่รัฐบาลทำ ภารกิจของ พล.อ.ประวิตร และแนวคิดของ ส.ส.พปชร. ซึ่งเสนอมาตามกรอบที่กำหนด เสร็จแล้วก็ส่งให้คณะกรรมการบริหาร พปชร.พิจารณาเกี่ยวกับนโยบายทุกด้าน

หลักใหญ่ด้านเศรษฐกิจหลังโควิด-19

ด้านสร้างความปรองดอง

ด้านความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

โดยเฉพาะประชาชนอยู่ดี กินดี ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่ “พี่ป้อม” เน้นทำให้เป็นรูปธรรม จับต้องได้ เพื่อวางเป็นนโยบายสำหรับรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป

ทำอย่างไรถึงเดินไปถึงจุดหมายสร้างความปรองดองในประเทศได้หลังเลือกตั้ง พล.อ.วิชญ์ บอกว่า นโยบายด้านนี้สำคัญ หากปล่อยให้ทะเลาะหรือขัดแย้งทางความคิด มันยากที่นำพาประเทศไปข้างหน้า

หลักการมีวิธีให้หันหน้าพูดคุยกัน เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า

ในฐานะถูกตั้งความหวังเข้ามาช่วยเชื่อมรอยร้าวใน พปชร. ตอนนี้ในพรรคมีสภาพเป็นอย่างไร พล.อ.วิชญ์ บอกว่า ความจริงเข้ามาช่วยและเสริมหัวหน้าพรรค เพราะพี่ป้อมทำงานหนัก

ผมอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนาน มีจุดยืนร่วมกันอยู่ตลอดเวลา ต้องการช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ อย่ามามองเป็นตัวอะไรต่างๆตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน พี่ไม่ใช่อย่างนั้น

“การประสานก็ทำได้ มีรอยร้าวตรงไหนพอช่วยได้ก็ช่วย ไม่ได้เก่งกาจมากมาย ผมเป็นคนประนีประนอม ไม่ทะเลาะกับใคร มีอะไรก็หันหน้ามาพูดคุยหาทางออก

อย่างกลุ่มสามมิตร ก็ไปหาท่านสุริยะ (จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม) ท่านสันติ (พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง) ก็ไปคุย เอาข้อคิดดีๆมาใช้

คุยได้กับทุกกลุ่มภายในพรรค คุยได้กับทุกคน ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

พยายามทำให้ดีที่สุด ใช่ว่าเราเป็นที่ยอมรับของทุกคน เรื่องไหนคุยได้ก็คุย เรื่องไหนที่คุยไม่ได้ก็เป็นพี่ป้อม แม้แต่ท่านนายกฯผมก็คุยด้วย”

การดึง “บิ๊กน้อย” มาบล็อก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้ามายึด พปชร. เพราะเคยเป็นคู่ชิงตำแหน่ง ผบ.ทบ.มาก่อน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.วิชญ์ บอกว่า ไม่จริง ไม่เคยคิดไปแข่งกับท่าน เรารู้ว่าควรอยู่ตรงไหน

จะเป็นอะไรก็เอาตามที่ “พี่ป้อม” บอก “พี่ป้อม” จะถามอย่างนี้เอาไหม อย่างนั้นเอาไหม เห็นดีเห็นงามตรงไหนก็เอาตามนั้น ไม่เคยไปขออะไร และช่วงที่นายกฯมามูลนิธิป่ารอยต่อฯ เจอกัน นายกฯก็เรียก “พี่น้อยๆ” ไม่มีอะไร

“เหมือนความสัมพันธ์ของพี่น้องสาม ป. ทุกวันนี้แนบแน่นเสมอ 3 คนนี้ไม่มีทะเลาะกันแน่นอน อาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ละเรื่องใครจะคิดตรงกันหมดทุกคน

แต่เขาพูดกันรู้เรื่อง เพราะทั้ง 3 คนเข้ามาทำงานให้ประเทศในยามวิกฤติ เพื่อชาติ สถาบันและประชาชน การชิงดีชิงเด่นที่วิพากษ์วิจารณ์กัน คิดกันเอง พี่ป้อมไม่เคยมี ท่านนายกฯก็ไม่เคยคิดกับพี่ป้อม เลิกคิดได้แล้ว”

ทุกคนเป็นน้องๆ ที่ “พี่ป้อม” ดูแลมายาวนาน

ไม่เคยทะเลาะหรือบาดหมางกันและกัน

โครงสร้าง พปชร.สัมพันธ์กับกลุ่ม 3 ป.แนบแน่น เตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งต่อไป หลังเลือกตั้งมีโอกาสกลับมาอีกรอบ พล.อ.วิชญ์ บอกว่า ในความเห็นส่วนตัว พปชร.หวังได้ ส.ส. 150 ขึ้นไป ย่อมทำได้ เพราะ ส.ส.พปชร.เชื่อมั่นหัวหน้าพรรค และ ส.ส.ลงพื้นที่ทำงานยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง

ต้นปี 65 ทุกพรรคต่างเตรียมพร้อมเลือกตั้ง เพราะมีหลายประเด็นที่ทำให้ต้องทำอย่างนั้น ทั้งการเป็นนายกฯติดต่อกัน 8 ปี ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร เป็นไปตามที่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯสรุปหรือไม่

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. 3 เขต เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งเริ่มชัดเจน สุดท้ายดูว่าสถานการณ์ตอนนั้นเป็นอย่างไร อย่าไปคิดว่ารัฐบาลอยู่ยาวหรือไม่ ตอบไม่ได้ อะไรเกิดก็ต้องเกิด

สิ่งสำคัญทำให้บ้านเมืองสงบ เสถียรภาพของรัฐบาลดีที่สุด

และประชาชนเป็นตัวจักรสำคัญที่รัฐบาลต้องดูแลให้ดี.

ทีมการเมือง