นายกฯ มุ่งมั่นแก้ปัญหา หวังตัดวงจรค้ายาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ ด้าน ก.ยุติธรรม ตั้งเป้าปี 65 ยึดทรัพย์เครือข่าย 10,000 ล้าน นำส่วนหนึ่งเป็นเงินสินบนผู้แจ้งเบาะแส 5% หรือ 500 ล้านบาท


วันที่ 21 ธ.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งมั่นอยากให้ยาเสพติดลดน้อยและหมดไปจากประเทศ จึงผลักดันกระทรวงยุติธรรมแก้ปัญหายาเสพติดเชิงรุก บูรณาการการทำงาน มุ่งตัดวงจรการลักลอบค้ายาเสพติด มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา เป็นการปรับปรุงกฎหมายยาเสพติดรวม 24 ฉบับ ให้เป็นฉบับเดียว มุ่งเน้นการจับและขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์และดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งรวมถึงการสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ กฎหมายฟอกเงิน และกฎหมายรัษฎากร เป็นหลัก แทนแนวทางเดิมที่เน้นการปราบปรามและการจับกุมเพียงอย่างเดียว เชื่อว่าจะนำไปสู่การป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างเป็นระบบ มุ่งทำลายโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติด รวมถึงการวางกรอบลงโทษผู้กระทำความผิดที่เหมาะสมและยุติธรรม
 
สำหรับการปรับปรุงประมวลยาเสพติดฉบับใหม่ เป็นการปรับกรอบแนวคิดและสร้างการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม อาทิ การริบทรัพย์สินไม่ผูกพันกับผลของคดีอาญา การริบทรัพย์สินตามมูลค่า การให้เครื่องมือทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินในกรณีเร่งด่วน ก่อนมีคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สิน ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้ทำให้การดำเนินการริบทรัพย์สินทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมและสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินด้วย
 
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2565 รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรมคาดการณ์เป้าหมายทรัพย์จากเครือข่ายค้ายาเสพติดที่จะถูกยึดมูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยจะนำมาเป็นเงินสินบนต่อผู้แจ้งเบาะแส 5% หรือ 500 ล้านบาท สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้รับเงินรางวัล 25% หรือ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย
 
“นายกฯ เน้นย้ำและมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหายาเสพติด เน้นบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ขณะเดียวกันก็เร่งทำงานคู่ขนานส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทั้งผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั่วไปด้วย ในดำเนินมาตรการภายใต้กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นั้น โดยมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์สูงสุด คือ การแก้ปัญหายาเสพติดที่มีมายาวนานและเรื้อรังในประเทศไทย”.

...