“พล.อ.ประยุทธ์” ขอบคุณคนไทย สมัครใจเข้ารับวัคซีนใกล้ ยอดแตะ 100 ล้านโดสตามเป้าหมาย สั่งการจัดฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ประชากรทุกคน รวมถึงกลุ่มเข้าถึงยาก
วันที่ 16 ธ.ค. 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยแนวทางการเร่งรัดฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ให้ทุกจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานคร จัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งสัญชาติไทยและไม่ใช่สัญชาติไทย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้เข้ารับวัคซีนโดยเร็ว เน้นการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงได้ยาก เช่น แรงงานประมง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร แรงงานตามแนวชายแดน โดยมอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) กทม. ประสานหน่วยงานผู้รับผิดชอบและภาคีเครือข่าย รวมถึงจัดให้มีการบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ หรือจัดรณรงค์เร่งการฉีดวัคซีน รวมทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มด้วย
สำหรับแนวทางบริหารจัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรที่เข้าถึงยาก มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ร่วมกันบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ดังนี้
1. แรงงานภาคประมง จังหวัดชายทะเล (จังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด) มอบ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)
2. คนประจำเรือไทย หรือผู้ปฏิบัติงานบนเรือไทย ณ บริเวณท่าเรือในพื้นที่จังหวัดต่างๆ (จังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด) มอบกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม
3. แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ บ้านนายจ้างที่ทั้งขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียน มอบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย
4. แรงงานต่างด้าว ตามชายแดนไทย มอบกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ
5. ผู้หนีภัยในพื้นที่พักพิงสำหรับผู้หนีภัยจากการสู้รบ ราชบุรี กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน และตาก มอบกระทรวงมหาดไทย
6. กลุ่มประชากรอื่นๆ ที่ไม่ใช่สัญชาติไทยทั้งหมดในทุกจังหวัด มอบกระทรวงมหาดไทย
...
สำหรับตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจากหมอพร้อม ณ วันที่ 15 ธ.ค. 2564 ยอดสะสม 98.5 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็ม 1 สะสม 50.2 ล้านโดส เข็ม 2 สะสม 43.8 ล้านโดส และเข็ม 3 สะสม 4.5 ล้านโดส
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมมือกันฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ นอกจากจะป้องกันตนเอง ยังมีส่วนกับรัฐบาลในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรียังมั่นใจว่าไทยจะบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังขอให้ผู้ที่ถึงเวลาที่กำหนด เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย เพื่อทุกคนจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน”.