"ชาวจะนะ" โร่ ร้องกมธ.สภาฯ สอบ "นิคมอุตสาหกรรมจะนะ" ละเมิดสิทธิ์ จี้สอบ ศอ.บต.เป็นคู่ขัดแย้งประชาชน ด้าน "โรม" ผิดหวังรัฐ เล่นงานเพิ่มคดีประชาชน
วันที่ 8 ธ.ค. ที่รัฐสภา ตัวแทนลูกหลานเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่ถูกจับกุมคุมขัง นำโดย น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ ยื่นหนังสือต่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.กฎหมายฯ
โดย น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า การที่เครือข่ายจะนะฯ มาชุมนุมเพื่อจะทวงสัญญา MOU ที่รัฐบาลทำไว้กับเครือข่ายว่า จะมีการศึกษาศักยภาพของพื้นที่กันใหม่ และควรมีการพิจารณาพัฒนาไปในทิศทางใด เหมาะสมหรือไม่ ที่จะเอามาแลกกับนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในการมายื่นหนังสือมีข้อเรียกร้อง คือ ขอให้ตรวจสอบการสลายการชุมนุมในยามวิกาลพร้อมกับการแจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้านทั้ง 37 รายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายและเกินกว่าเหตุหรือไม่ รวมทั้งขอให้ตรวจสอบกระบวนการดำเนินงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบกับชาวบ้านจำนวนมาก
“รัฐบาลจึงควรให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมในโครงการทั้งหมดทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังขอให้ตรวจสอบการทำงานของ ศอ.บต.ว่าสมควรหรือไม่ ที่ศอ.บต.ซึ่งเป็นผู้ขัดแย้งกับชาวบ้านจะเป็นผู้ทำประชาพิจารณ์ สัญญาที่ให้ไว้กับชาวจะนะ ทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากที่ถูกหลอกมาเป็นปีๆ ซึ่งเชื่อว่ามีการทำ MOU ไม่ใช่แค่ที่จะนะที่เดียว ทั้งนี้พวกเราอยากจะให้กมธ.มีการตรวจสอบอย่างถึงที่สุด” น.ส.ไครียะห์ กล่าว
...
ด้าน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กมธ.ติดตามเรื่องนี้ และต้องยอมรับว่า น่าผิดหวังในวันที่มีการสลายการชุมนุม และทำให้ประชาชนที่เรียกร้องเรื่องนี้ถูกดำเนินคดี โดยหลังจากนี้จะต้องเสียเวลามาขึ้นโรงขึ้นศาล โดยวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะต้องมารายงานตัวเป็นครั้งแรกที่สถานีตำรวจ ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ชาวจะนะออกมาเรียกร้องให้รักษาสัญญาว่า อาจจะมีข้อผิดพลาดในการแก้ปัญหา เพราะสามารถสร้างกระบวนการในการพูดคุยกันได้ แต่กระบวนการพูดคุยยังไม่เกิดขึ้น ก็เกิดการสลายการชุมนุมแล้ว ตนคุยกับนายสิระและเห็นตรงกันว่า ควรจะทำอะไรบางอย่าง และไม่สามารถปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจตามอำเภอใจในการสร้างความรุนแรงกับประชาชน ซึ่งการรวมตัวกันของประชาชน 40-50 คนนี้ไม่ได้มีความรุนแรงอะไร