"ธัญวัจน์" ส.ส.ก้าวไกล ทวงถาม พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ เผย ทั่วโลกรับรองโอบรับความหลากหลาย แต่กฎหมายไทยยังจำกัดอยู่แค่ในระบบ 2 เพศ รมว.พม.ยัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ 

วันที่ 2 ธ.ค.ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวงถาม ความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ จาก นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์ ว่า เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ จึงจำเป็นต้องปูพื้นฐานความเข้าใจให้ตรงกัน การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ เป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยเรียกว่า Gender x recognition โดยมีมุมมองในด้านเพศปัจุบันว่าไม่ได้มีเพียงแต่เพศทางกายภาพ (biological sex) ที่มีเเค่เพศชาย-หญิง แต่ยังรวมถึงเพศสภาพ เพศวิถี เเละอัตลักษณ์ทางเพศ

ก่อนหน้าตนได้กล่าวถึงประเด็นนี้ ในการอภิปรายเกี่ยวร่าง พ.ร.บ.บัตรประชาชน ที่ใช้คำเฉพาะทางว่า SOGICSC เป็นมุมมองด้านเพศแบบ 4 ด้าน ประกอบด้วย เพศกำเนิด (biological sex), เพศสภาพคือการเเสดงออกทางเพศ, เพศวิถี และรสนิยมทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ ที่หมายถึงสำนึกเเละนิยามตัวเองว่าเป็นเพศอะไร หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกของเราได้พูดถึงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก โดยกล่าวถึงความเสมอภาคทางเพศชาย เพศหญิง แน่นอนว่า เมื่อโลกมีการพูดคุยด้านสิทธิมนุษยชนดำเนินไปจนถึง ในปี 2549 นักกฎหมายกลุ่มหนึ่งได้พบว่า มีบางอย่างที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ จึงเกิดหลักการ "ยอร์คยากาตาร์" ที่พูดถึงสิทธิของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อเป็นเเนวทางในการพิจารณาและการออกกฎหมายทั่วโลก

“ทำไมเราต้องคำนึงถึงเพศสภาพ เพศวิถี อัตลักษณ์ทางเพศ เนื่องจากว่า กฎหมายในปัจจุบันยังอยู่ระบบ 2 เพศ ดังนั้น การจำกัดความให้คนที่มีเพศวิถีหรือเพศสภาพ ที่หลากหลายอยู่ในระบบ 2 เพศ จึงเปรียบเหมือนกับการไม่มีเสรีภาพ หรือมีเสรีภาพเพียงเเค่ ครึ่งๆ กลางๆ ไม่สามารถสมรสกับคนที่มีรสนิยมทางเพศที่เป็นเพศเดียวกัน หรืออัตลักษณ์ทางเพศที่เเตกต่างกัน นี่เป็นที่มาที่ประชาชนตอนนี้ขับเคลื่อนในประเด็น #สมรสเท่าเทียม ขณะนี้”

ธัญวัจน์ กล่าวต่อไปว่า จึงขอทวงถามไปยังนายจุติ ว่าให้สำคัญด้านนี้เเค่นี้ไหน เนื่องจากมีข่าวลืออกมาว่า ร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศดังกล่าวถูกจัดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญไม่เร่งด่วน ประกอบกับเวลาผ่านมาสองปีก็ยังไม่เห็นความคืบหน้า ทำให้รู้สึกว่าข่าวลือเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ปัจจุบันมีความคืบหน้าร่างกฎหมายอย่างไรบ้าง

“ขณะนี้ประเด็น Gender x หรือเพศที่ไม่ต้องการนิยามทางเพศว่าเป็นชายหรือหญิง ในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย รวมถึงอินเดีย มีการรับรองกฎหมายนี้เเล้ว ญี่ปุ่นเอง กำลังผลักดันประเด็นดังกล่าว ในสหรัฐอเมริกา ก็มีการกำหนดเพศดังกล่าวในเอกสารราชการและหนังสือเดินทาง จึงขอทวงถามความคืบหน้าประเด็นดังกล่าวต่อท่านรัฐมนตรี”

...

ต่อมา นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์ ได้ตอบคำถาม ว่า เป็นความตั้งใจเเละนโยบายของรัฐบาลให้ส่งเสริมด้านสิทธิมนุษยชนทุกมิติ และไม่ได้นิ่งนอนใจ ในปี 2563 ได้มีการประชุมหารือถึง 5 ครั้ง แต่ในกลุ่มเพศสภาพอัตลักษณ์วิถี มีประมาณ 28 กลุ่ม ความยากคือการให้พวกเขาเหล่านั้น เข้าใจตรงกัน รัฐบาลมีความตั้งใจพยายามไม่ลดละและต้องการให้ร่างกฎหมายเสร็จโดยเร็ว หากท่านสามารถเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ตนก็ยินดี