“ดอน” รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ แจงกระทู้ “สุทิน” ส.ส.เพื่อไทย ปมเยือนเมียนมา ยัน ไม่ได้ลับๆ ล่อๆ ยืนยัน ไม่แปลก ไทยไม่ได้รับเชิญประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย ชี้ เป็นดาบสองคม
วันที่ 25 พ.ย. 2564 ในช่วงหนึ่งของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถาม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงการเยือนเมียนมา เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมองว่ามีความผิดปกติและมีความไม่เหมาะสม หลังเมียนมารัฐประหาร ประชาคมโลกมีท่าทีชัดเจน แต่ไทยกลับไปเยือนจึงเป็นการกระทำที่สวนทางกับประชาคมโลก อีกทั้ง หลายประเทศก็ระมัดระวังท่าทีต่อเมียนมา ส่งไปเพียงทูตพิเศษ ไม่ได้ส่งผู้นำระดับสูงไปอย่างไทย ไม่แถลงข่าวให้ทราบถึงการเดินทางไป
อีกทั้งเมื่อกลับมามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงสำนักข่าวกรองกลาง หรือ ซีไอเอ มาพบนายกรัฐมนตรี กลัวจะกระทบความ สัมพันธ์หรือไม่ ล่าสุด การประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย ที่สหรัฐอเมริกาจะจัดขึ้นก็ไม่มีชื่อประเทศไทยได้รับเชิญ 110 ประเทศ นี่คือความเสียหายในภาพลักษณ์ประเทศ อยากทราบมีเหตุผลความจำเป็นใดไปเยือนเมียนมา สิ่งที่ดำเนินการไปเป็นการบ่อนทำลายท่าทีอาเซียน สหประชาชาติ ประชาคมโลก เพราะองค์กรเหล่านี้ไม่ยอมรับรัฐบาลเมียนมา จะเยียวยาภาพลักษณ์ประเทศที่เสียไปอย่างไร และกระทรวงต่างประเทศมีท่าทีอย่างไรต่อการทำรัฐประหารในเมียนมา หรือเพราะที่มารัฐบาลไทยกับเมียนมาสอดคล้องกัน จึงเห็นอกเห็นใจกันเป็นพิเศษ

...
จากนั้น นายดอน ชี้แจงว่า การไปเยือนเมียนมาเป็นไปตามกติกาสังคม เรื่องมนุษยธรรม ตามที่หลายประเทศขอให้ไทยช่วยดำเนินการความช่วยเหลือเรื่องนี้ และมีการหารือทวิภาคี สอดคล้องกับผลประโยชน์ประเทศ เพราะมีชายแดนติดต่อกัน ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนเมียนมา ไทยร่วมกับอาเซียนจัดส่งของไปให้กาชาดสากลที่ปฏิบัติงานอยู่ สิ่งต่างๆ ที่ดำเนินการล้วนแต่ได้รับการต้อนรับจากผู้เกี่ยวข้อง ใครก็ตามที่นั่งเทียนพูดให้ข้อมูลผิดพลาด ถือเป็นเฟกนิวส์ของพวกนักเล่าข่าว เราไม่ได้ไปอย่างลับล่อ แต่ไม่จำเป็นต้องโพนทะนา ป่าวประกาศ มองแค่ผลสัมฤทธิ์ แต่ไปเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ดำเนินไปด้วยความสุขุมรอบคอบ ไม่ใช้มนุษย์พันธุ์หิวแสง การพูดคุยกับเมียนมาครั้งนี้เกิดประโยชน์ เขาพร้อมร่วมกับอาเซียน นานาประเทศ ส่วนตัวอยากจับเข่าคุย นายสุทิน ให้รับรู้เรื่องการต่างประเทศในอีกหลายมุมที่ไม่เคยทราบ

ส่วนที่กรณีที่ประเทศไทยไม่ได้รับเชิญร่วมการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย (The Summit for Democracy) นั้น นายดอน ระบุในเรื่องนี้ว่า
“การประชุมดังกล่าวเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ เป็นเรื่องของการเมืองที่จะต้องการเล่นงานกันและกัน ไม่ใช่ว่าเพื่ออาเซียนทั้งหลายได้รับเชิญ ไม่มีหรอก บางประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีการเลือก เขาก็ไม่ได้รับเชิญด้วย คือเพื่อนของเรา เพราะฉะนั้นมันไม่ได้แปลกในแง่ของการไม่ได้รับการเชิญ บางเรื่องเราดีใจด้วยซ้ำไปไม่ต้องเชิญเรา บ่อยครั้งถ้าไม่เชิญเราก็บอกว่าดีแล้ว ถ้าเชิญเราก็ต้องพิจารณาว่าจะไปหรือไม่ไป มันเป็นดาบสองคมในหลายๆ กรณีด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าไม่มีคำเชิญแล้วเราจะต้องตื่น กระทืบเท้าด้วยความเสียใจหรืออะไร ไม่ใช่เป็นเช่นนั้น ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น หรือจะมีคำเชิญแล้วเราต้องลิงโลดที่จะไป ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นด้วยเช่นกัน ความเป็นจริงของชีวิตโดยเฉพาะด้านต่างประเทศมันไม่ได้ออกมาอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ”
ทั้งนี้ นายดอน ยังฝากไปยัง นายสุทิน ว่า ขอให้เชิญตนเองหรือนัดทานข้าวกันได้ อยากจะเล่าให้ฟังอีกหลายๆ มุมด้วยกัน สำหรับท่าทีต่อการรัฐประหารในเมียนมานั้น คิดว่าควรหาทางพูดคุยกันให้เกิดความปรองดองและหาทางคืนอำนาจ การไปเมียนมาเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ยังคุยว่า ต้องหยุดความรุนแรง และปล่อยนักโทษการเมืองโดยเร็ว.