อดีตกรรมการแอมเนสตี้ฯ อ่านแถลงการณ์หน้าหอศิลป์ เรียกร้องให้การใส่เสื้อครอปท็อป-วิจารณ์สถาบันฯ ได้โดยไม่มีความผิด อ้างถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 พ.ย. 2564 ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน กลุ่มสหภาพนักศึกษาและคนทำงานศาลายา ร่วมกับกลุ่มราษดรัมส์ และศิลปินราษฎร นำโดย น.ส.กรกนก คำตา อดีตคณะกรรมการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ นัดหมายมวลชนแนวร่วม สวมเสื้อครอปท็อป หรือเสื้อเอวลอย เดินทางมาชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ภายใต้ชื่อ "ใครจะใส่เสื้อครอปมันผิดอะไร" ทั้งนี้เพื่อร่วมแสดงออกถึงการคัดค้านกรณีศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำม็อบราษฎร ผู้ต้องหาในคดี ม.112 จากการสวมเสื้อครอปท็อปเดินศูนย์การค้าสยามพารากอน สำหรับไฮไลต์ของกิจกรรมคือการบรรเลงกลองโดยกลุ่มราษดรัมส์ การตะโกนคำว่าปล่อยเพื่อนเรา ยกเลิก 112 ร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา และการร่วมกันสวมเสื้อเอวลอยยืนชูสามนิ้ว

...

ต่อมา น.ส.กรกนก ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องใจความว่า เราประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ขอยืนยันว่า

1.การใส่เสื้อครอปท็อปเพื่อการรณรงค์เป็นสิทธิ
2.การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือสถาบันกษัตริย์เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์
3.การคิดและวิธีการแสดงออกทางความคิดตามเสรีภาพจะต้องไม่ถูกควบคุม ไม่ถูกลิดรอนสิทธิ ประชาชนจะต้องไม่ถูกจองจำในเรือนจำจากคดีทางการเมืองหรือคดีทางความคิด
4.สิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในการได้รับการประกันตัวเป็นของประชาชนทุกคน อย่างไม่มีเงื่อนไข

ก่อนยุติกิจกรรมมีการปิดท้ายด้วยการร่วมกันตะโกนว่า "ศักดินาจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ" โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที.