นายกรัฐมนตรี สวมเสื้อบาติกลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ลงพื้นที่เยี่ยมอาคารศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าโอทอปอันดามัน จ.กระบี่ เชิญชวนคนรุ่นใหม่ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา เพื่อร่วมพลิกโฉมประเทศไทย
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สวมใส่เสื้อบาติกสีฟ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พื้นเมือง OTOP ของจังหวัดกระบี่ ในการตรวจเยี่ยมมอบนโยบาย และพบปะหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการภาคเอกชน โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะรัฐมนตรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ร่วมรับฟัง
โดยตลอดทั้งวันนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาในด้านต่างๆ ของจังหวัดกระบี่ และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งในช่วงเช้าได้เดินทางไปที่ศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัยทางการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ซึ่งจังหวัดกระบี่โดยความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ขึ้น ณ บริเวณถนนสายเทคนิค-ท่าเรือ หมู่ 7 ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ บนพื้นที่ 4 ไร่ 3 งาน 38 ตารางวา เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรมด้านการดับเพลิง กู้ภัย และบรรเทาสาธารณภัยระดับสากล สร้างบุคลากรด้านการบริหารจัดการสาธารณภัยที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานสากลให้แก่บุคลากรของหน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และจังหวัดใกล้เคียง
...
จากนั้นได้เดินทางตรวจเยี่ยมอาคารศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าโอทอปอันดามัน (ANDAMAN OTOP SHOP) ซึ่งได้รับงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดอันดามันในปี 2561 ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองกระบี่ เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียงของกลุ่มจังหวัดภาคโต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดระนอง และจังหวัดสตูล ภายในอาคารได้มีการตกแต่งให้ความสวยงาม โดยนำสัญลักษณ์สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงดอกไม้ประจำจังหวัดของแต่ละจังหวัดมาตกแต่ง ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอีกหนึ่งช่องทาง เพื่อเพิ่มศักยภาพ “ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์”

โอกาสนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เลือกซื้อของสินค้าผลิตภัณฑ์โอทอปของจังหวัดต่างๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการโอทอป เช่น อาหารพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์จักสาน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น โดยได้เน้นย้ำประเด็นการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ (Packaging) ให้มีความทันสมัย เป็นที่สนใจของตลาดผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ยังคงอัตลักษณ์ของสินค้านั้นๆ เช่น รสชาติอาหาร การออกแบบผลิตภัณฑ์จักสานแบบ Mix and Match เป็นต้น รวมทั้งได้ชิมไวน์สับปะรด และน้ำมะม่วงหิมพานต์ ผลิตภัณฑ์โอทอปของจังหวัดภูเก็ต ผลิตภัณฑ์จากพืชที่ใช้วิธีการปลูกพืชแบบผสมผสาน การแปรรูปผลิตภัณฑ์โดยใช้การวิจัยและพัฒนาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และได้เน้นย้ำในด้านการออกแบบวิธีการโฆษณาและการทำการตลาดให้ดึงดูดใจผู้ซื้อในตลาดต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีและคณะยังได้ชื่นชมผลงานผ้าไหมลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ และอุดหนุนผู้ประกอบการผ้าไทยของจังหวัดต่างๆ
และไฮไลต์ของการลงพื้นที่ในวันนี้คือ ในช่วงบ่าย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้สวมใส่เสื้อผ้าบาติกลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการโอทอปในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามันที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการพระราชทานลายผ้าที่มีความทันสมัย โดดเด่น และเป็นการประยุกต์ต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้า ทำให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับประชาชน เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และต่างประเทศ
"วันนี้เรากำลังพลิกโฉมประเทศไทย เราจะทำให้หน้าตาประเทศเราดีขึ้น ตั้งแต่เรื่องศักยภาพ แนวคิด หลักคิด ปัญหา อุปสรรค การขจัดอุปสรรคที่มีอยู่ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องจัดการให้เพียงพอและโปร่งใส วันนี้ยินดีที่ได้มาเปิดการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ดังนั้นมาตรการทุกมาตรการต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวด เด็ดขาด ห้ามมีการปล่อยปละละเลย ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกคน เพื่อให้เราสามารถเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กับการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 เราต้องร่วมกันระดมความคิดจากคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ต้องช่วยกันทำ ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ ถ้าเราเข้าใจซึ่งกันและกัน การพัฒนาประเทศก็สามารถเดินหน้าไปได้" นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย.