อดีต ส.อบต.บุกร้อง ป.ป.ช.จี้ตรวจสอบเอาผิดอดีตนายกฯ อบต.ที่บุรีรัมย์ หนีคดีทุจริตแต่เบิกเงินเดือนได้ แถมลงสมัครชิงเก้าอี้นายกฯ ได้อีก
วันที่ 9 พ.ย. 64 นายสนิท บุญทวี อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ให้เร่งรัดตรวจสอบเอาผิดอดีตนายก อบต.ไทยสามัคคี พร้อมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติด้วยว่า เป็นบุคคลที่ต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากอดีตนายก อบต. คนดังกล่าว มีพฤติกรรมหนีหมายจับคดีทุจริตหลายโครงการที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดทั้งอาญาและวินัยไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562
โดยอดีตนายกฯ คนนี้ ได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่จนคดีหมดอายุความ ซึ่งผู้ร้องระบุว่า นอกจากจะเป็นที่กังขาเรื่องที่อดีตนายกฯ สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ได้ จนคดีหมดอายุความแล้ว ช่วงระหว่างที่หลบหนีการจับกุม ทำไมอดีตนายกฯ คนนี้ ยังมีการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทน และเงินประจำตำแหน่งตามปกติ ยิ่งกว่านั้นเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ยังโผล่ไปลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งเก้าอี้นายก อบต. ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 28 พ.ย. 2564 ที่จะถึงนี้ได้อีกด้วย โดยที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ว่าเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติแต่อย่างใด จึงอยากให้ ป.ป.ช.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีพยานหลักฐานว่าอดีตนายก อบต.กระทำผิดจริง ควรจะดำเนินคดีตามกฎหมายและถอดจากการเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกฯ ด้วย
นายสนิท ยังยืนยันว่า ที่ตนเองมาร้องเรียนให้ตรวจสอบเอาผิดอดีตนายกฯ อบต.นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง เพราะตนไม่ใช่ผู้สมัครคู่แข่งและประกาศจะไม่เล่นการเมืองอีก แต่ที่มาร้องเพราะอยากให้เกิดความถูกต้องในสังคม ผู้ที่กระทำผิดหรือทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดิน ควรจะได้รับโทษตามกฎหมาย ทั้งจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นอีก
...
ด้าน น.ส.สุรีรัตน์ นวลฉิมพลี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่มีการร้องเรียนอดีตนายก อบต.ไทยสามัคคี กระทำทุจริตนั้น ทาง ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดทั้งอาญาและวินัยไปแล้ว ทั้งได้ยื่นขอศาลอนุมัติออกหมายจับอดีตนายกฯ รายนี้ด้วย แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีหมายจับ จนคดีหมดอายุความเมื่อปลายเดือน พ.ย. 2562 ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ไม่สามารถจะดำเนินการอะไรได้ เพราะตามกฎหมายระบุไว้แบบนั้น ส่วนกรณีที่อดีตนายกฯ ไปเซ็นงาน เบิกเงินเดือน ค่าตอบแทน และเงินประจำตำแหน่งช่วงที่หลบหนีหมายจับซึ่งถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทาง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งได้ข้อมูลมาพอสมควร หากพบข้อมูลหลักฐานว่ากระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
"ส่วนที่ผู้ร้องขอให้พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของอดีตนายกฯ ว่าเป็นบุคคลต้องห้ามหรือขาดคุณสมบัติ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทาง กกต.ว่าจะวินิจฉัยอย่างไร เพราะไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.".