“อนุทิน” สั่งเตรียมแผนตรวจหาโควิด-19 รับมือเปิดประเทศต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องทั่วถึง รวดเร็ว และปลอดภัย รับ เปิดเมืองยอดติดเชื้อก็ต้องสูงขึ้น มุ่งเป้าคนป่วยหนักและเสียชีวิตต้องน้อยลง

วันที่ 2 พ.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเปิดประเทศวานนี้ (1 พ.ย. 2564) ว่า มีการเดินทางของชาวต่างชาติเข้ามาแล้ว ตามรายงานผู้ที่เดินทางเข้ามาก็อยู่ในกฎเกณฑ์ทุกประการ คือ ก่อนเดินทางต้องมีเอกสารรับรองว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ได้รับวัคซีนครบโดส เมื่อมาถึงต้องตรวจด้วยวิธี RT-PCR ระหว่างรอผลต้องอยู่ในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ หากใครตรวจพบว่ามีเชื้อก็ต้องไปรักษา จากนี้น่าจะมีเที่ยวบินเข้ามามากขึ้น จะมีผู้เดินทางเข้ามาเรื่อยๆ ตามประกาศเพิ่มเติมประเทศที่สามารถเดินทางมาที่ไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด

ทั้งนี้ จะมีงานที่เพิ่มเข้ามาในการตรวจหาเชื้อ ซึ่งมีคำสั่งไปที่กรมควบคุมโรคในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้วว่าจะต้องวางแผนดำเนินการไว้ให้ดี จะต้องตรวจผู้เดินทางเข้ามาอย่างทั่วถึง รวดเร็ว และปลอดภัย ขณะที่ผู้เดินทางเข้ามาก็ต้องได้รับการอำนวยความสะดวกตามความเหมาะสมด้วย

นายอนุทิน ระบุต่อไปว่า มาตรการที่ออกมามีความปลอดภัยและรัดกุม ขณะที่ในประเทศก็ต้องระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรค ยืนยันว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ ล่าสุดจากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบผู้สูงอายุฉีดวัคซีนแล้วแต่ติดเชื้อ ปรากฏว่ามีอาการน้อยมาก นี่คือหลักฐานเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนว่าช่วยลดอาการป่วยและลดการสูญเสีย โดยจากนี้จะต้องฉีดให้กับทุกคนที่พำนักในประเทศไทยซึ่งเข้าเกณฑ์การได้รับวัคซีน ถึงจะเป็นแรงงานต่างด้าวก็ต้องได้รับการฉีด นอกจากนั้นเราได้ประสานนำเวชภัณฑ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องการนำเข้ายาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

...

ทั้งนี้ เมื่อเราเตรียมพร้อมทั้งคน ทั้งยา ทั้งแผน ทั้งการรักษา ไปจนถึงการฉีดวัคซีน โรคจะลดความรุนแรงลงมาเรื่อยๆ ซึ่งการฉีดวัคซีนก็มีคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน หรือที่เรียกว่าคณะกรรมการวิชาการ ช่วยดูแลเสนอแนวทางการให้บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ กระทรวงสาธารณสุข ต้องทำทุกวิธีเพื่อให้ประชาชนปลอดภัยจากโรค อย่าง จ.เชียงใหม่ ยอดการฉีดวัคซีนก็สูงเกินเป้าแล้ว คือ มีประชากรประมาณ 1.2 ล้านคน จาก 1.7 ล้านคน ได้รับวัคซีนแล้ว เมื่อมองว่าเป้าหมายของเราคือ 70% ของประชากร เราไปถึงเป้าหมายนั้นแล้ว แต่การฉีดก็จะเกิดขึ้นต่อไปตามความต้องการของประชาชน

“เรื่องยอดผู้ติดเชื้อมีรายงานเข้ามาเรื่อยๆ แน่นอน ยิ่งเมื่อเปิดเมืองยอดก็จะต้องสูงขึ้น แต่สิ่งที่ต้องคิดคือ ยอดการป่วยหนักต้องน้อย ยอดการเสียชีวิตต้องน้อย เราต้องมองเรื่องนี้เป็นหลัก และให้ประชาชนได้ดำเนินชีวิตต่อไป”.