การปรากฏตัวของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนสุดท้องหัวแก้วหัวแหวนของ ตระกูลชินวัตร ที่ว่ากันว่ามีเลือดพ่อแรง มากที่สุด ในฐานะแกนนำคนรุ่นใหม่ของ เพื่อไทย ในขณะเดียวกัน ก็ตั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แทน สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่มีอายุอานามเป็นคนรุ่นเดียวกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่พูดจาภาษาเดียวกันรู้เรื่อง การประชุมสภาแต่ละครั้ง ทั้งหัวหน้าพรรคฝ่ายรัฐบาลและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านจะนั่งคุยกันถูกคอจึงเป็นเรื่องธรรมชาติ

เพื่อให้เกิดความสมดุล ระหว่างคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ก็เลยเอาคนรุ่นกลางเก่ากลางใหม่อย่าง หมอชลน่าน ที่อายุเพิ่งจะครบแซยิด มาเป็นผู้นำพรรคเชื่อมระหว่างคนสองรุ่นในพรรค แสดงให้เห็นทิศทางของพรรคเพื่อไทยในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพความ เปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทางการเมืองในอนาคต

เชื่อว่าในอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้า นักการเมืองประเภทดาวสภา ประเภท นักร้อง นักวิ่งนักเต้นก็จะค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับนักการเมืองในประวัติศาสตร์ทั้งหลาย คนรุ่นใหม่ที่เติบโตเป็นประชากรของประเทศ ทดแทนรุ่นเก่าแก่ที่ยึดติดลุ่มหลงในประเพณีวัฒนธรรมเดิมๆก็จะค่อยๆหมดไป ชื่อของคุณประยุทธ์ คุณประวิตร คุณไพบูลย์ คุณสิระ คุณปารีณา คุณสุทิน คุณสุริยะ คุณสมศักดิ์ คุณเนวิน คุณอนุทิน คุณจุรินทร์ คุณธรรมนัส คุณสุเทพ คุณอภิสิทธิ์ หรือแม้แต่ชื่อของคุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ คุณหญิงสุดารัตน์ ก็จะค่อยๆเลือนหายไปทีละน้อยๆไม่เป็นที่จดจำอีกต่อไป

คลื่นลูกใหม่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชื่อของ ไอติม ชื่อของ อุ๊งอิ๊ง ชื่อของ ไฮโซลูกนัท ก็จะเข้ามาแทนที่ เป็นวัฏจักรการเมือง คลื่นลูกใหม่ไล่คลื่นลูกเก่า คนที่เคยมีผลงานในอดีตเป็นนักการเมืองน้ำดีแค่ไหนมาถึงตอนนี้จะมีชื่อในสารบบการเมืองก็ยากเต็มที ยกตัวอย่าง กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ แต่จะผ่านสมรภูมิการเมืองมาได้หรือไม่ รับรองว่าหืดขึ้นคอ

...

ว่ากันตามเนื้อผ้า สมรภูมิการเมืองในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาชื่อของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชื่อของ ปิยบุตร แสงกนกกุล เหมือนดาวจรัสแสง ซึ่งว่ากันว่า เป็นการเมืองน้ำใหม่ ที่จะมาไล่น้ำเก่า ด้วยซ้ำ

แต่เมื่อ การเมืองไทย มีกลไกกับดักสารพัดพิษ และไม่สามารถดิ้นหลุดจากกับดักอวตารไปได้ โอกาสที่จะกลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองเต็มร้อยคงเป็นได้ยากมาก จะกลับมาอีกทีก็เลยวัยไปแล้ว

การเมืองยังทำลายอนาคตของประเทศในเวลาเดียวกัน โลกเปลี่ยนไปไม่รู้ถึงไหน แต่การเมืองไทยไม่เปลี่ยน เพราะผู้มีอำนาจทางการเมือง ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และไม่กล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลง

แต่ดาบย่อมมีสองคมเสมอ การที่ เพื่อไทย ชู อุ๊งอิ๊ง ขึ้นมาชัดขนาดนี้ คนรุ่นเก่าเลือดเก่า หรือคนหัวแข็งก็คงหาทางรอดจาก วิบากกรรมในอนาคต เพราะคิดว่า เพื่อไทย มีทุกวันนี้ได้เพราะ คนรากหญ้าไม่ใช่เพราะ คนรุ่นใหม่ และ เพื่อไทย ก็ไม่ใช่คู่แข่งของ ก้าวไกล แต่ต้องชิงอำนาจจาก สาม ป. ให้สำเร็จ ถ้าเปลี่ยนแนวก็เท่ากับฆ่าตัวตาย

อีกดาบ การชูอุ๊งอิ๊งก็เท่ากับเพื่อไทยเปิดจุดอ่อนของตระกูลชินวัตร ให้ขาประจำได้มีงานทำ ทั้งขุดทั้งคุ้ย อย่าทำเป็นเล่นไป สังคมไทยค่อนข้างจะอ่อนไหว สุดท้ายก็กลายเป็นสงครามของฝ่ายอนุรักษนิยมกับอนาคตนิยม

จับเอาประชาชนเป็นตัวประกัน เอาประเทศเป็นเดิมพันตามฟอร์ม.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th