ห้วงที่หลายเรื่องเกี่ยวกัน ทั้งศึกวัดพลัง ประลองกำลัง การเปิดหัวตั้งพรรคแยกค่ายกันอยู่ กฎกติกาเลือกตั้ง “บัตรสองใบ” และสถานะความเป็นนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โยงใยกันทุกเรื่อง
ในรายการเปิดหัวตั้งพรรค จู่ๆ “ผู้การชาติ” พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาจุดพลุเปิดประเด็น เตรียมยก 13 ส.ส.ปักษ์ใต้ ทิ้งค่ายเก่าไปอยู่พรรคใหม่ของ “บิ๊ก ฉ.ฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
คอนเฟิร์มข่าวลือกระหึ่มก่อนหน้า “บิ๊ก ฉ.ฉิ่ง” เป็นดีลเมกเกอร์ทำเกม เตรียมเปิดค่ายใหม่ไว้รอรับ “2 ป.” หากถึงคิวชิ่งจาก ป. พี่ใหญ่ ที่ครองเกมยึดฐานพลังประชารัฐเหนียวแน่น
เปิดเกมจุดพลุตระการตาตระการใจ แต่พอโดนเช็กซักละเอียด “ผู้การชาติ” ก็ยังอ้อมแอ้ม ทั้งเรื่อง 13 ส.ส.ที่จะยกขบวนไปด้วยยังไม่ชัวร์ ขึ้นอยู่แต่ละคนจะตัดสินใจ บอกแค่ว่าที่จะไปแน่ก็บรรดานักการเมือง ที่น่าจะเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. สอบตก หลายสิบราย พร้อมยกขบวนไปอยู่ค่าย ฉ.ฉิ่ง หนุน “บิ๊กตู่” เป็นผู้นำรอบต่อไป
ประกาศตัวเป็น “กองกำลังอาสา” กองหนุนเพื่อนรัก ตท.12 คิวนี้ที่คาดว่าจะได้เห็นอะไรชัดก็เลยยังไม่ชัด พรรค “บิ๊ก ฉ.ฉิ่ง” ที่ว่าไปเตรียมหัวไว้ “เศรษฐกิจไทย” จะได้เป็นที่ลงหลักปักฐานของ 2 ป. พี่รอง–น้องเล็กจริงหรือไม่
ที่แน่ๆ คิวร้อนช็อตนี้ของ “ผู้การชาติ” เรียกแขกกระหึ่ม โดนคน พปชร.จวกเละอัดยับ แค่คิวสร้างราคา สร้างความแตกแยกระหว่างพี่น้อง 3 ป. ทหารเฒ่าที่กำลังโชว์หวานระหว่างพี่ๆน้องๆกันแหม็บๆ
แต่ถ้าประเมิน “ผู้การชาติ” ผิดคิวหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่ ออกโรงงวดนี้ ได้พ่วงทั้งวาระเพื่อน-วาระส่วนตัว อย่างที่ผู้การระบุไว้ ถึงความน้อยเนื้อต่ำใจของ ส.ส.ภาคใต้ แย่งเก้าอี้เจ้าถิ่น ปชป.มาได้ถึง 13 ที่นั่ง แต่ต้นสังกัดไม่ให้ค่า ไร้เก้าอี้ รมต. จึงต้องกระตุกด้วยแผนแหกค่ายต่อรอง
...
ตามที่ พ.อ.สุชาติอ้าง เคยปรึกษา “บิ๊กตู่” เรื่อง ส.ส.ใต้ กับคำตอบที่ได้มา “เดี๋ยวค่อยหาพรรคใหม่”
แผนค่ายสำรองของผู้นำ ชิ่งหนีพี่ใหญ่-ทิ้ง พปชร. ก็ชักจะเข้าเค้าเหมือนกัน ในจังหวะที่กำลังมีเชิงเล็กๆกับพี่ใหญ่ที่น้อยอกน้อยใจ ก็ต้องเพิ่มดุลพูดคุย แล้วเปิดวงหารือในหมู่พี่ๆน้องๆ แค่วันสองวัน แมตช์สองแมตช์ก็คงยังไม่ลงตัว มีหลายปมต้องร่วมกันเขย่าอีกหลายยก
ทั้งการจัดสมการอำนาจ แชร์ดุลเครือข่ายน้อง–พี่ รวมทั้งแผนไปต่อ 3 ป. ไปต่อแบบไหน หรือต้องแยกกันเดิน–ค่อยไปรวมตัว “ชิงดาว” กันอีกที
รวมทั้งปม “บัตรสองใบ” ที่ถึงคิวนายกฯต้องตัดสินใจ จะยื่นตีความพลิกเกมเอง หรือยิงวิถีโค้ง ตามที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรัฐธรรมนูญ
บัตรสองใบ-บัตรใบเดียว กติกาเลือกตั้งชี้ทิศทาง 3 ป. แตกพรรค-แยกค่ายแยกทางกันจริงหรือไม่
รวมทั้งโยงไปถึงสถานะ คิวนั่งเก้าอี้ผู้นำ 8 ปีของ “บิ๊กตู่” จะออกมารูปแบบใด หรือลากเกมให้รอ “เหตุเกิด” ค่อยตีความ
ในสถานการณ์เริ่มแปร่งสุ้มเสียงนักกฎหมาย มือร่างรัฐธรรมนูญ ถึงแม้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานร่างฯ จะออกตัวผ่านคนใกล้ชิด “ลืมไปแล้ว” แต่อดีตทีมยกร่าง รธน.หลายรายสลับออกมาคอมเมนต์
รวมทั้งล่าสุดแว่วมาแรงจนต้องเงี่ยหูฟัง เกมใหม่ “ยุบพรรค” จับจ้องไปที่ปมแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีนักร้องไปยื่นเรื่องคาองค์กรตรวจสอบ จุดชี้เป็นชี้ตายสถานะ ส.ส. กว่าครึ่งสภา โดยเฉพาะพลังประชารัฐเสี่ยงพังยกค่าย สลายทั้งค่าย
จูนไม่ติด เคลียร์ไม่คลิก อีกทางเลือกคือ “ล้างกระดาน” จัดวางผัง “อำนาจใหม่” 2 หรือ 3 เสือบูรพา กับศึกวัดพลังที่ดำเนินมากว่าเดือน ผู้นำมั่นหน้าขายได้ มั่นใจไปต่อฉลุย ชนิดเริ่มไม่แคร์พรรคร่วม โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ เจอหักเต็มๆ ผู้นำบุกยึดโควตาลงไปถึงระดับกรม กองที่ว่างจากคิว “ปราบกบฏผู้กอง”
จนโดนกระแทกถามกลับถึงคำว่ามารยาท กับการเมืองตำรับลุง ช่วงเกมบุก ทุบไม่ยั้ง ไม่ไว้ไมตรี
ขณะที่สัมพันธภาพค่ายภูมิใจไทยก็ติ๊ดชึ่งผ่อนหนัก-เบาเป็นจุดไป บางจุดส่อว่าต้องประลองกำลังเดือด แต่บางโปรเจกต์หลับหูหลับตาในคิวคุณคนกันเองขอมา
7 ปีผันผ่าน วิทยายุทธ์ผู้นำแก่กล้า ชั้นเชิงล้ำขึ้นเยอะ.
ทีมข่าวการเมือง