“ปูน ทะลุฟ้า” ใส่ “กําไลอีเอ็ม” ไล่นายกฯ ร่วมเครือข่ายรามฯ

เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยมาตามนัด จัดกิจกรรม 16 กันยา พิพากษาประยุทธ์ ฮือฮา “ปูน ทะลุฟ้า” สวมกำไลอีเอ็มขึ้นปราศรัยสับกระบวนการยุติธรรมไทย “เต้น” แกนนำ นปช.เปิดเส้นทาง “ขับรถชนรถถัง 19 ก.ย.” เป้าหมายอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ชูธงแดงแฮชแท็กไล่นายกฯเป็นสัญลักษณ์ จับตา “เต้ บูรณพนธ์” หลังประกาศนำ “อาชีวะปกป้องสถาบัน” จัดกิจกรรมใกล้เส้นทางคาร์ม็อบ นายกฯเมินกระทู้ สามเหลี่ยมดินแดงเดือด โวย คฝ.ไล่ล่าเกินเลยหลักสากล ผบช.น.ยันทำตามกฎหมาย 2 สาวโร่ร้อง ผบ.ตร. เจอ คฝ. รุมยำสลบเหมือด ทั้งที่ยกมือไหว้ไม่เกี่ยวข้อง ศาลยกคำร้อง สน.ทุ่งสองห้อง ขอเพิกถอนประกัน 17 ผู้ชุมนุมปิด บช.ปส.อ้างเหตุไปกดดันที่ สน.ทุ่งสองห้องต่อ ศาลชี้ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ให้ถอนประกันไผ่ ดาวดิน

กรณีการเคลื่อนไหวกลุ่มมวลชนเครือข่ายต่างๆที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ถูกกล่าวหาบริหารงานผิดพลาดในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากโควิด-19 โดยวันนี้เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมที่สกายวอล์ก ในเวลาบ่ายสามโมง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ก.ย. ที่ลานสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายนันทพงศ์ ปานมาศ และนายกฤษณะ ไก่แก้ว นัดหมายชุมนุม “16 กันยายน พิพากษาประยุทธ์ จันทร์โอชา พิพากษาโทษ ให้กับนายกรัฐมนตรีที่ห่วยที่สุดในโลก” ก่อนหน้าการชุมนุมจะเริ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดคัดกรองทางขึ้นลงสกายวอล์กโดยรอบเพื่อตรวจกระเป๋าผู้ที่จะเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม สกัดการนำอาวุธเข้ามาก่อเหตุไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ มีการแสดงดนตรีของวงศิลปินไพร่ของนายโชคดี ร่มพฤกษ์ ระหว่างรอมวลชนวัยรุ่นทยอยเข้าร่วมกิจกรรมขับไล่นายกรัฐมนตรี ที่จะมีละครเชิงสัญลักษณ์พิพากษานายกฯในช่วงเย็น

นายนันทพงศ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศผิดพลาดทำให้มีประชาชนล้มตายทั้งจากโควิด-19 และพิษเศรษฐกิจ ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรหมื่นศพ วันใดหมดอำนาจ หรือมีการเลือกตั้งใหม่สมัยหน้า เราจะต้องไม่เลือกพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย

กระทั่งเวลา 16.30 น. บรรยากาศการชุมนุม เริ่มคึกคัก มีการนำผืนผ้าดิบขาวมาปูเพื่อให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมร่วมเขียนข้อความในใจถึงแกนนำราษฎรที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ นอกจากนี้ มีการนำหุ่นจำลองทำจากผ้าดิบขาวคล้ายศพผู้เสียชีวิตมาแขวนขอบระเบียงสกายวอล์กห้อยลงไปในอากาศ คู่กับภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ประจานความล้มเหลวแก้ปัญหา โควิด-19 ให้คนที่ผ่านไปมาเห็น ขณะที่เวทีปราศรัยชั่วคราวของทางกลุ่ม มีเยาวชนสลับขึ้นปราศรัย ที่สร้างความฮือฮาคือนายธนาพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า สวมกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้ามาร่วมปราศรัยด้วย เนื้อหาโจมตีศาลและกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรง พร้อมยืนยันไม่ลดเพดานข้อเรียกร้อง

ขณะเดียวกัน มีกลุ่มจากไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทยมาร่วมปราศรัย กระทั่งเวลา 18.35 น. มีการแสดงละครใบ้ของกลุ่มเครือข่ายรามคำแหง ประกอบเพลงชื่อ “เพลงปีศาจ” เนื้อหาสื่อถึงเผด็จการและศักดินา ที่กดขี่ประชาชน สุดท้ายถูกประชาชนลุกขึ้นมาสู้และโค่นล้มผู้กดขี่พิพากษาลงโทษได้สำเร็จ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 18.40 น.

วันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว แจงเส้นทางคาร์ม็อบ 19 ก.ย. ขับรถยนต์ชนรถถัง ว่า 14.00 น.นัดรวมตัวที่บริเวณแยกอโศก จากนั้นจะมุ่งหน้าถนนรัชดาฯ แยกพระราม 4 สาทรเหนือ ถนนนราธิวาส ถนนพระราม 3 ข้ามสะพานกรุงเทพ เข้าถนนจรัญ สนิทวงศ์ บรมราชชนนี ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า เข้าถนนราชดำเนินกลาง สิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทั้งนี้ แกนนำ นปช.ระบุว่าจะเตรียมธงสีแดงข้อความ “#ไล่ประยุทธ์” มาแจกให้รถทุกคันที่เข้าร่วมเพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์เดียวกัน

ขณะที่กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ที่นำโดยนายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือเต้ บูรณพนธ์ เครือข่าย มวลชนตรงข้าม โพสต์ข้อความเชิญชวนแนวร่วม จัดกิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติ 2 รัชกาล พร้อมใจแสดงความจงรักภักดี เริ่มเวลา 16.00 น. จากแยก จอมทอง สิ้นสุดที่สะพานพุทธยอดฟ้า พระบรม ราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันและการ์ดโรนินฝั่งธนของม็อบราษฎร หวิดปะทะกันหลังกลุ่มอาชีวะปกป้อง สถาบันนัดเดินเทิดพระเกียรติจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปศาลฎีกา ขณะนั้นมีการจัดกิจกรรมของเครือข่ายม็อบราษฎรอยู่

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 10.45 น. วันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณากระทู้ถามสด เรื่องสถานการณ์การชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ของนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ถามนายก รัฐมนตรี นายกฯมอบหมายให้ รมช.กลาโหม ตอบแทน แต่ รมช.กลาโหม ติดภารกิจเช่นกัน

นายประเดิมชัยได้ฝากคำถามไว้ว่า บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ประชาชนออกมาเรียกร้องถึงรัฐบาล ถึงนายกฯเกือบทุกเย็น ต้องการให้นายกฯ หันมาตั้งใจฟัง ตั้งโต๊ะเจรจาหาทางออก แต่ไม่ได้รับความสนใจ ซ้ำยังนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามหลักสากล ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ไม่ใช่แค่ปราบปรามเฉพาะผู้ชุมนุม ผู้อยู่อาศัยแถวนั้นก็ได้รับผลกระทบ ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) กลุ่มนี้ ดูหนังฝรั่งมากเกินไปหรือไม่ ใช้ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไล่ล่า ขับชนคนก็ยังมีปรากฏให้เห็น แต่ยังไม่มีคำตอบจากผู้รับผิดชอบ หรือจากปากนายกฯ แม้สักคำเดียวว่าจะรับผิดชอบอย่างไร ขอฝากไปถึงนายกฯ สั่งการให้ คฝ. หรือ ผบ.ตร. ผบช.น. ใช้วิธีการตามหลักสากล ไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน กลุ่มผู้ชุมนุมเขาหนี คฝ.ขึ้นไปบนแฟลตดินแดง เจ้าหน้าที่ก็ยังไล่ล่า ยิงทั้งแก๊สน้ำตา กระสุนยางขึ้นไป อยากถามนายกฯว่าใช้เงิน 200 กว่าล้านบาทในปี 2563 ไปซื้อปืนกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนมาอีก 75,000 กระบอกมาทำไม แทนที่จะใช้เงินนี้ไปดูแลเรื่องโควิด-19

ขณะที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวว่า หากเจ้าหน้าที่ คฝ.กระทำการเกินกว่าเหตุ เจ้าหน้าที่คนนั้นต้องรับผิดชอบเองไม่เกี่ยวกับต้นสังกัดว่า ในภาพรวมปัจจุบันมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การปฏิบัติหน้าที่ของ คฝ.ที่บริเวณแยกดินแดงปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมาย หากการชุมนุมทำให้เกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ และประชาชนบริเวณใกล้เคียง ใช้อาวุธต่างๆ เผาทำลายทรัพย์สินของราชการและส่วนรวม เจ้าหน้าที่ต้องเข้าบังคับใช้กฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ใช้เพียงเครื่องมือที่ได้รับการอนุญาตจากคณะรัฐมนตรี มีขั้นตอนการปฏิบัติและไม่ถึงขั้นทำให้เสียชีวิต ส่วนกรณีมีผู้เสียหายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมได้รับผลกระทบสามารถใช้สิทธิ์ร้องเรียนตามกฎหมายได้

ไล่เลี่ยกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ สมาชิกพรรคเพื่อไทย นำ 2 ผู้เสียหายที่บาดเจ็บจากการถูก คฝ.ทำร้ายบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง วันที่ 11 ก.ย.เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มี พ.ต.อ.ธวัช สิทธิกิจโยธิน รอง ผบก.สส.บช.สทส. นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นผู้รับเรื่อง ด้านผู้เสียหายเป็นหญิงทั้งคู่ร่วมกันเผยว่า หลังเลิกงานเดินทางกลับที่พักย่านสามเหลี่ยมดินแดง ขณะขี่รถ จยย.มีเพื่อนซ้อนท้าย 1 คน ผ่านซอยหมอเหล็ง ใต้ทางด่วน มีตำรวจ คฝ.ยืนอยู่ 5-10 คน เข้ามาล้อมรถใช้กระบองทุบตี ใช้เท้าเตะ แม้พยายามยกมือไหว้บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม กำลังจะกลับบ้าน แต่ คฝ.ไม่ฟัง ถูกตีจนสลบ ศีรษะเย็บ 6 เข็ม ร่างกายมีรอยฟกช้ำ ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานรัฐเข้าให้การช่วยเหลือ ตอนนี้ยังมีอาการผวา หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้เสียหายอีกรายคนซ้อนท้ายบาดเจ็บมีร่องรอยถูกทำร้ายบริเวณแขน ขา และตา

ส่วนที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลอ่านคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน กับพวก อีก 17 คน คดีที่พนักงานสอบสวนยื่นฝากขังนายจิตริน พลาก้าน กับพวกรวม 29 คน (มีนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา เป็นผู้ต้องหาที่ 27 ในสำนวนคำร้องดังกล่าว) ในความผิดฐานร่วมกันพยายามข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เหตุเกิดที่หน้ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เมื่อต้นเดือน ส.ค.64 ศาลพิจารณาตามคำร้อง

แต่ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวน พ.ต.ต.วิศรุตภูมิ ชูประยูร สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง ได้ความว่า หลังจากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา 29 คนในคดีนี้ไปทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาจากสถานที่ควบคุมตัวมาที่ สน. ทุ่งสองห้อง ตามขั้นตอนการปล่อยตัวและเสียค่าปรับเพื่อให้คืนรถที่ถูกยึดไว้ แต่มีกลุ่มคนจำนวนมากมาให้กำลังใจ มีรถติดตั้งเครื่องขยายเสียง แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้ง 17 คน (ยกเว้นนายไผ่) มีส่วนร่วมนำป้ายผ้าที่มีคำว่าประยุทธ์ออกไปมาติดไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง สาดสีที่ป้าย สน.ทุ่งสองห้อง และนำแผงกั้นเหล็กไปทำเป็นประติมากรรม เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่าทั้ง 17 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว ยังรับฟังไม่ได้ตามคำร้อง เว้นผู้ต้องหาที่ 27 หรือนายไผ่ ดาวดิน ให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราว และออกหมายขัง (ขังอยู่ที่ทัณฑ สถานบำบัดพิเศษกลาง) สำหรับผู้ต้องหาอื่นให้ยก